คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน ราชวังสัน
ฟีฟ่า คลับ เวิร์ลด์ คัพ (FIFA Club World Cup) ฟุตบอลชิงแช้มพ์สโมสรโลก รายการที่สำคัญที่สุดสำหรับสโมสรฟุตบอลที่ต้องการช่วงชิงความเป็นสุดยอดสโมสรของโลก วันนี้ เดินทางมาถึงจุดที่ อาลีบาบา (Alibaba) พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์หรือที่เราเรียกกันทั่วไปว่า อี-คอมเมิ้ร์ส (E-commerce) รายใหญ่ของ จีน มูลค่า 8 แสนล้านบาทเข้ามาเป็นผู้สนับสนุนรายใหญ่แล้ว
สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า เพิ่งประกาศยืนยันการเข้ามาสนับสนุนการแข่งขันฟุตบอลรายการนี้เมื่อวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมานี้เอง โดยทาง อาลีบาบา จะมาในนามของ อาลีบาบา อี-ออโต้ (Alibaba E-Auto) ยี่ห้อรถยนต์ที่ติดตั้งระบบอินเทอร์เน็ท อันเป็นธุรกิจแขนงหนึ่งของ อาลีบาบา กรุ๊พ ซึ่งมีระยะเวลาตั้งแต่ปี 2015 ถึง 2022 รวม 8 ปี
อาลีบาบา กรุ๊พ เริ่มก่อตั้งขึ้นในปี 1999 โดย แจ๊ค หม่า (Jack Ma) นักธุรกิจชาวจีนจาก หางโจว ที่มีวัยตอนนั้นเพียง 35 ปี จากเว็บไซ้ท์ที่เป็นช่องทางการเชื่อมโยงผู้ซื้อกับผู้ขายเข้าด้วยกัน แล้วขยายธุรกิจต่อไปอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการชำระเงินออนลายน์ ช้อปปิ้งออนลายน์ รายการโทรทัศน์ เว็บแปลภาษา หนังสือพิมพ์ออนลายน์ รวมแล้วหลายสิบธุรกิจ ซึ่งปัจจุบันเขากลายเป็นมหาเศรษฐีที่ได้ชื่อว่าร่ำรวยที่สุดในประเทศ และร่ำรวยเป็นอันดับ 18 ของโลกด้วยสินทรัพย์ประมาณ 8.6 แสนล้านบาท
อาลีบาบา อี-ออโต้ ซึ่งกำลังร่วมมือกับ บริษัทอุตสาหกรรมยานยนต์ ชางไฮ (Shanghai Automotive Industry Cooperation - SAIC) ผลิตรถยนต์ที่ติดตั้งระบบอินเทอร์เน็ท และมีกำหนดปล่อยออกสู่ท้องตลาดในปี 2016 นั้น จะร่วมกับ ฟีฟ่า ในการประชาสัมพันธ์การแข่งขันนี้ให้ได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้นทั่วโลกด้วยสิทธิประโยชน์อีกลักษณะหนึ่งอันเป็นการเฉพาะที่เรียกว่า พันธมิตรในการนำเสนอ (Presenting Partnership) หรือพูดให้เข้าใจง่ายๆก็คือ การผูกกับแบรนด์ คือทั้ง ฟีฟ่า และ อาลีบาบา สร้างความร่วมมือที่เป็นประโยชน์กับทั้งสองฝ่าย โดยต่างก็มองเห็นคุณค่า (Value) ของสิ่งต่างๆไปในทิศทางเดียวกัน
ผมมีความเห็นเกี่ยวกับความร่วมมือของทั้งสองฝ่ายนี้ คนแรก ติเอรี เวย (Thierry Weil) เป็นผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ของ ฟีฟ่า บอกว่า การแข่งขันรายการนี้จะได้รับการประชาสัมพันธ์ให้เข้าถึงแฟนบอลทั่วโลกอย่างแน่นอน เขาคาดหวังถึงประโยชน์ที่จะได้รับจากวิธีการปฏิบัติใหม่ๆ ที่แปลกไปจากเดิมของ อาลีบาบา และกำลังเฝ้าดูสิ่งที่ อาลีบาบา จะนำมาสู่ ฟุตบอลสโมสรโลก ในช่วง 8 ปีนี้
ทางฝ่ายจีนเองก็มองเห็นประโยชน์จากความร่วมมือดังกล่าว โดย แดเนียล จ้าง (Daniel Zhang) ซีอีโอ ของ อาลีบาบา กรุ๊พ บอกว่า กีฬาเป็นจุดเชื่อมต่อของแผนกลยุทธเกี่ยวกับสุขภาพและความสุขของผู้คน ซึ่งเขากำลังมองหาหนทางเพิ่มมูลค่าใหม่ๆให้แก่ผู้บริโภคและผู้ที่มีส่วนร่วมในภาคส่วนของกีฬาผ่านการเท็คนอลลอจี้ของอินเทอร์เน็ทที่เกี่ยวกับการใช้ข้อมูล โดยการเป็นพันธมิตรกับรายการกีฬาที่มีผู้ให้ความสนใจทั่วโลกอย่าง ฟีฟ่า คลับ เวิร์ลด์ คัพ นั้นก็เป็นส่วนสำคัญของยุทธศาสตร์ที่จะเชื่อมต่อ จีน ไปทั่วโลก
ฟีฟ่า คลับ เวิร์ลด์ คัพ 2015 เพิ่งจบลงไปไม่กี่วันที่ผ่านมาครับ ซึ่งผมก็เห็นมี แบรนด์ ของ อาลีบาบา ปรากฏสู่สายตาแฟนบอลที่เข้าชมเกมในสนามแข่งขันที่ โยโกฮามะ และ โอซากะ รวมทั้งต่อสายตาผู้ชมที่ชมการแข่งขันผ่านการถ่ายทอดทางโทรทัศน์ไปทั่วโลก นอกจากนั้น อาลีบาบา อี-ออโต้ ยังได้รับเกียรติเป็นผู้มอบรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมทุกๆนัดอีกด้วย และนับตั้งแต่ปี 2016 ทาง ฟีฟ่า ก็จะตระเตรียมพื้นที่ให้นำ อินเทอร์เน็ท คาร์ มาตั้งแสดงให้ผู้คนได้ยลโฉมกันครับ
ฟีฟ่า คลับ เวิร์ลด์ คัพ (FIFA Club World Cup) ฟุตบอลชิงแช้มพ์สโมสรโลก รายการที่สำคัญที่สุดสำหรับสโมสรฟุตบอลที่ต้องการช่วงชิงความเป็นสุดยอดสโมสรของโลก วันนี้ เดินทางมาถึงจุดที่ อาลีบาบา (Alibaba) พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์หรือที่เราเรียกกันทั่วไปว่า อี-คอมเมิ้ร์ส (E-commerce) รายใหญ่ของ จีน มูลค่า 8 แสนล้านบาทเข้ามาเป็นผู้สนับสนุนรายใหญ่แล้ว
สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า เพิ่งประกาศยืนยันการเข้ามาสนับสนุนการแข่งขันฟุตบอลรายการนี้เมื่อวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมานี้เอง โดยทาง อาลีบาบา จะมาในนามของ อาลีบาบา อี-ออโต้ (Alibaba E-Auto) ยี่ห้อรถยนต์ที่ติดตั้งระบบอินเทอร์เน็ท อันเป็นธุรกิจแขนงหนึ่งของ อาลีบาบา กรุ๊พ ซึ่งมีระยะเวลาตั้งแต่ปี 2015 ถึง 2022 รวม 8 ปี
อาลีบาบา กรุ๊พ เริ่มก่อตั้งขึ้นในปี 1999 โดย แจ๊ค หม่า (Jack Ma) นักธุรกิจชาวจีนจาก หางโจว ที่มีวัยตอนนั้นเพียง 35 ปี จากเว็บไซ้ท์ที่เป็นช่องทางการเชื่อมโยงผู้ซื้อกับผู้ขายเข้าด้วยกัน แล้วขยายธุรกิจต่อไปอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการชำระเงินออนลายน์ ช้อปปิ้งออนลายน์ รายการโทรทัศน์ เว็บแปลภาษา หนังสือพิมพ์ออนลายน์ รวมแล้วหลายสิบธุรกิจ ซึ่งปัจจุบันเขากลายเป็นมหาเศรษฐีที่ได้ชื่อว่าร่ำรวยที่สุดในประเทศ และร่ำรวยเป็นอันดับ 18 ของโลกด้วยสินทรัพย์ประมาณ 8.6 แสนล้านบาท
อาลีบาบา อี-ออโต้ ซึ่งกำลังร่วมมือกับ บริษัทอุตสาหกรรมยานยนต์ ชางไฮ (Shanghai Automotive Industry Cooperation - SAIC) ผลิตรถยนต์ที่ติดตั้งระบบอินเทอร์เน็ท และมีกำหนดปล่อยออกสู่ท้องตลาดในปี 2016 นั้น จะร่วมกับ ฟีฟ่า ในการประชาสัมพันธ์การแข่งขันนี้ให้ได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้นทั่วโลกด้วยสิทธิประโยชน์อีกลักษณะหนึ่งอันเป็นการเฉพาะที่เรียกว่า พันธมิตรในการนำเสนอ (Presenting Partnership) หรือพูดให้เข้าใจง่ายๆก็คือ การผูกกับแบรนด์ คือทั้ง ฟีฟ่า และ อาลีบาบา สร้างความร่วมมือที่เป็นประโยชน์กับทั้งสองฝ่าย โดยต่างก็มองเห็นคุณค่า (Value) ของสิ่งต่างๆไปในทิศทางเดียวกัน
ผมมีความเห็นเกี่ยวกับความร่วมมือของทั้งสองฝ่ายนี้ คนแรก ติเอรี เวย (Thierry Weil) เป็นผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ของ ฟีฟ่า บอกว่า การแข่งขันรายการนี้จะได้รับการประชาสัมพันธ์ให้เข้าถึงแฟนบอลทั่วโลกอย่างแน่นอน เขาคาดหวังถึงประโยชน์ที่จะได้รับจากวิธีการปฏิบัติใหม่ๆ ที่แปลกไปจากเดิมของ อาลีบาบา และกำลังเฝ้าดูสิ่งที่ อาลีบาบา จะนำมาสู่ ฟุตบอลสโมสรโลก ในช่วง 8 ปีนี้
ทางฝ่ายจีนเองก็มองเห็นประโยชน์จากความร่วมมือดังกล่าว โดย แดเนียล จ้าง (Daniel Zhang) ซีอีโอ ของ อาลีบาบา กรุ๊พ บอกว่า กีฬาเป็นจุดเชื่อมต่อของแผนกลยุทธเกี่ยวกับสุขภาพและความสุขของผู้คน ซึ่งเขากำลังมองหาหนทางเพิ่มมูลค่าใหม่ๆให้แก่ผู้บริโภคและผู้ที่มีส่วนร่วมในภาคส่วนของกีฬาผ่านการเท็คนอลลอจี้ของอินเทอร์เน็ทที่เกี่ยวกับการใช้ข้อมูล โดยการเป็นพันธมิตรกับรายการกีฬาที่มีผู้ให้ความสนใจทั่วโลกอย่าง ฟีฟ่า คลับ เวิร์ลด์ คัพ นั้นก็เป็นส่วนสำคัญของยุทธศาสตร์ที่จะเชื่อมต่อ จีน ไปทั่วโลก
ฟีฟ่า คลับ เวิร์ลด์ คัพ 2015 เพิ่งจบลงไปไม่กี่วันที่ผ่านมาครับ ซึ่งผมก็เห็นมี แบรนด์ ของ อาลีบาบา ปรากฏสู่สายตาแฟนบอลที่เข้าชมเกมในสนามแข่งขันที่ โยโกฮามะ และ โอซากะ รวมทั้งต่อสายตาผู้ชมที่ชมการแข่งขันผ่านการถ่ายทอดทางโทรทัศน์ไปทั่วโลก นอกจากนั้น อาลีบาบา อี-ออโต้ ยังได้รับเกียรติเป็นผู้มอบรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมทุกๆนัดอีกด้วย และนับตั้งแต่ปี 2016 ทาง ฟีฟ่า ก็จะตระเตรียมพื้นที่ให้นำ อินเทอร์เน็ท คาร์ มาตั้งแสดงให้ผู้คนได้ยลโฉมกันครับ