คอลัมน์ “สกอร์บอร์ด” โดย “แมวดำ”
เมื่อวันพุธที่ 16 กันยายนที่ผ่านมา มีโปรแกรมฟาดแข้งของศึกฟุตบอลโตโยต้า ไทยพรีเมียร์ลีก 2015 นัดตกค้าง ระหว่างทีม การท่าเรือไทย เอฟซี เปิดรังเหย้าต้อนรับการมาเยือนของ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ทั้งสองทีมอยู่ในสถานการณ์ที่แตกต่าง เจ้าบ้านถือเป็นสโมสรเก่าแก่ระดับตำนานของวงการฟุตบอลไทย แต่กลับต้องมาอยู่ในสภาวะหนีตายสุดชีวิต เมื่อมีอันดับอยู่ปลายตาราง ผิดกับทีมเยือนที่สถาปนาตัวเองไปเป็นทีมยักษ์ใหญ่ของลีก นับตั้งแต่เลื่อนชั้น และมีลุ้นแชมป์ลีกในฤดูกาลนี้ด้วยการเป็นทีมอันดับ 2 ตามหลัง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จ่าฝูงเพียง 3 แต้ม คะแนนแต่ละคะแนนจึงมีความหมายกับทั้งสองทีมเป็นอย่างยิ่ง
ทั้งนี้รูปเกมแม้ "เจ้าท่า" จะเป็นทีมท้ายตาราง ทว่าด้วยสรรพกำลังที่มี บวกกึ๋นของกุนซือจอมเก๋าอย่าง สมชาย ทรัพย์เพิ่ม ที่มีประสบการณ์ทำทีมรอดพ้นการหนีตายมาได้ตลอดกับ ทีโอที เอสซี ผสมโรงกับพลังของกองเชียร์เจ้าถิ่นที่ดุดันมุ่งมั่นเกินร้อย จึงสภาพไม่ต่างกับสิงห์จนตรอกที่ต้องสู้เพื่อรอดตกชั้น
แต่การต่อกรกับทีมที่มีผู้เล่นคุณภาพคับแก้วอย่าง เมืองทอง ในเพลานี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากมีนักเตะแถวหน้าอย่าง ธีรศิลป์ แดงดา, ดัสกร ทองเหลา, มาริโอ ยูรอฟสกี รวมไปถึงพระเอกเอ็มวี สารัช อยู่เย็น เป็นตัวขับเคลื่อนเกม สุดท้ายพ่ายแพ้ไป 1-2 อย่างเจ็บแสบ ที่บอกว่าเจ็บแสบคือทีม การท่าเรือ มีโอกาสได้ประตูขึ้นนำตั้งแต่ครึ่งแรกจากการส่งบอลตุงตาข่ายไปแล้ว โดยที่ "เทพกวิน บินได้" ก็ได้แต่มองด้วยสายตา ทว่ากลับถูกไลน์แมนยกธงเป็นลูกล้ำหน้า ทั้งๆ ที่ดูเทปกี่ร้อยกี่พันครั้งมันก็ไม่เห็นว่าจะล้ำหน้ากันตรงไหน แถมช่วงท้ายเกมเจ้าถิ่นยังโดนไล่ออกอีก
นอกจากนี้ภายในเกมยังมีจังหวะรุนแรงหลายครั้ง โดยเฉพาะการเข้าสกัดของ "กัปตันโก้" ที่เสียบเอานักเตะเจ้าถิ่นถึงกับร่วงไปกอง แต่กรรมการกลับทำเฉยไม่ยอมแจกใบเหลืองที่สอง เพื่อเป็นใบแดง จนส่งผลทั้งนักเตะ สตาฟฟ์โค้ช และกองเชียร์เจ้าท่าหัวเสียไปตามๆ กัน
แม้แต่คุณแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ ประธานสโมสร "อาชาท่าเรือ" เองก็ยังออกมากล่าวกับสื่อด้วยถ้อยคำที่แสนสุภาพ ทว่าเปี่ยมด้วยความหมายว่า วันนี้เข้าใจคำพูดของ เนวิน ชิดชอบ นายใหญ่ทีม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่บอกขอต้อนรับสู่นรกไทยพรีเมียร์ลีกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดยบิ๊กบอส "ปราสาทสายฟ้า" เคยกล่าวกับ คุณแป้ง