เอเยนซี - ศึกใหญ่เทนนิสหญิงรูดม่านไปแล้ว คราวนี้ถึงคิวของฝ่ายชายสำหรับทัวร์นาเมนต์สุดท้ายก่อนปิดซีซัน “เอทีพี เวิลด์ ทัวร์ ไฟนอลส์” เงินรางวัลรวม 7 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 251 ล้านบาท) ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ระหว่างวันที่ 15-22 พฤศจิกายน โดยมีทั้งหมด 8 คนร่วมชิงชัย แต่ดูจากแนวโน้มแล้วคือต้องรวมพลังกันโค่น “โนเล่” โนวัค ยอโควิช มือ 1 ของโลกชาวเซิร์บ เพราะฟอร์มแรงแบบไม่มีตกจริงๆ
โนวัค ยอโควิช (เซอร์เบีย)
แชมป์เก่า 4 สมัยและมือ 1 โลก ณ เวลานี้ พกพาฟอร์มแรงชนะรวด 22 แมตช์ติดกันมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม บวกกับ แกรนด์ สแลม 3 รายการ ออสเตรเลียน โอเพน, วิมเบิลดัน และ ยูเอส โอเพน แถมก่อนมาก็เรียกความมั่นใจด้วยแชมป์ระดับมาสเตอร์สที่ ปารีส อย่างไรก็ตาม มีเปอร์เซนต์ถูก โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ กับ ราฟาเอล นาดาล สองมือแกร่งตัวเก๋าดับฝันเนื่องจากสถิติเจอกันของทั้งคู่เหนือกว่าหวดเลือดเซิร์บเล็กน้อย
แอนดี เมอร์เรย์ (สหราชอาณาจักร)
หวดหนุ่มเลือดสกอต เพิ่งชวดแชมป์ที่ปารีสด้วยฝีมือเพื่อนซี้หมาดๆ ขณะที่สถิติยามลงแข่งไฟนอลส์ เคยมาไกลสุดเพียงรอบตัดเชือก 3 ครั้ง งวดนี้กลับมาเล่นในฐานะความหวังสูงสุดของเจ้าบ้าน ฝีมือไม่เป็นสองรองใคร แต่คำถามคือจะเต็มที่กับรายการนี้แค่ไหนเพราะออกมาเปรยแล้วว่าสมาธิอยู่ที่การรับใช้ สหราชอาณาจักร ลุ้นคว้าแชมป์โลก เดวิส คัพ ปลายปีนี้มากกว่า
โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ (สวิตเซอร์แลนด์)
เพิ่งตกรอบสองที่ ปารีส แบบพลิกความคาดหมาย เพราะเจอพิษลูกเสิร์ฟเอซของคู่แข่ง แต่จะประมาทแชมป์ 6 สมัยรายนี้ เพราะตลอดซีซั่นกวาดแชมป์ไปแล้ว 6 รายการรวมเข้าชิง วิมเบิลดัน กับ ยูเอส โอเพน ด้วย ส่วนปีที่แล้วก็มาถึงรอบชิงชนะเลิศ ปีนี้คู่แข่งสำคัญหนีไม่พ้น นาดาล และ ยอโควิช สองคู่ปรับเดิม เรื่องพละกำลัง “เฟดเอ็กซ์” อาจสู้ไม่ได้ แต่เรื่องกลยุทธ์เด็ดขาดกว่า ถือเป็นอีกคนที่มีลุ้นเป็นลำดับต้นๆ
สตานิสลาส วาวรินกา (สวิตเซอร์แลนด์)
