คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน ราชวังสัน
“เราจะไม่พูดในสิ่งที่คิดว่า คุณจะถูกใจ แต่เราจะพูดในสิ่งที่ มันถูกต้องและเป็นความจริง” “รวมความแตกต่างเป็นหนึ่งเดียว” ทั้งสองข้อความนี้เป็นคำที่อธิบายความเป็น สายเลือดบอลไทย รายการโทรทัศน์ที่ว่ากันด้วยเรื่องฟุตบอลไทย หยิบจับทุกประเด็นที่เกิดขึ้นมาวิพากษ์วิจารณ์กันตรงๆ ค่อนข้างดุดัน ตามทัศนะของพิธีกรแต่ละคนที่อยู่ต่างขั้วกัน คืออยู่คนละฝั่ง เชียร์คนละฝ่าย โดยคำนึงถึงความถูกต้องและเป็นไปตามข้อมูลเบื้องลึกเรื่องจริงที่เกิดขึ้นที่แต่ละคนได้รับรู้มา มากกว่าที่จะไปมัวพูดแบบออกตัวเพราะกลัวคนไม่รัก
วรเทพ มากโภคา เจ้าของนามปากกา บี บางปะกง หนึ่งในพิธีกรหลักที่อยู่กับรายการนี้มาตั้งแต่เริ่มต้นพร้อมๆกับผม เขาเป็นคอลัมนิสท์ ไทยรัฐ หนังสือรายวันยักษ์ใหญ่ของไทยที่เกาะติดเรื่องฟุตบอลไทย อยู่ใกล้ชิดและล่วงรู้ข้อมูลเบื้องลึกมากมายที่ค่อนข้างจะลับเฉพาะ ไม่ได้ถูกเปิดเผยออกสู่สาธารณะ ซึ่งหลายเรื่องราวที่ บี ได้รับรู้นั้นใครได้ยินจะต้องตกตะลึงกับความเป็นไปในวงการนี้จริงๆ บี รู้ดีว่าพูดอย่างไรผู้ชมถึงจะถูกใจ แต่ป่วยการ ผู้ชมไม่เห็นจะได้สารประโยชน์อันใด และวงการฟุตบอลไม่อาจพัฒนา ดังนั้น เขาจึงเลือกที่จะพูดในสิ่งที่มันถูกต้องและเป็นความจริงมากกว่า
สำหรับพิธีกรหญิงนั้น เราก็เคยมีมาหลายคนแล้ว แต่ที่คิดว่าลงตัวที่เดียวก็ต้อง น้องเอก นิตยาพร ธาราสุข ซึ่งผมไปคว้าตัวมาตั้งแต่เธอยังเป็นเลขานุการสโมสรเพื่อนตำรวจ ก็ด้วยต้องการพิธีกรหญิงที่มีความรู้เรื่องฟุตบอลไทยจริงๆ ไม่เอาประเภทรูปร่างหน้าตาดูดี แต่ไม่มีความรู้เลย แล้วต่อมา น้องเอก ย้ายไปเป็นผู้บริหารสโมสรฟุตบอลชัยนาท ฮอร์นบิล ทีมในลีกสูงสุดของไทย ยิ่งได้ความรู้ประสบการณ์หนักเข้าไปอีก เรื่องของกฎ กติกา วิธีปฏิบัติ สรรพสิ่งที่สโมสรฟุตบอลอาชีพต้องรู้ มันก็อยู่ในหัวหมด ซึ่งหลากหลายเรื่องราวนั้น นักข่าวหรือบุคคลภายนอกไม่ทราบหรอกครับ
ส่วนตัวผม นอกจากเขียนคอลัมน์กีฬาใน ผู้จัดการ ก็เคยเป็นผู้ประกาศข่าวมาก่อน ทั้งข่าวกีฬา ข่าวหลักภาคค่ำ ถูกบังคับให้นั่งตัวตรง รายงานข่าวแบบหุ่นยนต์ อย่าสะแอ๋งแสดงความคิดเห็น จึงค่อนข้างอึดอัด เพราะเคยใช้ชีวิตอยู่ในทวีปยุโรปที่มีอิสระอย่างมากทางความคิดมายาวนานร่วม 10 ปี การผลิตรายการที่ตนเองสามารถใส่ความคิดเห็นของตนเองและของพิธีกรร่วมรายการที่อาจสวนทางกัน นี่จัดว่าเป็นความฝันของผมเลย แล้วหากดูให้ดีก็จะเห็นว่า สายเลือดบอลไทย มักมีการพูดถึงเรื่องราว สรรพสิ่งต่างๆในชีวิตมากมาย อันนี้หมายความว่า ความจริงแล้ว สายเลือดบอลไทย ไม่ใช่เพียงรายการฟุตบอลไทยธรรมดาๆ แต่มันคือชีวิตกับสิ่งรอบตัวผ่านฟุตบอลไทยนั่นเอง