ในนัดแรกที่ตัดสินใจอุ้มทีมลูกหนังระดับตำนานจากย่านคลองเตยไปเยือน บุรีรัมย์ ว่า "ผมคงต้องบอกคุณนวลพรรณว่ายินดีต้อนรับสู่นรกไทยพรีเมียร์ลีก เพราะการทำทีมชาติกับทำสโมสรนั้นอารมณ์ความรู้สึกต่างกัน ตอนทำทีมชาติมีคำว่า ชาติ ซึ่งยิ่งใหญ่เหนือกว่าทุกสิ่ง ในแง่ของแฟนบอลขอเพียงตั้งใจทำเต็มที่ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไรก็ไม่มีใครตำหนิ แต่กับสโมสร แฟนบอลท่าเรือคาดหวังกับการมาของประธานคนใหม่สูงมาก และจะเป็นแรงกดดันมหาศาลสำหรับคุณนวลพรรณ ที่สำคัญยังมีอะไรอีกหลายอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนและจะได้เห็นในการทำสโมสร"
ซึ่งในประโยคท้ายของคุณเนวินที่ว่า "ที่สำคัญยังมีอะไรอีกหลายอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนและจะได้เห็นในการทำสโมสร" นั้น วันนี้ คุณแป้ง เองก็น่าจะซาบซึ้งตรึงใจเป็นอย่างดี ที่สำคัญสงสัยอยู่นิดเดียวว่าการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลที่กำลังจะมาถึงในเดือนตุลาคมนี้ คุณแป้ง ในฐานะประธานสโมสรการท่าเรือ เอฟซี ที่ว่ากันตามตรงก็น่าจะมีสิทธิ์โหวตออกเสียงกับเขาด้วย จะยังเลือกคนที่มีส่วนสร้างนรกกลับมาสู่ตำแหน่งเดิมอีกหรือไม่...
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!***
เมื่อวันพุธที่ 16 กันยายนที่ผ่านมา มีโปรแกรมฟาดแข้งของศึกฟุตบอลโตโยต้า ไทยพรีเมียร์ลีก 2015 นัดตกค้าง ระหว่างทีม การท่าเรือไทย เอฟซี เปิดรังเหย้าต้อนรับการมาเยือนของ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ทั้งสองทีมอยู่ในสถานการณ์ที่แตกต่าง เจ้าบ้านถือเป็นสโมสรเก่าแก่ระดับตำนานของวงการฟุตบอลไทย แต่กลับต้องมาอยู่ในสภาวะหนีตายสุดชีวิต เมื่อมีอันดับอยู่ปลายตาราง ผิดกับทีมเยือนที่สถาปนาตัวเองไปเป็นทีมยักษ์ใหญ่ของลีก นับตั้งแต่เลื่อนชั้น และมีลุ้นแชมป์ลีกในฤดูกาลนี้ด้วยการเป็นทีมอันดับ 2 ตามหลัง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จ่าฝูงเพียง 3 แต้ม คะแนนแต่ละคะแนนจึงมีความหมายกับทั้งสองทีมเป็นอย่างยิ่ง
ทั้งนี้รูปเกมแม้ "เจ้าท่า" จะเป็นทีมท้ายตาราง ทว่าด้วยสรรพกำลังที่มี บวกกึ๋นของกุนซือจอมเก๋าอย่าง สมชาย ทรัพย์เพิ่ม ที่มีประสบการณ์ทำทีมรอดพ้นการหนีตายมาได้ตลอดกับ ทีโอที เอสซี ผสมโรงกับพลังของกองเชียร์เจ้าถิ่นที่ดุดันมุ่งมั่นเกินร้อย จึงสภาพไม่ต่างกับสิงห์จนตรอกที่ต้องสู้เพื่อรอดตกชั้น
