คอลัมน์ “ตอดทุกเรื่อง” โดย “หญิงตอด”
เป็นการเริ่มต้นพุทธศักราชใหม่ที่ร้อนแรงและยุ่งเหยิง สำหรับวงการกีฬาลูกกลมๆ ของไทย เพราะนอกจากฟุตบอลจะชุลมุมวุ่นวายกับเรื่องราวที่ยังคลายปมไม่ได้ ก็มีข่าวช็อควงการกีฬา หลังเจ้าพ่อวงการเทนนิสแห่งเมืองโคราชตกเก้าอี้นายกสมัยที่ 8 ไปแบบไม่น่าเชื่อ ทั้งที่ก่อนเลือกตั้งหลายฝ่าย รวมทั้งผู้สื่อข่าวต่างมั่นใจและประโคมข่าวว่าจะไม่มีใครสามารถมาเลื่อยขาเก้าอี้ที่แข็งแกร่งของนายกคนเดิมได้อย่างแน่นอน
ปรากฎว่ากลายเป็นคู่แข่งอดีตนักกีฬาทีมชาติ กลับคว้าคะแนนเสียงไว้วางใจจากสโมสรสมาชิกไปครองอย่างท่วมท้น แม้ผลการเลือกตั้งจะยังไม่ได้รับรอง เพราะมีการฟ้องร้องว่าพบข้อผิดสังเกตในการลงคะแนน ซึ่งส่อไปทางทุจริตและผิดข้อบังคับ พรบ.กีฬา 2558 ทำให้นายใหญ่การกีฬาแห่งประเทศไทยสั่งคณะกรรมการไปหาหลักฐานที่แน่นหนาพอจะทำให้การเลือกตั้งในครั้งนี้เป็นโมฆะภายใน 30 วัน
แต่เรื่องไม่ได้จบแค่นั้น เพราะจากการสืบสาวไปยังคนใกล้ชิดของกลุ่มขั้วอำนาจใหม่พบว่าพี่สาวของภรรยามีความเกี่ยวข้องสนิทสนมกับนักการเมืองขาใหญ่ในจังหวัดสุพรรณ ที่เคยคุมกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬามาอย่างยาวนาน และได้มีการปลูกถ่ายอวัยวะบางส่วนลงใน กกท. ซึ่งในยุคนี้ไม่ว่ามองไปทางไหนในบ้านหัวหมากก็ดูจะเต็มไปด้วยคนของเมืองม้าสีหมอกทั้งสิ้น
ทำให้มีแนวโน้มแบบเอนเอียงว่าจะมีการผนึกกำลังกับขั้วอำนาจใหม่ที่ชนะการเลือกตั้ง ซึ่งมีความคิดความอ่านไปในทิศทางเดียวกัน และเป็นไปได้ที่การเลือกตั้งนายกสมาคมเทนนิสครั้งนี้ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ จะตกเก้าอี้อย่างถาวร
แต่เหนืออื่นใดมีเสียงจากสมาชิกบางส่วนยอมรับว่าสาเหตุที่ตัดสินใจเลือกการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ มาจากการบริหารงานของกลุ่มขั้วอำนาจเดิมไม่ทั่วถึงสโมสรในต่างจังหวัด เพราะการพัฒนานักกีฬาและสิ่งแวดล้อมต่างๆ กระจุกอยู่แค่ในกรุงเทพมหานครและเมืองหัวหินซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนตัวของประมุขคนเดิม
ทำให้ทั้งนักกีฬาทีมชาติหรือเยาวชนของวงการเทนนิส ถูกคัดเลือกมาจากสโมสรที่สนิทสนมเป็นส่วนใหญ่ ประกอบกับผลงานของทีมชาติในปัจจุบันเริ่มถอยหลังลงคลอง หานักกีฬายากที่จะมาประทับรอยรุ่นพี่ ภราดร ศรีชาพันธุ์ หรือ แทมมารีน ธนสุกาญจน์ รวมทั้งไร้ความหวังที่จะติด 1 ใน 100 ของโลก เพราะมือ 1 ของไทยในตอนนี้ยังรั้งอันดับ 150 กว่าๆ จึงถือเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้สโมสรในต่างจังหวัดตัดสินใจเทคะแนนให้กับผู้ท้าชิงที่ดูเหมือนจะเข้ามาแก้ปัญหาในส่วนนี้ได้
ไม่ว่าผลจะออกมายังไง ก็ได้แต่หวังว่า 4 ปีหลังจากเข้ามารับตำแหน่ง เราจะได้เห็นนายกสมาคมเทนนิส พัฒนาวงการจนสร้างผลงานระดับโลกได้อีกครั้ง และมีรายการแข่งขันในประเทศให้แฟนๆ ได้ชมเหมือนเช่นเคย ส่วนผู้เล่นที่ตอนนี้ขาดช่วงขึ้นมาทดแทนรุ่นพี่นั้นดูเหมือนเป็นปัญหาที่ยากจะแก้ไข