คอลัมน์ “ตอดทุกเรื่อง” โดย “หญิงตอด”
เชื่อว่าทุกคนยังจำกรณีดราม่าของ "ซ้อต่าย" กรุณา ชิดชอบ ภรรยา เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คอมเมนต์แขวะทหารเกณฑ์ 1 นาย ว่าเป็น "เด็กเส้น ไม่ต้องตัดผมแถมลาไปแต่งงานได้ด้วย" ทำให้มีการโยงไปถึง "เจ้ามุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา ที่เพิ่งเข้าพิธีวิวาห์ไปหมาดๆ เมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา แต่งานนี้ดาวยิงทีมชาติไทยไม่ได้ออกมาตอบโต้ มีเพียงแฟนสาว "บีบี" ภูษิตา พลรักษ์ ที่ออกมาโพสต์รูปปากในอินสตาแกรม พร้อมแคปชันเด็ด ทำนองว่า มีปาก ควรเก็บไว้พูดแต่สิ่งดีๆ เถอะค๊าาาา
รวมทั้งวลีเด็ด "เจอกัน สน.แสมดำ" หลายคนคงนึกถึงหน้า "เอ้" ทศพร ศรีเรือง ขึ้นมาทันที เพราะเคยตกเป็น “ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์” ในโลกออนไลน์ หลังจากเจ้าตัวถูกวิจารณ์ฟอร์มการเล่นในเชิงไม่สร้างสรรค์ จนต้องออกมาตัดพ้อในเฟซบุ๊คว่าทำเต็มที่แล้ว จนมีเพจดังนำไปล้อเลียนทำให้ เจ้าเอ้ เสียหาย เรื่องบานปลายต้องไปแจ้งความเอาผิดเพจดังกล่าวไว้ที่ สน.แสมดำ ร้อนถึงภรรยาสาวคนสวย "เมย์" สริญญา ณรงค์ฤทธิคุณ ออกมาอธิบายถึงการทุ่มเทในหน้าที่ของสามีให้แฟนบอลเข้าใจด้วยตัวเองอีกด้วย
จึงเป็นที่ข้องใจของ "หญิงตอด" ว่าทั้งหมดที่กล่าวมานั้น คือ "หน้าที่" ของการที่ได้ชื่อว่าเป็น WAGsนักบอลหรือไม่ จนได้ไปจับเข่าคุยกับ พี่เมย์ อดีตนักข่าวสาวไฮคิกเกอร์ หวานใจของ ทศพร ศรีเรือง ซึ่งเจ้าหล่อนก็ยอมรับว่าปกติจะไม่ค่อยพูดอะไรที่เป็นการเข้าข้างสามีกล้ามปูมากนัก แต่เพราะคว่ำหวอดอยู่ในวงการลูกหนังจึงมีมุมมองฟุตบอลต่างจากแฟนบอลทั่วไปที่ใส่อินเนอร์ในการเชียร์จนมองไม่เห็นว่าแท้จริงแล้วจุดบอดในแต่ละแมตซ์คืออะไร อย่างในกรณีของ เจ้าเอ้ กลับถูกมองว่าการเสียประตูเกิดจากความผิดพลาดของผู้รักษาประตูอย่างเดียว จนทำให้ต้นสังกัดอยู่ในที่นั่งลำบากเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา
แน่นอนว่าการที่เป็นแฟน หรือ สามี-ภรรยา จะต้องมีการปรึกษาหารือกัน และหน้าที่ของสาวข้างกายหนุ่มๆ คือต้องให้คำปรึกษา และช่วยดึงความมั่นใจก่อนลงสนาม ซ้ำยังต้องมานั่งปลอบใจเวลาาที่ผลงานออกมาไม่ดี ซึ่งวิธีลดความกดดันของนักบอลอย่างหนึ่งคือการไม่เปิดรับกระแสวิจารณ์ในโลกโซเชียล เพื่อจะได้มุ่งมั่นทำหน้าที่ในสนาม แต่ก็จะมีคนใกล้ชิดที่มักนำคำติติงต่างๆ มาบอกต่อผ่านแฟนสาวแทน เพราะไม่กล้าพูดกับนักเตะโดยตรง ทำให้บางคนรับไม่ได้กับคำวิจารณ์ของแฟนบอลที่เจตนาต่อว่านักเตะอย่างเดียว ทั้งที่ไม่รู้ถึงปัญหาตื้นลึกหนาบาง จนเป็นเหตุให้ออกมาเป็นช้างเท้าหน้าก่อนหนุ่มๆ นั่นเอง
แม้การออกมาตอบโต้เปรียบเสมือนการแก้ตัว แต่ก็ต้องยอมรับ "ใจเขา ใจเรา" ด้วย คงไม่มีใครทนให้คนอื่นมาด่าอย่างนิ่งนอนใจ ฉะนั้นเมื่อนักเตะไม่กล้าพูดก็ต้องเป็นหน้าที่ของสาวๆ นี่แหละต้องคอยปกป้องคนของตัวเอง ที่เหลือก็ต้องเป็นหน้าที่ของแฟนบอลว่าจะแยกแยะคำว่า “อธิบาย” กับ “แก้ตัว” ได้หรือไม่
