คอลัมน์ “สกอร์บอร์ด” โดย “แมวดำ”
นับตั้งแต่เปิดฤดูกาลไทยพรีเมียร์ลีก 2015 เป็นต้นมา ปัญหาเรื่องการทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน ถูกหยิบยกมาถกเถียงในวงกว้างว่ามีธงในการทำหน้าที่หรือไม่ จากการผลการทำหน้าที่ของกรรมการบางคน โดยเมื่อเร็วๆ นี้อดีตผู้ตัดสินหลายรายต่างดาหน้าถล่มการทำงานของ อลงกรณ์ ฝีมือช่าง จากผลการไล่ ภูริทัต จาริกานนท์ นักเตะ ชลบุรี เอฟซี ออกในเกมบิ๊กแมตช์ที่บุกไปแพ้ เมืองทอง ยูไนเต็ด 2-4 แบบค้านสายตา โดยบางรายถึงขั้นออกมาลากไส้ว่าการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินบางคนนั้นน่าเคลือบแคลงสงสัยเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีใบสั่งจากเบื้องบนลงมาหรือไม่
แม้จะโดนโจมตีอย่างหนักหน่วง แต่ เสธ.ทหาร ที่ไม่เคยทำหน้าที่ผู้ตัดสินอะไรเลย ทว่าถูกอุ้มไปคุมเชิ้ตดำยังออกมายืนยันว่าจังหวะดังกล่าวสมควรเป็นใบแดง รวมทั้งยังไม่ยกเลิกใบแดงให้กับ ภูริทัต ทั้งๆ ที่จังหวะดังกล่าวมีภาพมีคลิปแชร์กระจายไปสู่โลกออนไลน์ว่านักเตะคนนี้เข้าถึงลูกบอลก่อน และไม่ได้เหยียดขาเข้าไปทำร้ายคู่แข่งที่ลงไปนอนดีดดิ้นเจียนตายแต่อย่างใด
หลังจากนั้นสองสโมสรยักษ์ใหญ่อย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ ชลบุรี เอฟซี ได้ส่งตัวแทนเข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อการกีฬาแห่งประเทศไทย ให้มีการตรวจสอบการทำงานของ เสธ.ทหารรายนี้ พร้อมกับยก 10 เหตุการณ์ประกอบว่าการตัดสินของขาใหญ่สมาคมผู้ตัดสินอาจจะผิดพลาด ไม่ว่ากรณีแบนผู้ตัดสินที่ไม่เป่าจุดโทษให้กับบางสโมสร รวมทั้งยังมีการลงโทษผู้ตัดสินหลายรายที่มองว่าทำหน้าที่ได้ดีแล้ว
อย่างไรก็ตามดูเหมือน การกีฬาแห่งประเทศไทย เองก็มองว่าเป็นการบริหารงานภายใน และไม่ต้องการเข้าไปก้าวก่ายการทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน รวมถึงการทำงานของฝ่ายบริหารสมาคมผู้ตัดสินบางคน ซึ่งเมื่อ กกท.ลอยตัวเช่นนี้ ความเปลี่ยนแปลงในเรื่องการทำหน้าที่ผู้ตัดสินคงเกิดขึ้นได้ยาก
ขณะเดียวกันเหล่าบรรดาผู้ตัดสิน และอดีตผู้ตัดสินหลายรายที่ไม่พอใจการบริหารงานในลักษณะดังกล่าวเริ่มมีการรวมตัวกันแสดงจุดยืนไม่อยากให้วิชาชีพของตนต้องตกต่ำและวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้อย่างหนาหูขึ้น แต่แทนที่ใครบางคนจะถือโอกาสชี้แจง หรือรับฟังปัญหา กลับออกมาแสดงความเห็นว่าคนกลุ่มดังกล่าวไม่หวังดีต่อวงการผู้ตัดสิน และจ้องทำลายล้างกัน แถมยังบอกว่าหากผู้ตัดสินคนใดไปร่วมวงด้วย อาจจะเป็นการผิดระเบียบของสมาคมผู้ตัดสิน ถามจริงๆ ว่าผู้ตัดสินเหล่านี้เขารวมตัวกัน มันจะทำร้ายวงการผู้ตัดสินได้อย่างไร เขาไม่ได้รวมตัวกันไปเผาบ้านใครที่ไหน เขาแค่แสดงจุดยืนของตัวเองว่าไม่เห็นด้วยต่อการตัดสินลงโทษผู้ตัดสินแบบไม่ชอบธรรมเท่านั้น
จะว่าไปเหล่าบรรดาสโมสรที่ออกมาร้องทุกข์ หรือผู้ตัดสินเก่าๆ เขาไม่ได้อยากทำร้ายวงการฟุตบอลไทย เขาเพียงแค่อยากเห็นผู้ตัดสินทั้งหลายที่ทำหน้าที่อยู่ในปัจจุบันพัฒนาการทำหน้าที่และยกระดับตัวเองมากกว่า นี่ร่ำๆ ว่าจะมีการคัดเลือกผู้ตัดสินใหม่เข้ามาทำหน้าที่ในลีกอีก เพราะที่ผ่านมากรรมการโดนแบนไปเยอะ บางคนเป่าดี แต่ไม่มีงานต่อ บางรายเป่าผิด เป่าพลาด ขนาดเจ้าตัวยังยอมรับผิดแล้ว ก็ยังมีงานได้ทำหน้าที่ต่อในอาทิตย์ถัดไป แล้วแบบนี้จะเป็นใครกันแน่ที่ทำลายวงการผู้ตัดสิน...
นับตั้งแต่เปิดฤดูกาลไทยพรีเมียร์ลีก 2015 เป็นต้นมา ปัญหาเรื่องการทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน ถูกหยิบยกมาถกเถียงในวงกว้างว่ามีธงในการทำหน้าที่หรือไม่ จากการผลการทำหน้าที่ของกรรมการบางคน โดยเมื่อเร็วๆ นี้อดีตผู้ตัดสินหลายรายต่างดาหน้าถล่มการทำงานของ อลงกรณ์ ฝีมือช่าง จากผลการไล่ ภูริทัต จาริกานนท์ นักเตะ ชลบุรี เอฟซี ออกในเกมบิ๊กแมตช์ที่บุกไปแพ้ เมืองทอง ยูไนเต็ด 2-4 แบบค้านสายตา โดยบางรายถึงขั้นออกมาลากไส้ว่าการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินบางคนนั้นน่าเคลือบแคลงสงสัยเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีใบสั่งจากเบื้องบนลงมาหรือไม่
แม้จะโดนโจมตีอย่างหนักหน่วง แต่ เสธ.ทหาร ที่ไม่เคยทำหน้าที่ผู้ตัดสินอะไรเลย ทว่าถูกอุ้มไปคุมเชิ้ตดำยังออกมายืนยันว่าจังหวะดังกล่าวสมควรเป็นใบแดง รวมทั้งยังไม่ยกเลิกใบแดงให้กับ ภูริทัต ทั้งๆ ที่จังหวะดังกล่าวมีภาพมีคลิปแชร์กระจายไปสู่โลกออนไลน์ว่านักเตะคนนี้เข้าถึงลูกบอลก่อน และไม่ได้เหยียดขาเข้าไปทำร้ายคู่แข่งที่ลงไปนอนดีดดิ้นเจียนตายแต่อย่างใด
หลังจากนั้นสองสโมสรยักษ์ใหญ่อย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ ชลบุรี เอฟซี ได้ส่งตัวแทนเข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อการกีฬาแห่งประเทศไทย ให้มีการตรวจสอบการทำงานของ เสธ.ทหารรายนี้ พร้อมกับยก 10 เหตุการณ์ประกอบว่าการตัดสินของขาใหญ่สมาคมผู้ตัดสินอาจจะผิดพลาด ไม่ว่ากรณีแบนผู้ตัดสินที่ไม่เป่าจุดโทษให้กับบางสโมสร รวมทั้งยังมีการลงโทษผู้ตัดสินหลายรายที่มองว่าทำหน้าที่ได้ดีแล้ว
อย่างไรก็ตามดูเหมือน การกีฬาแห่งประเทศไทย เองก็มองว่าเป็นการบริหารงานภายใน และไม่ต้องการเข้าไปก้าวก่ายการทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน รวมถึงการทำงานของฝ่ายบริหารสมาคมผู้ตัดสินบางคน ซึ่งเมื่อ กกท.ลอยตัวเช่นนี้ ความเปลี่ยนแปลงในเรื่องการทำหน้าที่ผู้ตัดสินคงเกิดขึ้นได้ยาก
ขณะเดียวกันเหล่าบรรดาผู้ตัดสิน และอดีตผู้ตัดสินหลายรายที่ไม่พอใจการบริหารงานในลักษณะดังกล่าวเริ่มมีการรวมตัวกันแสดงจุดยืนไม่อยากให้วิชาชีพของตนต้องตกต่ำและวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้อย่างหนาหูขึ้น แต่แทนที่ใครบางคนจะถือโอกาสชี้แจง หรือรับฟังปัญหา กลับออกมาแสดงความเห็นว่าคนกลุ่มดังกล่าวไม่หวังดีต่อวงการผู้ตัดสิน และจ้องทำลายล้างกัน แถมยังบอกว่าหากผู้ตัดสินคนใดไปร่วมวงด้วย อาจจะเป็นการผิดระเบียบของสมาคมผู้ตัดสิน ถามจริงๆ ว่าผู้ตัดสินเหล่านี้เขารวมตัวกัน มันจะทำร้ายวงการผู้ตัดสินได้อย่างไร เขาไม่ได้รวมตัวกันไปเผาบ้านใครที่ไหน เขาแค่แสดงจุดยืนของตัวเองว่าไม่เห็นด้วยต่อการตัดสินลงโทษผู้ตัดสินแบบไม่ชอบธรรมเท่านั้น
จะว่าไปเหล่าบรรดาสโมสรที่ออกมาร้องทุกข์ หรือผู้ตัดสินเก่าๆ เขาไม่ได้อยากทำร้ายวงการฟุตบอลไทย เขาเพียงแค่อยากเห็นผู้ตัดสินทั้งหลายที่ทำหน้าที่อยู่ในปัจจุบันพัฒนาการทำหน้าที่และยกระดับตัวเองมากกว่า นี่ร่ำๆ ว่าจะมีการคัดเลือกผู้ตัดสินใหม่เข้ามาทำหน้าที่ในลีกอีก เพราะที่ผ่านมากรรมการโดนแบนไปเยอะ บางคนเป่าดี แต่ไม่มีงานต่อ บางรายเป่าผิด เป่าพลาด ขนาดเจ้าตัวยังยอมรับผิดแล้ว ก็ยังมีงานได้ทำหน้าที่ต่อในอาทิตย์ถัดไป แล้วแบบนี้จะเป็นใครกันแน่ที่ทำลายวงการผู้ตัดสิน...