xs
xsm
sm
md
lg

กรีฑาไทยเปิดตำรา ปั้นลูกครึ่งลุย “โอลิมปิก”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เบนนี่ โนนทะนำ ลูกครึ่งไทย-ไลบีเรีย
ผู้จัดการรายวัน 360 – ขณะนี้หลายสมาคมกีฬาของไทยกำลังมุ่งมั่นคว้าตั๋วไปแข่ง โอลิมปิก เกมส์ ครั้งที่ 31 ระหว่างวันที่ 5-21 สิงหาคม 2016 ที่นครริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล โดยในรายของกรีฑาถือว่าน่าสนใจไม่น้อย เพราะได้มาแล้ว 2 โควตาประเภทมาราธอนหญิงจาก เจน วงษ์วรโชติ กับ ณัฐธยาน์ เปี้ยวงศ์ แต่ยังไม่หยุดแค่นั้น พร้อมหวังว่าจะคว้าเพิ่มอีก 2-3 ที่นั่ง เพื่อโอกาสในการซิวเหรียญรางวัลให้มากที่สุด

นอกจากนี้ยังมีแผนพัฒนาดาวรุ่งเพื่อเตรัยมลุยโอลิมปิก 2020 โดยส่งทีมงานควานหาตัวนักกีฬาดาวรุ่งมาจากทุกจังหวัดจนได้เจอเพชรเม็ดงามมาร่วมฝึกซ้อมหลายคน อาทิ "เนย" จิรวรรณ ชูตระกูล ลูกครึ่งไทย-อเมริกัน วัย 15 ปี, เบนนี่ โนนทะนำ ลูกครึ่งสาวไทย-ไลบีเรีย อายุ 15 ปี และอเล็กซานดร้า เทียร์นี่ ลูกครึ่งไทย-แคนาดา อายุ 20 ปี ซึ่งสมาคมฯ ได้มอบหมายให้ ร.ต.อ.หญิง ลภัสภร ถาวรเจริญ เป็นผู้ดูแลนักกีฬาชุดนี้ทั้งหมด

โดยเจ้าของเหรียญทอง 4x100 เมตร เอเชียนเกมส์ 2010 เปิดเผยว่าเข้ามาช่วยดูแลเยาวชนของสมาคมฯ ตั้งแต่เลิกเล่น "หน้าที่หลักๆ ตอนนี้ได้ดูแลเยาวชนทั้งในเรื่องที่พัก การศึกษา ซึ่งนักกีฬาลูกครึ่งชุดนี้ไปเจอมาจากการแข่งขันกรีฑาดาวรุ่งที่ จ.นครราชสีมา ซึ่งทางอาจารย์ที่ดูแลน้องแจ้งมาทางสมาคมฯ ว่ามีเด็กลูกครึ่งรูปร่างดี ทาง "โค้ชแฝดใหญ่-เล็ก" สุรพงษ์ - ศุภวณัฎฐ์ อาริยะมงคล จึงติดต่อให้มาเก็บตัวอยู่ที่สมาคมฯ และจัดการให้ย้ายมาศึกษาอยู่ที่โรงเรียนธรรมศาสตร์ คลองหลวง ซึ่งอยู่ใกล้กับที่ฝึกซ้อม"

"โดยส่วนตัวมองว่า เนย มีทักษะการเคลื่อนที่ดี ประสาทสั่งการตอบสนองเร็ว การดึงแขน ยกเข่า เหมาะกับลงเล่นสปรินเตอร์ แต่ยังขาดความแข็งแรงจึงต้องสั่งสมประสบการณ์ ตอนนี้วางแผนให้ลงแข่งในระยะสั้น 100 ม., 200 ม. และวิ่งผลัด 4x100 ม. ส่วน เบนนี่ มีรูปร่างสูงใหญ่ และได้เปรียบในเรื่องมัดกล้ามเนื้อเมื่อเทียบกับเด็กไทยทั่วไปในรุ่นเดียวกัน เหมาะกับวิ่งระยะ 200 ม., 400 ม. และวิ่งข้ามรั้ว และอีกรายคือ อเล็กซานดร้า ตอนนี้ฝึกซ้อมที่แคนาดา และมีการติดต่อรายงานสถิติอยู่ตลอด" เจ้าของเหรียญทองกวางโจวเกมส์ กล่าว