สายเลือดบอลไทย ผลิตโดย ยูโรทอม ในยุคแรกอยู่กับช่องทีวีกีฬา ผมจำได้ว่าตอนแรกสุดนั้นเริ่มออกอากาศตั้งแต่วันที่ 21 สิงหาคม 2552 ตอนนั้นฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีกเป็นช่วงปลายฤดูกาล 2009 ดำเนินรายการอยู่ได้ประมาณ 1 ปี 8 เดือนก็ย้ายช่องมาที่ MCOT1 คราวนี้ยิงยาวโลด 4 ปี 8 เดือน จนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา อันนี้ต้องขอขอบพระคุณทางช่องและเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ให้ความร่วมมือกันมาอย่างดียิ่ง อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 ช่องที่กล่าวมานั้นต้องชมผ่านจานรับสัญญาณดาวเทียม แม้กระนั้นก็ยังมีแฟนรายการติดตามชมเป็นจำนวนมากตลอดมา
ในปัจจุบัน ยูโรทอม ได้เล็งเห็นว่า บัดนี้ สถานีโทรทัศน์ภาคพื้นดิน ซึ่งเป็นโทรทัศน์ระบบดิจิต้อลแบบให้บริการฟรี หรือ Free TV ได้เริ่มดำเนินการมาระยะหนึ่งได้อย่างมั่นคงแล้ว ผู้ชมทั่วไปสามารถเข้าถึงได้อย่างสะดวก จึงขอย้าย สายเลือดบอลไทย มาอยู่กับฟรีทีวี แฟนรายการจะได้รับชมง่ายขึ้น ซึ่งความเข้มข้นไม่มีเปลี่ยนแปลง และท่านสามารถเข้าไปชมรายการย้อนหลังได้ทาง www.youtube.com/bloodballthaifan และสื่อสารกันได้ที่ www.facebook.com/bloodballthaifan นับแต่นี้ ติดตามชม สายเลือดบอลไทย ได้ทาง SPRING NEWS ช่อง 19 ทุกวันเสาร์ 11.00 น. 2 ชั่วโมงเต็ม เริ่มวันเสาร์ที่ 5 มีนาคมนี้ครับ
“เราจะไม่พูดในสิ่งที่คิดว่า คุณจะถูกใจ แต่เราจะพูดในสิ่งที่ มันถูกต้องและเป็นความจริง” “รวมความแตกต่างเป็นหนึ่งเดียว” ทั้งสองข้อความนี้เป็นคำที่อธิบายความเป็น สายเลือดบอลไทย รายการโทรทัศน์ที่ว่ากันด้วยเรื่องฟุตบอลไทย หยิบจับทุกประเด็นที่เกิดขึ้นมาวิพากษ์วิจารณ์กันตรงๆ ค่อนข้างดุดัน ตามทัศนะของพิธีกรแต่ละคนที่อยู่ต่างขั้วกัน คืออยู่คนละฝั่ง เชียร์คนละฝ่าย โดยคำนึงถึงความถูกต้องและเป็นไปตามข้อมูลเบื้องลึกเรื่องจริงที่เกิดขึ้นที่แต่ละคนได้รับรู้มา มากกว่าที่จะไปมัวพูดแบบออกตัวเพราะกลัวคนไม่รัก
วรเทพ มากโภคา เจ้าของนามปากกา บี บางปะกง หนึ่งในพิธีกรหลักที่อยู่กับรายการนี้มาตั้งแต่เริ่มต้นพร้อมๆกับผม เขาเป็นคอลัมนิสท์ ไทยรัฐ หนังสือรายวันยักษ์ใหญ่ของไทยที่เกาะติดเรื่องฟุตบอลไทย อยู่ใกล้ชิดและล่วงรู้ข้อมูลเบื้องลึกมากมายที่ค่อนข้างจะลับเฉพาะ ไม่ได้ถูกเปิดเผยออกสู่สาธารณะ ซึ่งหลายเรื่องราวที่ บี ได้รับรู้นั้นใครได้ยินจะต้องตกตะลึงกับความเป็นไปในวงการนี้จริงๆ บี รู้ดีว่าพูดอย่างไรผู้ชมถึงจะถูกใจ แต่ป่วยการ ผู้ชมไม่เห็นจะได้สารประโยชน์อันใด และวงการฟุตบอลไม่อาจพัฒนา ดังนั้น เขาจึงเลือกที่จะพูดในสิ่งที่มันถูกต้องและเป็นความจริงมากกว่า