แต่การต่อกรกับทีมที่มีผู้เล่นคุณภาพคับแก้วอย่าง เมืองทอง ในเพลานี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากมีนักเตะแถวหน้าอย่าง ธีรศิลป์ แดงดา, ดัสกร ทองเหลา, มาริโอ ยูรอฟสกี รวมไปถึงพระเอกเอ็มวี สารัช อยู่เย็น เป็นตัวขับเคลื่อนเกม สุดท้ายพ่ายแพ้ไป 1-2 อย่างเจ็บแสบ ที่บอกว่าเจ็บแสบคือทีม การท่าเรือ มีโอกาสได้ประตูขึ้นนำตั้งแต่ครึ่งแรกจากการส่งบอลตุงตาข่ายไปแล้ว โดยที่ "เทพกวิน บินได้" ก็ได้แต่มองด้วยสายตา ทว่ากลับถูกไลน์แมนยกธงเป็นลูกล้ำหน้า ทั้งๆ ที่ดูเทปกี่ร้อยกี่พันครั้งมันก็ไม่เห็นว่าจะล้ำหน้ากันตรงไหน แถมช่วงท้ายเกมเจ้าถิ่นยังโดนไล่ออกอีก
นอกจากนี้ภายในเกมยังมีจังหวะรุนแรงหลายครั้ง โดยเฉพาะการเข้าสกัดของ "กัปตันโก้" ที่เสียบเอานักเตะเจ้าถิ่นถึงกับร่วงไปกอง แต่กรรมการกลับทำเฉยไม่ยอมแจกใบเหลืองที่สอง เพื่อเป็นใบแดง จนส่งผลทั้งนักเตะ สตาฟฟ์โค้ช และกองเชียร์เจ้าท่าหัวเสียไปตามๆ กัน
แม้แต่คุณแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ ประธานสโมสร "อาชาท่าเรือ" เองก็ยังออกมากล่าวกับสื่อด้วยถ้อยคำที่แสนสุภาพ ทว่าเปี่ยมด้วยความหมายว่า วันนี้เข้าใจคำพูดของ เนวิน ชิดชอบ นายใหญ่ทีม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่บอกขอต้อนรับสู่นรกไทยพรีเมียร์ลีกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดยบิ๊กบอส "ปราสาทสายฟ้า" เคยกล่าวกับ คุณแป้ง ในนัดแรกที่ตัดสินใจอุ้มทีมลูกหนังระดับตำนานจากย่านคลองเตยไปเยือน บุรีรัมย์ ว่า "ผมคงต้องบอกคุณนวลพรรณว่ายินดีต้อนรับสู่นรกไทยพรีเมียร์ลีก เพราะการทำทีมชาติกับทำสโมสรนั้นอารมณ์ความรู้สึกต่างกัน ตอนทำทีมชาติมีคำว่า ชาติ ซึ่งยิ่งใหญ่เหนือกว่าทุกสิ่ง ในแง่ของแฟนบอลขอเพียงตั้งใจทำเต็มที่ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไรก็ไม่มีใครตำหนิ แต่กับสโมสร แฟนบอลท่าเรือคาดหวังกับการมาของประธานคนใหม่สูงมาก และจะเป็นแรงกดดันมหาศาลสำหรับคุณนวลพรรณ ที่สำคัญยังมีอะไรอีกหลายอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนและจะได้เห็นในการทำสโมสร"
ซึ่งในประโยคท้ายของคุณเนวินที่ว่า "ที่สำคัญยังมีอะไรอีกหลายอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนและจะได้เห็นในการทำสโมสร" นั้น วันนี้ คุณแป้ง เองก็น่าจะซาบซึ้งตรึงใจเป็นอย่างดี ที่สำคัญสงสัยอยู่นิดเดียวว่าการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลที่กำลังจะมาถึงในเดือนตุลาคมนี้ คุณแป้ง ในฐานะประธานสโมสรการท่าเรือ เอฟซี ที่ว่ากันตามตรงก็น่าจะมีสิทธิ์โหวตออกเสียงกับเขาด้วย จะยังเลือกคนที่มีส่วนสร้างนรกกลับมาสู่ตำแหน่งเดิมอีกหรือไม่...
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!***