ดนัย อุดมโชค นักเทนนิสมือ 1 ทีมชาติไทย ประกาศแขวนแร็กเกตอย่างเป็นทางการแล้ว ยุติบทบาทการเป็นนักหวดระดับอาชีพ ก่อนแถลงแบบเป็นทางการอีกครั้งวันที่ 26 กรกฏาคมนี้ ส่วนอนาคตขอผันตัวไปทำงานเป็นโค้ช ปั้นนักหวดเยาวชนขึ้นมาเป็นตัวตายตัวแทน
นักหวดลูกสักหลาดหมายเลข 1 ของไทย คว้ารางวัลใหญ่สุดท้ายในชีวิตนั่นคือเหรียญทอง ซีเกมส์ ประเภททีมชาย ที่ประเทศสิงคโปร์ เมื่อเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา ก่อนขอยุติบทบาทนักเทนนิสอาชีพผ่านทาง เฟซบุ๊ค ส่วนตัว โดยเจ้าตัวระบุว่าจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้ง วันที่ 26 กรกฏาคมนี้ ในงานมอบรางวัล สิงห์ เทนนิส บางกอก โอเพน ที่ อิมแพค เมืองทองธานี
ข้อความของ ดนัย บนเฟซบุ๊ค ระบุว่า
"ในชีวิตการเล่นเทนนิสของผม ผมอยากจะขอบคุณครอบครัวที่คอยให้กำลังใจ คอยสนับสนุนผมเสมอมา คุณพ่อได้เสียสละเวลาทั้งหมดทั้งหน้าที่การงานทุกอย่างเพื่อที่จะมาขับรถรับส่งผมไปแข่งที่โน่นทีที่นี่ที ต้องพาไปซ้อมทุกวัน ซึ่งต้องบอกว่าบ้านที่เราอยู่กับสนามซ้อมนั้นมันไกลกันมาก ถ้ารถติดก็สองสามชั่วโมงในการเดินทางทีนึงซึ่งตอนนั้นผมไม่ทราบหรอกครับว่ามันนานแค่ไหนเพราะผมมักจะหลับตลอดทาง แต่มาตอนนี้ผมต้องขับรถเองถึงได้รู้ว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลยที่จะต้องทนก็สภาพการจราจรที่แสนสาหัสอย่างบ้านเรา แต่พ่อก็ไม่เคยบ่นสักคำ ส่วนแม่ผมก็คอยที่จะทำอาหารเวลาที่เรากลับมาถึงบ้านเสมอ ไม่เคยขาดแม้ตอนนั้นแม่จะยังต้องทำงานเปิดร้านตัดเสื้อสุภาพสตรี
อยู่ก็ตาม แม่ก็ยังจะต้องทั้งดูแลลูกค้าที่มาตัดเสื้อแต่พอผมกลับมาถึงร้านแม่ก็ต้องกุลีกุจอไปทำอาหารให้ผมจนได้ แม่ไม่เคยบ่นเช่นกัน และผมก็อยากจะขอขอบคุณผู้สนับสนุนผมตั้งแต่เด็กเล็กๆมาจนโต ท่านแรกเลยคือคุณสันติ ภิรมย์ภักดี และพี่ๆทุกคนของครอบครัวสิงห์ที่ให้การสนับสนุนผมตั้งแต่ผมอายุ 10 ขวบจนมาถึงปัจจุบัน สิงห์เป็นผู้ให้ทั้งโอกาส ให้ทั้งความรู้ความสามารถ การพัฒนาการต่างๆจากพี่ๆทีมโค้ชของสิงห์ทำให้ผมมีทุกวันนี้ได้และทุกคนได้รู้จักผมได้
อีกท่านที่ผมอยากขอบคุณคือพี่ต๊อกสันติสุข คล่องใช้ยา ผู้บริหารสายการบินแอร์เอเชียที่ให้การสนับสนุนเรื่องการเดินทางไปแข่งต่างประเทศและในไทย ซึ่งทำให้ผมสามารถเดินทางไปทุกๆแห่งอย่างง่ายดายด้วยสายการบินแอร์เอเชีย