สำหรับพิธีกรหญิงนั้น เราก็เคยมีมาหลายคนแล้ว แต่ที่คิดว่าลงตัวที่เดียวก็ต้อง น้องเอก นิตยาพร ธาราสุข ซึ่งผมไปคว้าตัวมาตั้งแต่เธอยังเป็นเลขานุการสโมสรเพื่อนตำรวจ ก็ด้วยต้องการพิธีกรหญิงที่มีความรู้เรื่องฟุตบอลไทยจริงๆ ไม่เอาประเภทรูปร่างหน้าตาดูดี แต่ไม่มีความรู้เลย แล้วต่อมา น้องเอก ย้ายไปเป็นผู้บริหารสโมสรฟุตบอลชัยนาท ฮอร์นบิล ทีมในลีกสูงสุดของไทย ยิ่งได้ความรู้ประสบการณ์หนักเข้าไปอีก เรื่องของกฎ กติกา วิธีปฏิบัติ สรรพสิ่งที่สโมสรฟุตบอลอาชีพต้องรู้ มันก็อยู่ในหัวหมด ซึ่งหลากหลายเรื่องราวนั้น นักข่าวหรือบุคคลภายนอกไม่ทราบหรอกครับ
ส่วนตัวผม นอกจากเขียนคอลัมน์กีฬาใน ผู้จัดการ ก็เคยเป็นผู้ประกาศข่าวมาก่อน ทั้งข่าวกีฬา ข่าวหลักภาคค่ำ ถูกบังคับให้นั่งตัวตรง รายงานข่าวแบบหุ่นยนต์ อย่าสะแอ๋งแสดงความคิดเห็น จึงค่อนข้างอึดอัด เพราะเคยใช้ชีวิตอยู่ในทวีปยุโรปที่มีอิสระอย่างมากทางความคิดมายาวนานร่วม 10 ปี การผลิตรายการที่ตนเองสามารถใส่ความคิดเห็นของตนเองและของพิธีกรร่วมรายการที่อาจสวนทางกัน นี่จัดว่าเป็นความฝันของผมเลย แล้วหากดูให้ดีก็จะเห็นว่า สายเลือดบอลไทย มักมีการพูดถึงเรื่องราว สรรพสิ่งต่างๆในชีวิตมากมาย อันนี้หมายความว่า ความจริงแล้ว สายเลือดบอลไทย ไม่ใช่เพียงรายการฟุตบอลไทยธรรมดาๆ แต่มันคือชีวิตกับสิ่งรอบตัวผ่านฟุตบอลไทยนั่นเอง
สายเลือดบอลไทย ผลิตโดย ยูโรทอม ในยุคแรกอยู่กับช่องทีวีกีฬา ผมจำได้ว่าตอนแรกสุดนั้นเริ่มออกอากาศตั้งแต่วันที่ 21 สิงหาคม 2552 ตอนนั้นฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีกเป็นช่วงปลายฤดูกาล 2009 ดำเนินรายการอยู่ได้ประมาณ 1 ปี 8 เดือนก็ย้ายช่องมาที่ MCOT1 คราวนี้ยิงยาวโลด 4 ปี 8 เดือน จนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา อันนี้ต้องขอขอบพระคุณทางช่องและเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ให้ความร่วมมือกันมาอย่างดียิ่ง อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 ช่องที่กล่าวมานั้นต้องชมผ่านจานรับสัญญาณดาวเทียม แม้กระนั้นก็ยังมีแฟนรายการติดตามชมเป็นจำนวนมากตลอดมา
ในปัจจุบัน ยูโรทอม ได้เล็งเห็นว่า บัดนี้ สถานีโทรทัศน์ภาคพื้นดิน ซึ่งเป็นโทรทัศน์ระบบดิจิต้อลแบบให้บริการฟรี หรือ Free TV ได้เริ่มดำเนินการมาระยะหนึ่งได้อย่างมั่นคงแล้ว ผู้ชมทั่วไปสามารถเข้าถึงได้อย่างสะดวก จึงขอย้าย สายเลือดบอลไทย มาอยู่กับฟรีทีวี แฟนรายการจะได้รับชมง่ายขึ้น ซึ่งความเข้มข้นไม่มีเปลี่ยนแปลง และท่านสามารถเข้าไปชมรายการย้อนหลังได้ทาง www.youtube.com/bloodballthaifan และสื่อสารกันได้ที่ www.facebook.com/bloodballthaifan นับแต่นี้ ติดตามชม สายเลือดบอลไทย ได้ทาง SPRING NEWS ช่อง 19 ทุกวันเสาร์ 11.00 น. 2 ชั่วโมงเต็ม เริ่มวันเสาร์ที่ 5 มีนาคมนี้ครับ