แชมป์ แกรนด์ สแลม เฟรนช์ โอเพน จากแดนนาฬิกา ผลงานดีวันดีคืนเล่นได้ทุกสภาพพื้นผิว จุดเด่นอยู่ที่ลูกเสิร์ฟเร็วเล่นงานคู่ต่อสู้มาแล้วไม่ถ้วนและลูกแบ็คแฮนด์ที่แม่นยำเป็นอันดับ 1 ของปีนี้ จนถูกยกเป็นม้ามืดหมายเลข 1 ที่จะปราบมือท็อปทั้ง 3 อย่าง ยอโควิช, เฟเดอเรอร์ หรือ เมอร์เรย์ สำหรับการลุ้นแชมป์ที่ โอทู อารีนา ปัญหาอยู่ที่ความฟิตเพราะมีอาการเจ็บหลังรบกวนอยู่
ราฟาเอล นาดาล (สเปน)
อดีตมือ 1 โลกจากแดนกระทิงดุ ต้องต่อสู้อย่างหนักในการชิงโควตามาเล่นที่กรุงลอนดอนหลังเก็บแชมป์ได้เพียง 3 รายการ ขณะที่ของตายอย่าง เฟรนช์ โอเพน ก็พลาดจับจองเหมือนทุกปี แถมสภาพความฟิตตกลงไปเยอะ นักวิจารณ์หลายคนมองว่าเจ้าตัวอาจจอดอยู่ที่รอบแบ่งกลุ่ม แต่อย่าเพิ่งชะล่าใจเพราะผลงานครึ่งปีหลังเข้าชิง 4 รายการ หาก “เอล มาทาดอร์” คิดว่าตัวเองดีไม่พอก็คงไม่สู้จนได้ตั๋วมารายการนี้
โทมัส เบอร์ดิช (สาธารณรัฐเช็ก)
หวดวัย 30 ปี เป็นอีกคนที่ผลงานดีในช่วงท้ายปลายทางจากตำแหน่งแชมป์ที่ เซินเจิ้น กับ สต็อคโฮล์ม ด้วยลูกกราวน์สโตรคที่กลับมาอยู่ฟอร์มอันแข็งแกร่งอีกครั้ง แต่เพราะการคว้าสิทธ์เป็นลำดับท้ายๆ จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเจอกับมือพระกาฬอย่าง ยอโควิช, นาดาล, เฟเดอเรอร์ ซึ่งหนักหนาสาหัสพอตัวในรอบแบ่งกลุ่ม ทำให้เกจิทั้งหลายมองว่า เบอร์ดิช ต้องลุ้นหนักหากหวังไปไกลกว่ารอบนี้
ดาบิด เฟร์เรร์ (สเปน)
ออกสตาร์ทฤดูกาลสวยหรูกวาดแชมป์ 3 รายการที่ กาตาร์, ริโอ และ เม็กซิโก ก่อนจะแผ่วปลายจนเกือบวืดกลับมาลุย ไฟนอลส์ ครั้งที่ 7 หากไม่ได้แชมป์ปลายปีที่ มาเลเซีย กับ ออสเตรีย มาช่วยไว้ เฟร์เรร์ ในวัย 33 ปี ถือเป็นผู้เล่นคนหนึ่งที่รักษาสภาพความฟิตได้ดีไม่แพ้ เฟเดอเรอร์ ไม่ค่อยมีข่าวเรื่องบาดเจ็บ แต่โอกาสเข้าไปถึงรอบน็อคเอาท์ค่อนข้างยากเพราะสถิติปีนี้ไม่เคยชนะมือท็อป 10 โลกได้แม้แต่คนเดียว
เคอิ นิชิโคริ (ญี่ปุ่น)
ปีที่แล้วได้สัมผัสทัวร์นาเมนต์ใหญ่ของ เอทีพี ครั้งแรก จากผลงานยอดเยี่ยมรองแชมป์ ยูเอส โอเพน แต่ปีนี้เจออาการบาดเจ็บที่สะโพกเล่นงานหนักฟอร์มเลยแผ่วลงไป นักวิจารณ์ส่วนมากชี้ว่าเจ้าตัวคงจอดแค่รอบแบ่งกลุ่มเหมือนปีก่อน อย่างไรก็ตาม นิชิโคริ มีสถิติน่าประหวั่นพรั่นพรึงจัดการโค่นท็อป 4 มาแล้วทั้งหมด แถมช่วงปลายปีได้พักฟื้นฟูร่างกายอย่างเต็มที่ ไม่แน่เจ้าตัวอาจเป็นเซอร์ไพรส์ที่ ลอนดอน ปีนี้ก็ได้