ทั้งนี้ เบนนี่ โนนทะนำ ลูกครึ่งสาวไทย-ไลบีเรีย ยอมรับว่าชื่นชอบการวิ่งมาตั้งแต่สมัยเรียนอนุบาล จนเข้ามาเก็บตัวกับสมาคมฯ ตั้งแต่อายุ 13 ปี "ส่วนตัวชื่นชอบการวิ่ง 400 เมตร เพราะร่างกายตนเองจะสตาร์ทช้า รวมทั้งชื่นชอบเจ้าของแชมป์ซีเกมส์หลายสมัย อย่าง ตรีวดี ยงพันธ์ ที่ฝึกซ้อมอยู่ด้วยกัน ซึ่งช่วยแนะนำเทคนิค การแกว่งแขน, ยืดขา ซึ่งตนเองก็เชื่อฟังทั้งโค้ชและรุ่นพี่เนื่องจากต้องการมีชื่อติดเยาวชนเอเชียในปีนี้ เพื่อต่อยอดความฝันลุยทีมชาติชุดใหญ่ต่อไป"

ขณะที่ "เนย" จิรวรรณ ชูตระกูล เปิดเผยว่าเริ่มเล่นกรีฑาได้เพียง 1 ปี ก็ได้รับโอกาสให้เข้ามาฝึกซ้อมกับสมาคมฯ ทันที "ในช่วงแรกที่มาอยู่กรุงเทพฯ เพียงลำพัง รู้สึกเหงา และมักโทรศัพท์กลับไปหาแม่ว่าไม่ไหวแล้ว เนื่องจากซ้อมหนักมาก แต่ก็ยังได้รับกำลังใจอยู่เสมอ รวมทั้งปัจจุบันยังได้รุ่นพี่ ทัศพร วรรณกิจ และ จิระพงศ์ มีนาพระ ซึ่งเป็นนักกีฬาในดวงใจคอยดูแลและถ่ายทอดเทคนิคต่างๆ"

"นอกจากนี้ส่วนตัวยังตั้งเป้าหมายว่าอีก 2 ปีจะก้าวขึ้นไปติดทีมชาติชุดใหญ่ เพราะมีความตั้งใจที่จะหาเงินไปซื้อบ้านให้คุณแม่ เนื่องจากเหลือผู้ให้กำเนิดเพียงคนเดียวหลังจากที่ได้แยกทางกับคุณพ่อตั้งแต่ยังจำความไม่ได้ และจะเร่งพัฒนาตัวเองให้สามารถลุยโอลิมปิก 2020 ให้สมกับที่สมาคมฯ, โค้ชณีรนุช กล่อมดี และ โค้ชแฝดใหญ่-เล็ก ซึ่งเปรียบเสมือนพ่อของ นักกรีฑาทุกคนได้ฝากความหวังไว้" ลูกครึ่งสาวไทย-อเมริกัน กล่าว

ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าการตัดสินใจดึงลูกครึ่งเข้ามาเก็บตัวในสมาคมฯ เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างผลงานให้เป็นที่ยอมรับมากขึ้น เหมือนกับคู่แข่งในกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 28 ทีมกรีฑาฟิลิปปินส์ ส่งนักกีฬาลูกครึ่งลงชิงชัยและทำผลงานได้โดดเด่น กวาดแชมป์วิ่ง 100 ม.ชาย และวิ่งข้ามรั้ว 400 ม.ชาย รวมถึงลูกครึ่งฟิลิปปินส์-อเมริกัน ยังสามารถคว้าแชมป์วิ่ง 100 ม.หญิงมาครองได้อีก จึงมีโอกาสสูงที่บรรดาเด็กไทยชุดนี้จะสามารถใช้งานได้ทันซีเกมส์หนหน้า และทวงยิ่งใหญ่ของทีมชาติไทยกลับมา ก่อนต่อยอดสู่เวทีโลกต่อไป
เนย จิรวรรณ ชูตระกูล ลูกครึ่งไทย-อเมริกัน
ลภัสภร ถาวรเจริญ อดีตลดกรดทีมชาติไทยรับหน้าที่โค้ช
โค้ชแฝด สุรพงษ์ - ศุภวณัฎฐ์ อาริยะมงคล

กำลังโหลดความคิดเห็น