และที่ขาดไม่ได้คือเรื่องอุปกรณ์การเล่นซึ่งทางบริษัท โยเน็ก(Yonex) ก็ให้การสนับสนุนผมเรื่องไม้เทนนิสและชุดกีฬาตอนที่ผมเล่นจนวินาทีสุดท้ายของการเป็นนักเทนนิสอาชีพ อีกทั้งสนามฝึกซ้อมของผมไม่ว่าจะเป็นที่คอร์ท CV Sport Club,สนามของทีมสิงห์(ปิรมิด) และคอร์ทของสมาคมลอนเทนนิส ที่ได้สนับสนุนเรื่องสนามฝึกซ้อมของผมเสมอมา
รวมไปถึงสปอนเซอร์รายเก่าๆทุกรายที่ผมเคยได้ร่วมงานด้วยไม่ว่าจะเป็นพี่ตึ๋ง,พี่น้อย ของบริษัทดันล็อป,อาสุชาติ ของบริษัทเฟอร์เคิล,คุณสรัล ของปตท.,คุณชาล์ล ของโอ๊คเล่ย์,การบินไทย,เอ็นแปซิฟิก,บริษัท โซนี่,ไนกี้,นิสสัน และอีกหลายๆท่านที่ผมไม่ได้กล่าวถึง ขอบคุณทุกๆท่านจากใจจริงครับ
สุดท้ายนี้ผมอยากจะขอขอบคุณผู้ที่ทำให้ผมยืดระยะเวลาในการเล่นออกมาอีกน่าจะสามถึงสี่ปีได้ซึ่งนั่นก็คือภรรยาและลูกๆของผม ที่คอยเป็นทั้งกำลังใจ เป็นทั้งแรงผลักดันแรงกระตุ้น เป็นทั้งผู้ที่ดึงผมมาจากความคิดที่จะเลิกเล่นมา
ได้ระยะหนึ่งถึงแม้ว่าตอนนี้ทางภรรยาก็ยังคงอยากให้ผมเล่นอยู่ แต่ผมได้ตัดสินใจแล้วว่าผมควรจะหยุดหลังจากที่ได้เหรียญทองในการแข่งขันซีเกมส์ครั้งล่าสุดที่สิงคโปร์ มันทำให้ผมจบได้อย่างสวยหรูไร้ที่ติ ซึ่งผมคิดว่ามันคงจะดี
กว่าที่ฝืนทนเล่นจนรอวันที่คนมาถามว่าเมื่อไหร่ถึงจะเลิก ซึ่งมันคงจะดีกว่าที่ผมได้จบแบบนี้และผมพอใจกับมัน กับกีฬาที่ผมทุ่มเททั้งชีวิต กับกีฬาที่ผมรักและอดทนบากบั่นกว่าที่จะได้ความสำเร็จแต่ละชิ้นมา สุดท้ายของสุดท้ายผม
อยากจะขอขอบคุณแฟนๆเทนนิสของผมทุกคนทุกๆกำลังใจที่คอยมีให้ผม คอยตามเชียร์ผมไม่ว่าผมจะแพ้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ก็ยังตามให้กำลังใจเสมอมา อย่างพี่ปุ๊ ซึ่งตอนนี้เรานับถือกันแบบพี่น้อง เพราะพี่เค้าคอยตามเชียร์ คอยดูแลเทคแคร์อย่างดีถ้าผมได้ไปแข่งที่กว่างโจว และอีกหลายๆท่านที่คอยดูแลผมตอนที่ผมไปแข่งในแต่ละที่ ผมจะไม่มีวันลืมความรู้สึกดีๆที่เรามีให้แก่กันเลยครับ
และอีกสุดท้ายคือผมอยากจะขอบคุณกีฬาเทนนิสที่ทำให้ผมได้เจอคนดีๆ ได้ทำในสิ่งที่อยากทำที่ตั้งใจไว้ ได้ประสบการณ์ดีๆที่น่าจดจำและผมจะเก็บความทรงจำพวกนี้ไว้ตลอดไปครับ.."
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *