“ผี” ลุ้นหนักลิ่วถ้วยยุโรป เขย่าขาเก้าอี้ “ฟาน กัล”

เอเยนซี - “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เผชิญสถานการณ์หลังพิงฝาเดิมพันเข้ารอบน็อคเอาต์ ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก คืนวันอังคารที่ 8 ธันวาคมนี้บุกถิ่น โฟล์คสวาเกน อารีนา ของ “หมาป่า” โวล์ฟสบวร์ก แห่งเยอรมนี พร้อมกับเป็นการชี้อนาคตของ หลุยส์ ฟาน กัล นายใหญ่เลือดดัตช์ ที่ผลงานคุมทัพยังไม่เข้าตา

ศึก ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก นัดสุดท้าย กลุ่ม บี แมนฯยู มี 8 แต้มจำต้องชนะ โวล์ฟสบวร์ก เพื่อเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายแบบไม่ต้องไปสนใจ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟน ที่มี 7 แต้มลงเล่นวันเดียวกันเปิดบ้านพบ ซีเอสเคเอ มอสโก ที่มี 4 แต้มตกรอบไปแล้ว อย่างไรก็ตาม “หมาป่า” คงยอมไม่ได้ เพราะหากแพ้แล้วยอดทีมดัตช์ชนะตนเองก็จะตกรอบ ส่วน “ผีแดง” เสมอได้ ทว่าต้องให้อีกคู่เจ๊าเช่นกัน

อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา แมนฯยู อยู่ภายใต้ฟอร์มที่ไม่สู้ดี ล่าสุดเพิ่งเปิดบ้านเสมอ เวสต์ แฮม ยูไนเต็ด 0-0 เมื่อวันเสาร์ที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา ทำให้รูดรั้งอันดับ 4 พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ตามจ่าฝูง เลสเตอร์ ซิตี 3 แต้มเมื่อผ่านพ้นโปรแกรม 15 นัด โดยเป็นการเจ๊าแบบโนสกอร์นัดที่ 4 ในลีกเข้าให้แล้ว

ก่อนเกม ฟาน กัล กล่าวว่า “เรามีแมตช์ใหญ่ของ แชมเปียนส์ ลีก รออยู่ หลังจากก่อนหน้านี้ผิดหวังเกมเสมอ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟน 0-0 ที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ดังนั้นรู้ดีว่าจำเป็นต้องคว้าชัยเพื่อเข้าสู่รอบน็อคเอาต์ แน่นอนว่าเป็นงานที่ไม่ง่าย แต่ชัยชนะที่เยอรมนีไม่ใช่แค่การันตีตั๋วรอบต่อไปเท่านั้น แต่หมายถึงแชมป์กลุ่มด้วย”

แมนฯยู มีปัญหาเมื่อ เวย์น รูนีย์ กองหน้ากัปตันทีมมีอาการบาดเจ็บ เกมที่เสมอ เวสต์ แฮม ก็ไม่ได้ลงสนาม ใช้ อองโนนีย์ มาร์กซิอาล ยืนกองหน้าก็ควานหาสกอร์ไม่เจอ ขณะที่ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ กองกลางแชมป์โลกปี 2014 จะเจอกับสโมสรบ้านเกิดเยอรมนีเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ย้ายจาก บาเยิร์น มิวนิค เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา

สำหรับ แมนฯยู การคว้าแชมป์กลุ่มถือว่ามีความหมาย เนื่องจากหมายถึงการหลีกเลี่ยงของแข็งรอบ 16 ทีมสุดท้ายอย่าง รีล มาดริด (สเปน) แชมป์ยุโรปสูงสุด 10 สมัย, บาร์เซโลนา แชมป์เก่าจากสเปนและ บาเยิร์น มิวนิค ยอดสโมสรจากประเทศเยอรมนี

