วงการฟุตบอลไทยยังรอดโทษแบนจาก “ฟีฟา” หลังศาลปกครองจังหวัดนครศรีธรรมราช ยกฟ้องคำร้องอดีตประธาน สุราษฎร์ เอฟซี ส่งให้การเลือกตัวแทนลีกภูมิภาค 30 เสียง วันที่ 22 มกราคมนี้ดำเนินต่อไปได้
จากกรณีที่ นางอนงค์ ล่อใจ อดีตประธานสโมสร สุราษฎร์ธานี เอฟซี และเป็นตัวแทนของอีก 3 สโมสร ประกอบด้วย พังงา, ยะลา และ ปัตตานี ยื่นให้ศาลปกครองจังหวัดนครศรีธรรมราช ขอไต่สวนฉุกเฉิน กรณี กรรมการกลางตัดสิทธิ์การลงคะแนนเสียงเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย และขอให้มีคำสั่งคุ้มครองระงับการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในวันศุกร์ที่ 22 มกราคมนี้
ซึ่ง นายก่อเกียรติ อินทรัตน์ นายกสมาคมกีฬาจังหวัดสุราษฎร์ธานี ยืนยันว่า นางอนงค์ นั้น เป็นเพียงอดีตประธานสโมสร ไม่ได้มีอำนาจหน้าที่ดังกล่าวแล้ว จึงได้มอบหมายให้ตัวแทนสโมสรเป็นผู้ดำเนินการ เข้ายื่นคัดค้านการร้องศาลปกครองของ นางอนงค์ โดยถือว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย เนื่องจากในการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งนายกสมาคม ที่จะมีขึ้นในวันศุกร์นี้ ทางสมาคมกีฬาจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้มอบอำนาจให้ นายสมชาติ ประดิษฐพร ประธานสโมสรคนปัจจุบัน เป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งหลังจากที่ นางอนงค์ ยื่นหนังสือฟ้องต่อศาลปกครองนั้น ทางสมาคมได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ของสโมสรเป็นผู้เข้ายื่นชี้แจงคัดค้าน เพื่อไม่ให้ศาลปกครองประทับฟ้อง เพราะหากศาลปกครองประทับฟ้องก็อาจโดน “ฟีฟา” มีคำสั่งแบนประเทศไทยจากการแข่งขันทุกรายการทันที
ขณะที่ นายสมชาติ ประธานสโมสรคนปัจจุบัน เผยเช่นกันว่า นางอนงค์นั้นไม่ได้อยู่ในตำแหน่งประธานสโมสรแล้ว และมีเอกสารยืนยันการแต่งตั้งตนเองเป็นประธานเรียบร้อยแล้ว ซึ่งไม่สามารถยอมรับได้หากว่าวงการฟุตบอลไทยจะต้องมาถูกแบนเพียงเพราะมีผู้กล่าวอ้างเป็นประธานสโมสร สุราษฎร์ธานี เอฟซี
ซึ่งในที่สุดมีการอ่านคำตัดสิน ผลออกมาคือ ยกฟ้อง ทำให้การเลือกตั้งตัวแทนลีกภูมิภาค 30 เสียง ในวันศุกร์ที่ 22 มกราคมนี้ ยังคงดำเนินต่อไปได้ และไม่โดนแบนจาก “ฟีฟา” ด้วย