มานูเอล เปเยกรินี กุนซือชาวชิลี สัมผัสค่ำคืนแห่งประวัติศาสตร์ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี ศึก ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก หลังพลิกปราบ โบรุสเซีย มึนเชนกลัดบัค 4-2 ครองแชมป์กลุ่มครั้งแรก เมื่อคืนวันอังคารที่ 8 ธันวาคม ที่ผ่านมา
ซิตี ตามอยู่ 1-2 ก่อน ราฮีม สเตอร์ลิง ปีกความเร็วจัด เหมา 2 ประตู และ วิลฟรีด โบนี ดาวยิง ไอวอรี โคสต์ ยิงลูกที่ 4 ตอกฝาโลง เบียด ยูเวนตุส รองแชมป์เก่า ซึ่งพ่ายแก่ เซบีญา 0-1 คว้าอันดับ 1 ของกลุ่ม D
อดีตเทรนเนอร์ รีล มาดริด และ มาลากา ซึ่งพา “เรือใบสีฟ้า” เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย 3 ฤดูกาลติดต่อกัน กล่าว “นี่เป็นคืนหนึ่งอันแสนวิเศษสำหรับฟุตบอลสโมสรยุโรป ปีที่แล้ว เราทำได้ดีมากตลอด 2 เกมสุดท้าย รอบแบ่งกลุ่ม กับ บาเยิร์น มิวนิก และ โรมา และเรายังเหนือกว่า เซบีญา เกมเยือนอย่างชัดเจน”
“เดอะ ซิตีเซนส์” เคยเจองานหนัก รอบน็อคเอาท์ พบ บาร์เซโลนา ตลอด 2 ซีซันล่าสุด แต่ในฐานะแชมป์กลุ่ม ทั้งคู่จะไม่โคจรมาดวลกันอีก
บิ๊กบอสวัย 61 ปี กล่าว “มันย่อมดีกว่าที่จะจบอันดับ 1 เพราะคุณสามารถเลี่ยงทีมที่น่ากลัวอย่างน้อย ๆ สัก 1 รอบ แต่ถ้าคุณต้องการแชมป์ ก็ต้องเผชิญหน้ากับทีมใหญ่ แน่นอนโชคดีที่เรายังไม่ต้องเจอ บาเยิร์น มิวนิก , บาร์เซโลนา และ รีล มาดริด ตั้งแต่เนิ่น ๆ”
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *