เอเยนซี - Star Wars ถือเป็นภาพยนตร์มหาอมตะนิรันดร์กาลอลังการงานสร้าง ที่ล่าสุดกำลังจะมีตอนใหม่เข้าฉายชื่อว่า The Force Awakens ซึ่งที่ผ่านมานั้นมีหลายภาคมากเรื่องราวที่แฟนๆ ทั่วโลกติดตามชมเรียกได้ว่าตั้งแต่เล็กจนโต ประจวบเหมาะกับศึก ยูโร 2016 ที่เพิ่งมีการจับสลากแบ่งสายรอบสุดท้ายเสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 12 ธันวาคมที่ผ่านมา น่าจะมีคนสงสัยว่ามาเกี่ยวข้องกันได้อย่างไร โดยทางด้าน ESPN ได้จับความคล้ายคลึงกันของทั้งสองอย่างมาเล่าเป็นเรื่องราวผ่านโลกลูกหนังที่น่าติดตามชมและจะทำให้ทุกคนอินไปพร้อมๆ กันดังนี้
A New Hope - เดนมาร์ก วืดตั๋วลุยศึก ยูโร 2016 หลังจากเพลย์ออฟแพ้ สวีเดน แต่หากย้อนไปปี 1992 เชื่อว่าทุกคนต้องจดจำ “เทพนิยายเดนส์” ได้เป็นอย่างดีกับการสร้างเซอร์ไพรส์ล้ม เยอรมนี ที่อัดแน่นไปด้วยดาวดังในรอบชิงชนะเลิศด้วยสกอร์ 2-0 แน่นอนไม่มีใครคาดคิด เพราะทัพ “โคนม” จบที่ 2 รอบคัดเลือกนักเตะถูกปล่อยไปพักผ่อนหมดแล้ว ทว่าโดนเรียกตัวกะทันหันมาแทน ยูโกสลาเวีย ที่ถูกตัดสิทธิ์เพราะปัญหาสงครามกลางเมือง ทุกคนล้วนรักเรื่องราวเล่าทำนองนี้อยากให้เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ลูกหนังอีกครั้ง ซึ่ง 5 ม้ามืดหนนี้ที่อาจตามรอยถูกมองว่าน่าจะมี เวลส์ นำโดย แกเร็ธ เบล แนวรุกซูเปอร์สตาร์ของ รีล มาดริด ที่คว้าสิทธิ์มาเล่นรอบสุดท้ายครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ส่วนที่เหลือประกอบด้วย ออสเตรีย, ไอร์แลนด์เหนื, ไอซ์แลนด์ และ อัลแบเนีย
The Empire Strikes Back - สเปน ได้แชมป์ ยูโร ครั้งแรกปี 1964 พร้อมส่ง รีล มาดริด ครองความยิ่งใหญ่ยุคทศวรรษ 60 อย่างไรก็ตาม 3 ครั้งถัดมา “กระทิงดุ” ไม่ผ่านรอบคัดเลือกก่อนที่ปี 1980 จะตกรอบแบ่งกลุ่ม ต่อด้วยเป็นรองแชมป์ปี 1984 ถือเป็นผลงานที่น่าพิศวงอย่างยิ่ง เพราะจากนั้นก็ไม่สามารถเข้าถึงรอบรองชนะเลิศทัวร์นาเมนต์ระดับเมเจอร์อีกเลย จนกระทั่งปี 2008 ที่ ออสเตรีย กับ สวิตเซอร์แลนด์ รับบทเจ้าภาพร่วม โลกได้รู้จักสไตล์ “ติกี้-ตาก้า” ภายใต้แกนนำของ อันเดรส อิเนียสตา, ชาบี เอร์นานเดซ, ดาบิด บีญา และ เฟร์นานโด ตอร์เรส คว้าแชมป์มาครอง จากนั้นก็สานต่อความยิ่งใหญ่ได้แชมป์ 3 อีเวนต์ใหญ่ติดต่อกันถือเป็นชาติแรกในประวัติศาสตร์ ก่อนจะมาล้มเหลว เวิลด์ คัพ 2014 ที่ตกรอบแรก กระนั้นก็ตามศักยภาพทีมชุดนี้ยังแน่นปึ้กคงไม่กลับไปสู่ห้วงตกต่ำยาวเหมือนอดีต ดังนั้นตอนนี้ได้เวลาที่เจ้าลูกหนังจะต้องตอบโต้กลับแล้วด้วยเป้าหมายแชมป์ยุโรป 3 หนติด
Return of the Jedi - ความพ่ายแพ้มักนำมาสู่ชัยชนะยิ่งใหญ่ในภายภาคหน้าเสมอ เรากำลังกล่าวถึง เยอรมนี 8 เดือนหลังทุบกำแพงเบอร์ลิน เยอรมันตะวันตก คว้าแชมป์โลกปี 1990 อย่างไรก็ตาม 2 ปีถัดมามีอันต้องช็อคในนัดชิงชนะเลิศ ยูโร ที่พ่ายแก่ เดนมาร์ก 0-2 จนเข้าสู่ปี 1996 “อินทรีเหล็ก” รวบรวมทีมขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งภายใต้การคุมทัพของ แบร์ตี โฟกต์ส ต่อเวลาแซงชนะ สาธารณรัฐเช็ก ที่เกือบเป็น A New Hope สกอร์ 2-1 จากการเหมาของยิงของ โอลิเวอร์ เบียร์โฮฟฟ์ ที่ประตูชัยนั้นเป็นโกลเดนโกลด์ ดังนั้นลูกทีม โยอาคิม เลิฟ ที่ตกรอบรองชนะเลิศปี 2012 ตามด้วยคว้าแชมป์โลกปี 2014 จึงมีลุ้นที่จะคว้าแชมป์ ยูโร 2016 อย่างไม่ต้องสงสัย
The Force Awakens - ชัดเจนว่า เบลเยียม กำลังเข้าสู่ “ยุคทอง” หลังจากสร้างผลงานเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ เวิลด์ คัพ 2014 จากนั้น “ปีศาจแดงแห่งยุโรป” ก็ก้าวสู่การเป็นชาติเบอร์ 1 ของโลกพร้อมคว้าตั๋วรอบสุดท้าย ยูโร 2016 ในฐานะแชมป์กลุ่มจากรอบคัดเลือก ย้อนไปปี 2007 ภายใต้แกนนำของ โทมัส แฟร์มาเลน, เควิน มิรัลลาส, แยน แฟร์ตองเกน, มารูยาน เฟลไลนี และ เอ็กเซล วิตเซล เข้าถึงรอบตัดเชือก ยูโร รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วตอนนี้เด็กหนุ่มเหล่านี้ภายใต้การนำของ มาร์ค วิลม็อตส์ ไปลุยฝรั่งเศสฐานะ 1 ในทีมเต็ง
เบลเยียม ยุคนี้มีแข้งฝีเท้าดีเข้ามาเสริมอีกเพียบทั้ง เอเดน ฮาซาร์ด, แวงซองต์ กอมปานี, ธิโบต์ คูร์ตัวส์, โรเมลู ลูกากู, คริสเตียน เบนเตเก และ เควิน เดอ บรุยน์ ดังนั้นจึงมีลุ้นคว้าแชมป์ ยูโร ครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1980 ที่นัดชิงชนะเลิศซึ่งพ่ายแก่ เยอรมันตะวันตก 1-2 ถือเป็นการเข้าชิงครั้งแรกและครั้งเดียวจบจนทุกวันนี้ ดังนั้นตอนนี้ทุกสายตากำลังจับตาดู แต่หากได้แชมป์ขึ้นมาจริงๆ ก็ไม่มีอะไรต้องกังขา