"เสธ.โต" พล.ร.อ.สุรวุฒิ มหารมณ์ ประธานคณะกรรมการกลาง การเลือกตั้ง นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เตรียมยื่นเรื่องให้ฟีฟาชี้ขาดว่าต้องเลือก 30 เสียงโหวตจากดิวิชั่น 2 ใหม่หรือไม่ พร้อมแนบข้อมูลของทั้งสองฝั่งที่เห็นต่างกันให้พิจารณา พร้อมเล็งเปิดรับผู้ลงสมัคร วันที่ 21 ธันวาคม นี้
เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม ที่ผ่านมา คณะกรรมการกลาง การเลือกตั้ง นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ที่แต่งตั้งโดย สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ(ฟีฟา) จัดประชุมหารือวางแนวทาง ครั้งที่ 7 ณ ที่ทำการ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) โดยมี "เสธ.โต" พล.ร.อ.สุรวุฒิ มหารมณ์ เป็นประธานฯ
ภายหลังการประชุม พล.ร.อ.สุรวุฒิ กล่าวถึงประเด็น 30 เสียงโหวต จากลีก ภูมิภาค (ดิวิชั่น 2) โซนละ 5 ทีม ว่ายังไม่ได้ข้อสรุป "ตอนนี้เรายังไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้ เพราะมีหลายสโมสรที่ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยที่จะให้มีการเลือกตัวแทนใหม่ ซึ่งเรื่องนี้ฟีฟาได้ตอบกลับมาแล้วแต่ยังไม่ชัดเจน ทางคณะกรรมการฯจึงต้องส่งเรื่องถามย้ำไปอีกครั้งว่าจะกำหนดอย่างไร"
"เรื่องนี้ไม่ว่าจะออกมาอย่างไรก็จะมีฝ่ายที่ได้และเสียประโยชน์ทั้งคู่ ผมจึงต้องให้ฟีฟาในฐานะองค์กรหลักเป็นผู้ตัดสินใจ โดยครั้งนี้จะยื่นข้อมูลของทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยให้เลือก 30 เสียงใหม่ กับฝ่ายที่คัดค้าน ไปให้ฟีฟาพิจารณาแล้วตัดสินใจ คาดว่าภายใน 1-2 วันก็จะได้ข้อสรุป จากนั้นทางคณะกรรมการฯก็จะดำเนินการตามโร้ดแม็พได้ต่อ"
พร้อมกันนี้ "เสธ.โต" ได้เผยถึงกำหนดการอื่นๆว่า จะเปิดรับสมัครผู้ลงชิงตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลฯ ตั้งแต่วันที่ 21 ธันวาคม 2558 ถึง วันปิดรับสมัครคือวันที่ 11 มกราคม 2559 โดยหนังสือเชิญประชุมใหญ่คาดว่าจะส่งให้สโมสรสมาชิกได้รับทราบในวันที่ 10 มกราคม ซึ่งจะแจ้งเพียงวาระการเลือกตั้งฯอย่างเดียว ไม่ต้องระบุชื่อผู้สมัครลงไป
ด้าน นายมานิต วรรธนะสาร ผู้อำนวยการกองนิติการ การกีฬาแห่งประเทศไทย(กกท.) และ 1 ในคณะกรรมการชุดนี้ กล่าวถึงความเห็นของฝั่ง กกท. ตามข้อกฎหมาย ต่อเรื่องนี้ว่า "คณะกรรมการฯมองว่า 30 เสียงเป็นประเด็นข้อกฎหมาย เนื่องจากข้อบังคับของสมาคมฯ ฉบับปัจจุบัน ได้กำหนดสิทธิ์ 30 เสียงให้มาจากการเลือกตั้งเพียงอย่างเดียว ซึ่งเบื้องต้นฟีฟาเองเห็นด้วยให้ทำตามข้อบังคับ"
"ส่วนบางสโมสรที่มองว่าเมื่อมีการเลือกมาแล้ว และกกท.รับรองแล้ว การประชุมถูกต้องทุกอย่าง รวมถึงมีการรับรองการแก้ข้อบังคับฉบับปี 2556 เปลี่ยนแปลงเป็นฉบับใหม่ปี 2558 แล้วจึงไม่ดำเนินการต่อเลย ทำไมต้องมาเลือกใหม่ ซึ่งทั้งนี้เมื่อมีข้อบังคับใหม่ออกมา ผลก็คือข้อบังคับปี 2556 ก็ต้องถูกยกเลิกไป และข้อบังคับฉบับปี 2558 ไม่มีข้อใดบอกว่าผู้มีสิทธิ์เดิมยังสามารถเลือกได้อยู่ เมื่อกำหนดไว้เพียงเท่านี้จึงต้องถือว่าสิ้นผลไปตามข้อบังคับฉบับเดิม" ตัวแทนจาก กกท. กล่าว
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *