xs
xsm
sm
md
lg

3 ซูเปอร์สตาร์กีฬาไทย มีวันนี้เพราะ "พ่อ" ให้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เจ้าต้น เลือกเอาด้านฟุตบอล
ผู้จัดการรายวัน 360 - วันที่ 5 ธันวาคมของทุกปี นอกจากจะเป็นวันสำคัญวันหนึ่งของประชาชนชาวไทย ยังเป็นวันที่ระลึกถึงบุญคุณของ "พ่อ" ซึ่งเมื่อพูดถึงแวดวงกีฬา ในฐานะนักกีฬาอาชีพกว่าที่จะประสบความสำเร็จสูงสุด ส่วนหนึ่งก็มีบุคคลสำคัญอย่าง "พ่อ" เป็นผู้ผลักดัน ดังนั้น MGR SPORT จึงถือโอกาสนี้รวบรวมความประทับใจต่อชายผู้มีพระคุณของนักกีฬาไทยมาบอกเล่าสู่กันฟัง

“ต้น” นฤบดินทร์ วีรวัฒน์โนดม แบ็คขวาทีมชาติไทย สังกัดสโมสร “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เผยครั้งหนึ่งเกือบถูก "พ่อหมู" ณรงค์ศักดิ์ วีรวัฒโนดม วางแผนให้เอาดีกับกีฬากอล์ฟ ก่อนสุดท้ายเจ้าตัวจะเลือกเล่นฟุตบอล

“ตอนผมอายุ 9 ขวบ จะไปซ้อมกีฬากับพ่อเป็นประจำทั้งกอล์ฟ และ ฟุตบอล วันไหนพ่อไปซ้อมฟุตบอลก็จะไปวิ่งเล่นข้างสนามกับคุณแม่ และวันไหนพ่อไปซ้อมไดร์กอล์ฟ ผมก็จะตามไปด้วย ซึ่งพ่อบอกว่าเราสามารถเล่นกอลฟ์ได้ดีมาก ทั้งนับแต้มเป็นและเรียนรู้พัฒนาอยู่เสมอ”

“วันหนึ่งที่สนามไดร์กอล์ฟ พ่อเลยถามแบบตรงๆ ว่าระหว่าง กอล์ฟ กับ ฟุตบอล ลูกชอบอะไรมากกว่ากัน ซึ่งผมตัดสินใจเลือก ฟุตบอล จากนั้นพ่อก็พาไปอยู่ศูนย์ฝึกฟุตบอลแม้นอินทร์ ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ส่วนกอล์ฟถ้ามีเวลาก็จะมาเล่นกันเป็นงานอดิเรก ถือว่าเพราะคุณพ่อที่สนับสนุนในวันนั้นผมจึงมีอนาคตอย่างเช่นวันนี้”

"แน็ต" ณิชชาอร จินดาพล นักแบดมินตันหญิงเดี่ยวมือ 31 ของโลก เล่าว่ากว่าที่จะก้าวมายืนถึงจุดนี้ ต้องฝ่าฟันอุปสรรคหลายอย่าง และแรงสนับสนุนที่สำคัญของเธอก็คือครอบครัว โดยเฉพาะคุณพ่อ และคุณแม่ที่ยอมลาออกจากงานที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อตามมาดูแลลูกสาวถึงกรุงเทพมหานคร

โดย "แน็ต" เปิดเผยว่า "เริ่มเล่นกีฬาแบดมินตันมาตั้งแต่อายุ 8 ขวบ เพราะสุขภาพไม่ดี เริ่มแรกตระเวนแข่งที่ภูเก็ตบ้านเกิด และจังหวัดใกล้เคียง กระทั่งอายุได้ 15 ปี ครอบครัวจึงตัดสินใจย้ายมาเช่าอพาร์ทเมนท์อยู่ในกรุงเทพฯ เพื่อให้ลูกได้เล่นแบดมินตันจริงจัง พร้อมตั้งเป้าติดทีมชาติ โดยคุณพ่อต้องเดินทางระหว่างภูเก็ต-กรุงเทพฯ ขณะที่คุณแม่ต้องลาออกจากราชการ เพื่อมาคอยดูแลลูก แม้ช่วงแรกจะยังทำใจไม่ได้ แต่คุณแม่บอกว่ายอมทำทุกอย่าง เพื่อความฝันของลูก"

พร้อมกันนี้ขนไก่หน้าสวยเผยว่าตนสามารถตอบแทนบุพการีด้วยการซื้อบ้านรังสิต คลอง 4 ได้แล้ว "บ้านหลังนี้ซื้อเพื่อเราจะได้อยู่กันอย่างสบายและพร้อมหน้า แน่นอนว่าบ้านหลังนี้ยังมีพื้นที่มากพอในการจัดโชว์เหรียญ และโล่ห์รางวัลต่างๆ ของแน็ต จากนี้ไม่มีอะไรต้องกังวล ขอบพระคุณพ่อ และแม่ ที่ช่วยให้ฝันของแน็ตเป็นจริง"

"บอล" ภราดร ศรีชาพันธุ์ อดีตนักเทนนิสชายหนึ่งเดียวของไทย ที่เคยไต่ไปถึงอันดับที่ 9 ของโลก เบื้องหลังความสำเร็จไม่ได้เกิดจากโชคชะตา แต่เพราะถูกปลูกฝังมาตั้งแต่ครั้งวัยเยาว์ จากคุณพ่อ ชนะชัย ศรีชาพันธุ์ เคียงคู่อยู่เสมอ

ซึ่งปัจจุบันคุณพ่อ "ชนะชัย" มีอายุ 71 ปีแล้ว ถึงจุดเริ่มต้นสั่งสอน "ซูเปอร์บอล" ว่า "ผมหัดเล่นเทนนิสด้วยตนเองเป็นประจำ จนสามารถเอาไปสอนลูกได้ แล้วลูกชายคนโตกับคนกลาง เขาก็ใช้กีฬาเทนนิสเป็นใบเบิกทางในการเข้าเรียนมหาวิทยาลัย พอเห็นว่าเป็นผลดี ก็เลยเลือกกีฬานี้ ให้ลูกคนเล็ก คือเจ้าบอล ได้เล่นแบบพี่ๆ บ้าง"

"บอลเริ่มตั้งแต่อายุ 6 ขวบ โดยเริ่มสอนให้รู้จักเบสิกในการจับไม้และการตีลูก แล้วที่ผมต้องให้เขาเริ่มเล่นตั้งแต่ยังเด็ก เป็นเพราะว่า ไม้อ่อนมันดัดง่าย ถ้าเขาได้เรียนรู้ตั้งแต่อายุน้อยๆ เขาก็จะเกิดความผูกพันกับมัน"

แม้ปัจจุบัน ภราดร จะผันตัวเองมาเป็นโค้ชให้ทีมเทนนิสไทย แต่ก็ยังได้ความเข้มงวดที่คุณพ่อปลูกฝังให้ตั้งแต่เด็ก มาถ่ายทอดให้เด็กรุ่นต่อไป "ในวันที่เขาประสบความสำเร็จ ผมปลื้มใจที่เขาสามารถทำได้ แต่ผมยังเสียดายที่บอล ต้องเลิกเล่นเทนนิสเร็วกว่าที่คาดไว้ เนื่องจากเราฝึกซ้อมกันมาอย่างยาวนาน แต่ในเมื่อเขามีอาการบาดเจ็บ มันก็จำเป็นที่เขาจะได้พัก"

"สุดท้ายผมอยากจะบอกว่าภูมิใจในตัวเขา ทุกอย่างที่เคยสอนให้เขาอดทน แล้วในอนาคต ชื่อเสียงเงินทองจะย้อนกลับมาหาตัวเขาเอง ซึ่งในที่สุดเขาก็สามารถทำได้" คุณพ่อของภราดร กล่าวทิ้งทายอย่างภาคภูมิ


แน๊ต เล่นแบดจนสร้างบ้านให้ครอบครัว
ภราดร ไปไกลถึงระดับโลกก็เพราะคุณพ่อ
กำลังโหลดความคิดเห็น