แมนฯยู มีสถิติยามออกนอกบ้านพบสโมสรเยอรมนีคือชนะ 5 แพ้ 5 และเสมอ 4 นัด โดยเมื่อฤดูกาล 2011-12 ภายใต้การคุมทัพของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เจอแรงกดดันเช่นตอนนี้คือแชมป์ยุโรป 3 สมัยตกรอบแบ่งกลุ่ม นัดสุดท้ายบุกไปพ่าย เอฟซี บาเซิล 1-2 ส่วนปีนี้ภายใต้บังเหียนของ ฟาน กัล ยังไม่ชนะเกม แชมเปียนส์ ลีก นอกบ้านเลย

ก่อนหน้านี้ แมนฯยู เคยเจอกับ โวล์ฟสบวร์ก 2 นัดในศึก แชมเปียนส์ ลีก คือฤดูกาล 2009-2010 เป็นรอบแบ่งกลุ่ม โดยเปิดบ้านชนะก่อน 2-1 ก่อนจะบุกย้ำแค้น 3-1 จากการทำแฮตทริกของ ไมเคิล โอเวน อดีตกองหน้าทีมชาติอังกฤษ

นัดแรกรอบแบ่งกลุ่มที่เจอกับ แมนฯยู เปิดบ้านเฉือน 2-1 ส่วน ฟาน กัล เคยทำงานในถิ่น อัลลิอันซ์ อารีนา ระหว่างปี 2009-2011 ซึ่ง 4 นัดที่คุม บาเยิร์น พบ โวล์ฟสบวร์ก ไม่เคยแพ้ชนะ 3 เสมอ 1 นัด ส่วน “หมาป่า” ฟอร์มในลีกล่าสุดเมื่อวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านพังคาถิ่นแก่ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 1-2

ถือว่าสถานการณ์ของ แมนฯยู ในลีกนั้นยังไม่เลวร้ายตาม เลสเตอร์ แค่ 3 แต้มส่วนบรรดาทีมบิ๊กเนมด้วยกันก็นัดสะดุด อย่างไรก็ตามการเข้ารอบหรือร่วง แชมเปียนส์ ลีก น่าจะเป็นการชี้ชัดสถานการณ์ของ ฟาน กัล เพราะหากพลาดพลั้งน่าจะถูกกดดันหนัก เนื่องจากเป็นปีที่ 2 ในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แต่ผลงานไม่เป็นชิ้นเป็นอัน

ขณะที่ “เดอะ การ์เดียน” สื่อของอังกฤษ เผยว่าช่วงต้นปี 2016 บอร์ดบริหาร แมนฯยู เตรียมถก ฟาน กัล ถึงสัญญาที่จะหมดลงช่วงซัมเมอร์ปี 2017 โดยหากต้องการขยายออกไปก็อยากทราบถึงแนวทางการทำทีมและเป้าหมายที่ชัดเจนกว่านี้ ไม่ก็พร้อมจะไปหาเป้าหมายใหม่คือ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ของ บาเยิร์น มิวนิค

ฟาน กัล เซ็นสัญญาคุม แมนฯยู เมื่อปี 2014 โดยถือเป็นธรรมเนียมอยู่แล้วเมื่อเหลือข้อผูกมัดอีก 18 เดือนจำเป็นต้องมีการเปิดโต๊ะคุยกันใหม่ ซึ่งนายใหญ่ชาวดัตช์เคยเปรยว่าจะวางมือเพื่อไปใช้เวลาอยู่กับภรรยาทางตอนใต้ของประเทศโปรตุเกสหรือไม่แน่อาจขยับไปทำหน้าที่อื่นแทนในสโมสร

ทางด้าน กวาร์ดิโอลา มีโอกาสที่จะต่อสัญญาใหม่กับ บาเยิร์น เช่นกัน ขึ้นอยู่กับว่าปีนี้สามารถพาทีมเป็นแชมป์ แชมเปียนส์ ลีก สมัยที่ 6 ในปีนี้ได้หรือไม่ ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงคงเป็นการยากที่อดีตนายใหญ่ บาร์เซโลนา ปัจจุบันวัย 44 ปีจะอำลาถิ่น อัลลิอันซ์ อารีนา แต่ถ้าไม่ถึงเป้าคงลาพร้อมข้อผูกมัดที่สิ้นสุดลงพอดี