คอลัมน์ Buzzer Beat โดย MVP
สัปดาห์นี้ยังขอเกาะติดสถานการณ์ แอลเอ เลเกอร์ส ทีมขวัญใจมหาชนแห่งศึก บาสเก็ตบอล เอ็นบีเอ (NBA) ที่ข้าสู่ยุคตกต่ำ และไม่เคยสัมผัสรอบเพลย์ออฟเลย ตลอด 2 ฤดูกาลล่าสุด ทว่าหลังผ่านพ้นการดราฟต์ เมิ่อเช้าวันศุกร์ที่ 26 มิถุนายน ตามวัน-เวลาไทย บรรดากองเชียร์อาจพอมีความหวังบ้าง ถึงแม้ความสำเร็จอาจไม่ได้เกิดขึ้นชั่วพริบตา
เลเกอร์ส ใช้สิทธ์ดราฟต์รอบแรก อันดับ 2 คัดเลือก ดี’แองเจโล รัสเซลล์ หนุ่มจากมหาวิทยาลัย โอไฮโอ สเตท ทำเอา ไบรอน สกอตต์ หัวหน้าโค้ช ซึ่งเคยร่วมงานกับ คริส พอล สมัยอยู่ นิวออร์ลีนส์ ฮอร์เน็ตส์ (เพลิแกนส์ ปัจจุบัน) ปลื้มอกปลื้มใจ ก็ยังมองว่าฝีไม้ลายมือของทั้งคู่ไม่แตกต่างกัน และฟันธงจะก้าวมาเป็น “นิว แมจิก จอห์นสัน”
หากร่างภาพแบบคร่าวๆ 5 ตัวจริง เลเกอร์ส ย่อมมีความเป็นไปได้ว่า สกอตต์ อาจใส่ชื่อ รัสเซลล์ รับบทการ์ดคู่กับ จอร์แดน คลาร์กสัน มาผนึกกำลัง โคบี ไบรอันท์ ที่จะถูกดันเล่น สมอลล์ ฟอร์เวิร์ด และ จูเลียส แรนเดิล ดาวรุ่งผู้โชคร้าย ขาหักเกมเปิดซีซันที่แล้ว กับ ฮุสตัน ร็อคเก็ตส์ ส่วนอีก 1 ตำแหน่ง ก็ต้องลุ้นกันต่อช่วงเปิดตลาดฟรีเอเยนต์
จุดเด่นสำหรับการมี รัสเซลล์ จับคู่ คลาร์กสัน ส่งผลให้เกมรับแข็งแกร่งขึ้น ทั้งการป้องกันจ่ายบอล และลูกชู้ตซึ่งๆ หน้า เนื่องจากทั้งคู่มีส่วนสูง 6 ฟุต 5 นิ้ว (196 เซนติเมตร) มากกว่าค่าเฉลี่ยของ พอยน์ท การ์ด ทั่วไปๆ และตรงตามเกณฑ์มาตรฐาน ชูตติงการ์ด ซี่งโฉมใหม่แบ็กคอร์ต น่าจะสร้างความหนักใจแก่บรรดาตัวคุมบอลแฟรนไชส์อื่นๆ ได้
ปัญหาที่มีมาตลอดของ แชมป์ 16 สมัย นั่นคือ โคบี ไบรอันท์ ลูกพี่ใหญ่ ไม่ค่อยได้รับการสนับสนุนจากผองเพื่อนเท่าที่ควร บ่อยครั้งเรามักจะเห็น การ์ดดีกรีแชมป์ 5 สมัย ในวัย 36 ปี ประจันหน้าคู่ต่อสู้เพียงลำพัง และถูกบีบให้ขึ้นชู้ตลูกยากๆ อยู่เสมอ และจะยังเป็นเช่นนี้ต่อไป หาก มิตช์ คัพแช็ก ผู้จัดการทั่วไป ล้มเหลวในการล่าฟรีเอเยนต์ ซัมเมอร์นี้
ลำพังเพียง คลาร์กสัน วัย 23 ปี ทำได้เพียง 3.5 แอสซิสต์ จากการลงสนามเฉลี่ย 25 นาทีต่อเกม แต่สำหรับ รัสเซลล์ พรสวรรค์ที่ถูกยกทาบรัศมี แมจิก จอห์นสัน คือ การใช้เวลาเพียง .241 วินาที ล็อกเป้าคนรับบอล เร็วกว่านักกีฬาประเภทอื่นๆ ราว 10 รวม จอห์น วอลล์ การ์ด วอชิงตัน วิซาร์ดส และ โคลิน เคเปอร์นิก ควอเตอร์แบ็ก ซานฟรานซิสโก โฟร์ตีไนเนอร์ส
ผลผลิตจาก โอไฮโอ สเตท มีค่าเฉลี่ย 5.9 แอสซิสต์ สมัยเล่นระดับมหาวิทยาลัย นับว่าไม่เลว สำหรับผู้เล่นที่แบกภาระผลิตสกอร์ ยิงฟิลด์โกล 14.7 ครั้งต่อเกม แถมมีทีเด็ดจากลูก 3 คะแนน มีประสิทธิภาพ 41.1 เปอร์เซ็นต์ เรียกได้ว่า เลเกอร์ส น่าจะใช้ประโยชน์ได้ทั้งการถือบอล และขยับหาพื้นที่ว่าง รอรับบอลแล้วส่องไกล
อย่างไรเสียก็ต้องยอมรับว่า ชั่วโมงนี้ เลเกอร์ส อาจเป็นตัวเลือกที่ถูกซูเปอร์สตาร์มองข้าม เนื่องจากอนาคตของทีมยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง และ โคบี เองก็กำลังจะกลายเป็นอดีต แม้จะมีข่าวพัวพันกับบิ๊กเนม ลามาร์คัส อัลดริดจ์ กับ เดอมาร์คัส เคาซิน ดังนั้นคงต้องรอกันอีกสัก 2-3 ปี เพื่อให้ดาวรุ่ง อาทิ รัสเซลล์ , คลาร์กสัน และ แรนเดิล สร้างความน่าเชื่อถือว่า แชมป์ 16 สมัย จะกลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
สัปดาห์นี้ยังขอเกาะติดสถานการณ์ แอลเอ เลเกอร์ส ทีมขวัญใจมหาชนแห่งศึก บาสเก็ตบอล เอ็นบีเอ (NBA) ที่ข้าสู่ยุคตกต่ำ และไม่เคยสัมผัสรอบเพลย์ออฟเลย ตลอด 2 ฤดูกาลล่าสุด ทว่าหลังผ่านพ้นการดราฟต์ เมิ่อเช้าวันศุกร์ที่ 26 มิถุนายน ตามวัน-เวลาไทย บรรดากองเชียร์อาจพอมีความหวังบ้าง ถึงแม้ความสำเร็จอาจไม่ได้เกิดขึ้นชั่วพริบตา
เลเกอร์ส ใช้สิทธ์ดราฟต์รอบแรก อันดับ 2 คัดเลือก ดี’แองเจโล รัสเซลล์ หนุ่มจากมหาวิทยาลัย โอไฮโอ สเตท ทำเอา ไบรอน สกอตต์ หัวหน้าโค้ช ซึ่งเคยร่วมงานกับ คริส พอล สมัยอยู่ นิวออร์ลีนส์ ฮอร์เน็ตส์ (เพลิแกนส์ ปัจจุบัน) ปลื้มอกปลื้มใจ ก็ยังมองว่าฝีไม้ลายมือของทั้งคู่ไม่แตกต่างกัน และฟันธงจะก้าวมาเป็น “นิว แมจิก จอห์นสัน”
หากร่างภาพแบบคร่าวๆ 5 ตัวจริง เลเกอร์ส ย่อมมีความเป็นไปได้ว่า สกอตต์ อาจใส่ชื่อ รัสเซลล์ รับบทการ์ดคู่กับ จอร์แดน คลาร์กสัน มาผนึกกำลัง โคบี ไบรอันท์ ที่จะถูกดันเล่น สมอลล์ ฟอร์เวิร์ด และ จูเลียส แรนเดิล ดาวรุ่งผู้โชคร้าย ขาหักเกมเปิดซีซันที่แล้ว กับ ฮุสตัน ร็อคเก็ตส์ ส่วนอีก 1 ตำแหน่ง ก็ต้องลุ้นกันต่อช่วงเปิดตลาดฟรีเอเยนต์
จุดเด่นสำหรับการมี รัสเซลล์ จับคู่ คลาร์กสัน ส่งผลให้เกมรับแข็งแกร่งขึ้น ทั้งการป้องกันจ่ายบอล และลูกชู้ตซึ่งๆ หน้า เนื่องจากทั้งคู่มีส่วนสูง 6 ฟุต 5 นิ้ว (196 เซนติเมตร) มากกว่าค่าเฉลี่ยของ พอยน์ท การ์ด ทั่วไปๆ และตรงตามเกณฑ์มาตรฐาน ชูตติงการ์ด ซี่งโฉมใหม่แบ็กคอร์ต น่าจะสร้างความหนักใจแก่บรรดาตัวคุมบอลแฟรนไชส์อื่นๆ ได้
ปัญหาที่มีมาตลอดของ แชมป์ 16 สมัย นั่นคือ โคบี ไบรอันท์ ลูกพี่ใหญ่ ไม่ค่อยได้รับการสนับสนุนจากผองเพื่อนเท่าที่ควร บ่อยครั้งเรามักจะเห็น การ์ดดีกรีแชมป์ 5 สมัย ในวัย 36 ปี ประจันหน้าคู่ต่อสู้เพียงลำพัง และถูกบีบให้ขึ้นชู้ตลูกยากๆ อยู่เสมอ และจะยังเป็นเช่นนี้ต่อไป หาก มิตช์ คัพแช็ก ผู้จัดการทั่วไป ล้มเหลวในการล่าฟรีเอเยนต์ ซัมเมอร์นี้
ลำพังเพียง คลาร์กสัน วัย 23 ปี ทำได้เพียง 3.5 แอสซิสต์ จากการลงสนามเฉลี่ย 25 นาทีต่อเกม แต่สำหรับ รัสเซลล์ พรสวรรค์ที่ถูกยกทาบรัศมี แมจิก จอห์นสัน คือ การใช้เวลาเพียง .241 วินาที ล็อกเป้าคนรับบอล เร็วกว่านักกีฬาประเภทอื่นๆ ราว 10 รวม จอห์น วอลล์ การ์ด วอชิงตัน วิซาร์ดส และ โคลิน เคเปอร์นิก ควอเตอร์แบ็ก ซานฟรานซิสโก โฟร์ตีไนเนอร์ส
ผลผลิตจาก โอไฮโอ สเตท มีค่าเฉลี่ย 5.9 แอสซิสต์ สมัยเล่นระดับมหาวิทยาลัย นับว่าไม่เลว สำหรับผู้เล่นที่แบกภาระผลิตสกอร์ ยิงฟิลด์โกล 14.7 ครั้งต่อเกม แถมมีทีเด็ดจากลูก 3 คะแนน มีประสิทธิภาพ 41.1 เปอร์เซ็นต์ เรียกได้ว่า เลเกอร์ส น่าจะใช้ประโยชน์ได้ทั้งการถือบอล และขยับหาพื้นที่ว่าง รอรับบอลแล้วส่องไกล
อย่างไรเสียก็ต้องยอมรับว่า ชั่วโมงนี้ เลเกอร์ส อาจเป็นตัวเลือกที่ถูกซูเปอร์สตาร์มองข้าม เนื่องจากอนาคตของทีมยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง และ โคบี เองก็กำลังจะกลายเป็นอดีต แม้จะมีข่าวพัวพันกับบิ๊กเนม ลามาร์คัส อัลดริดจ์ กับ เดอมาร์คัส เคาซิน ดังนั้นคงต้องรอกันอีกสัก 2-3 ปี เพื่อให้ดาวรุ่ง อาทิ รัสเซลล์ , คลาร์กสัน และ แรนเดิล สร้างความน่าเชื่อถือว่า แชมป์ 16 สมัย จะกลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
