"บิ๊กหอย" ธวัชชัย สัจจกุล ผู้สมัครชิงนายกสมาคมฟุตบอลฯ ที่เพิ่งอกหัก ยอมถอยถอนฟ้องคณะกรรมการกลางฯ หลังได้เห็นหนังสือฉบับล่าสุดจาก "ฟีฟา" ว่าหากไม่ถอนฟ้องสมาคมลูกหนังไทยอาจโดนแบน
มาร์คัส คัตต์เนอร์ รักษาการเลขาธิการสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ “ฟีฟา” ส่งหนังสือถึง “เสธ.โต” พล.ร.อ.สุรวุฒิ มหารมณ์ ประธานคณะกรรมการกลาง สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เมื่อวันพฤสบดีที่ 11 กุมภาพันธ์ 2559 โดยเนื้อหาแจ้งคณะกรรมการฉุกเฉินของ ฟีฟา ได้รับทราบเรื่องสโมสรสมาชิกบางแห่งยื่นเรื่องฟ้องร้องคัดค้านการทำหน้าที่ของคณะกรรมการกลางต่อศาลประเทศไทย ซึ่งจากข้อมูลที่ได้รับมา ทางคณะกรรมการฉุกเฉินฯ าจึงตัดสินใจยืนมติเดิมที่ให้คณะกรรมการกลางดำเนินการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยคนใหม่ ให้ลุล่วงภายในวันที่ 15 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการกลาง
โดยหนังสือดังกล่าวระบุว่า ตามกฎของ ฟีฟา ไม่อนุญาตให้สมาคมฟุตบอลชาติสมาชิก รวมถึงสโมสรสมาชิก คณะกรรมการบริหารลีก ผู้เล่น เจ้าหน้าที่ หรือบุคลากรอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง นำเรื่องเข้าสู่ชั้นศาล ยกเว้นแต่จะได้รับคำสั่งจากฟีฟาโดยตรงเท่านั้น
อีกทั้งตามระเบียบของฟีฟา สมาคมฟุตบอลชาติสมาชิกจะต้องดำเนินการลงโทษสโมสรสมาชิก ผู้เล่น เจ้าหน้าที่ หรือผู้เกี่ยวข้องที่ละเมิดกฎดังกล่าว รวมทั้งควบคุมดูแลและบริหารจัดการสมาชิกให้ปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด หากไม่ดำเนินการ ทางจะต้องดำเนินการลงโทษสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยที่ไม่สามารถควบคุมสโมสรสมาชิกในกรณีนี้ด้วย และอาจส่งผลให้ทีมสโมสรหรือทีมชาติไทยโดนแบน
ซึ่งเมื่อวันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา "บิ๊กหอย" ธวัชชัย สัจจกุล หนึ่งในผู้ที่ไปยื่นฟ้องต่อศาล เผยแพร่หนังสือตอบกลับถึง ฟีฟา ยืนยันว่าตนจะไปดำเนินการถอนฟ้องในครั้งนี้ เนื่องจากที่ผ่านมาไม่เคยเห็นหนังสือจาก ฟีฟา มาก่อน แต่เมื่อมีหลักฐานยืนยัน ว่าสิ่งเหล่านี้ล้วนผิดกติกาของ ฟีฟา จึงพร้อมจะปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
อย่างไรก็ตามแม้ "บิ๊กหอย" จะยืนยันถอนฟ้อง ทว่ายังมีอีกหลายรายที่ยื่นฟ้องร้องต่อศาล ประกอบด้วย "รองแห้ว" พ.ต.ท.ชัยทรัพย์ ธรัช ฤทธิ์เต็ม ผู้สมัครชิงนายกสมาคมฟุตบอลฯ, นางอนงค์ ล่อใจ อดีตประธานสุราษฎร์ธานี เอฟซี ที่เป็นตัวแทน 3 ทีมภาคใต้ ได้แก่ ปัตตานี เอฟซี, พังงา เอฟซี, ยะลา ยูไนเต็ด และ พล.อ.จีระศักดิ์ บุตรเนียร ประธานสโมสรมุกดาหาร ลำโขง