ASTV ผู้จัดการรายวัน – ทัพนักฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย เปิดปฐมบทผ่านเข้าเล่น ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ พร้อมจารึกผลงานด้วยการคว้าชัยติดมือกลับบ้าน 1 นัด แต่การบ้านสำคัญจากนี้อยู่ที่ว่าจะต่อยอดความสำเร็จให้ต่อเนื่องได้อย่างไร โดยทุกฝ่ายมุ่งเป้าไปที่การจัดการแข่งขันฟุตบอลลีกหญิง ที่มีการแทงเรื่องมาหลายปีแต่ยังไม่เกิดขึ้นเสียที ซึ่งหากไม่รีบทำในเวลาที่เหล็กกำลังร้อนเช่นนี้ คงจะไม่มีช่วงไหนที่เหมาะสมกว่าอีกแล้ว
ผลงานของ “แข้งสาวไทย” ในศึกฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก 2015 ที่แคนาดา ได้รับเสียงชื่นชมมากมายแม้จะจอดป้ายตั้งแต่รอบแรก ไม่โดนถลุงประตูพรุนเป็นสิบลูกในแต่ละนัดดั่งคำครหาก่อนแข่ง โดยสุดท้ายพ่ายต่อทีมชั้นนำอย่าง นอร์เวย์ และ เยอรมนี ด้วยสกอร์ 0-4 ทั้งสองนัด แต่ยังกู้หน้าด้วยการกำชัยเหนือ ไอวอรี โคสต์ 3-2 จบที่ อันดับ 3 กลุ่ม บี พร้อมเก็บประสบการณ์กลับบ้านเต็มกระเป๋า และสร้างกระแสฟีเวอร์ให้คึกคักต่อเนื่อง
ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าวันที่ 21 มิถุนายน ที่ผ่านมา คณะนักฟุตบอล พร้อมด้วย “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีม และ “โค้ชหนึ่ง” หนึ่งฤทัย สระทองเวียน เฮดโค้ช ได้เดินทางกลับถึงมาตุภูมิเป็นที่เรียบร้อย ท่ามกลางแฟนบอลที่มารอต้อนรับอย่างอบอุ่นกว่าร้อยชีวิต ซึ่งผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่าสิ่งที่จะต่อยอดความสำเร็จครั้งนี้ต่อไปก็คือ ต้องมีการจัดการแข่งขันฟุตบอลลีกหญิงอาชีพขึ้นในประเทศไทยอย่างเป็นกิจลักษณะ
โดย “มาดามแป้ง” กล่าวพอใจกับผลงานพร้อมเผยว่าตนเตรียมที่จะหารือกับ สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เกี่ยวกับเรื่องการจัดตั้งลีกอาชีพทันที “พอใจและภูมิใจกับผลงานของทีมกับการไปบอลโลกครั้งแรก แต่เสียดายที่ไม่สามารถผ่านเข้ารอบ 16 ทีมได้ ต้องยอมรับว่าเราอยู่สายแข็ง และเป็นน้องใหม่ อีกทั้งยังมีอายุเฉลี่ยน้อยที่สุดในการแข่งขันเพียง 24 ปี รวมถึงสรีระยังเป็นรองคู่แข่ง หลายคนจึงมองว่าเกมกับ นอร์เวย์ และ เยอรมนี เราอาจจะโดนยิงเป็นสิบประตู แต่เราก็พิสูจน์ให้เห็นว่าเราเสียเพียง 4 ประตูเท่านั้น แล้วยังสามารถเก็บ 3 แต้มประวัติศาสตร์จากการชนะ ไอวอรี โคสต์ ได้ เราจึงไม่ใช่ทีมที่ไม่มีแต้มหรือเสียเป็นสิบๆประตู”
“ที่สำคัญรายการนี้ทำให้เราทราบแล้วว่าศักยภาพของคนไทยสามารถพัฒนาต่อไปในระดับโลกได้ แต่จะต้องมีการเตรียมทีมที่ดีมากขึ้น ถ้าเรามีการเตรียมทีมที่ดีก็จะไม่น้อยหน้าใคร โดยอย่างแรกคือเราต้องมีการจัดบอลลีกหญิงที่แข็งแกร่ง เพื่อพัฒนาฝีเท้านักกีฬาอย่างต่อเนื่องและหานักบอลเข้าสู่ทีม ซึ่งจากนี้จะเร่งประสานกับทางสมาคมฟุตบอลฯให้เกิดขึ้นเร็วที่สุด” หัวเรือหลักแม่เนื้ออ่อน เผย
พร้อมกันนี้ ผู้จัดการน่องนุ่มไทย เผยต่อว่าอยากกลับไปแก้มือใน ฟุตบอลโลก ครั้งหน้า ปี 2019 ที่ฝรั่งเศส “อยากกลับไปใจจะขาด แต่ต้องขึ้นอยู่กับความพร้อมของนักกีฬา เรายังมีเวลาในการเตรียมทีมและหานักกีฬาใหม่อีก 4 ปี ซึ่งตอนนี้ผู้เล่นหลายคนในทีมที่อายุ 27-28 ปี มีความมั่นใจมากขึ้น หลังจากได้เห็นว่ามีหลายทีม เช่น นอร์เวย์ ออสเตรเลีย และสวีเดน ที่มีผู้เล่นอายุมากกว่า 30 ปีอยู่ในทีมหลายราย ทุกคนจึงพร้อมที่จะสู้ต่อไป โดยงานต่อไปที่จะต้องเริ่มทำทันทีคือการเตรียมทีมลงเล่น โอลิมปิกเกมส์ 2016 รอบคัดเลือกโซนเอเชีย ซึ่งเราจะเป็นเจ้าภาพรอบสอง ร่วมสาย เวียดนาม เมียนมา ไต้หวัน และจอร์แดน โดยจะเริ่มฟาดแข้งตั้งแต่วันที่ 14 กันยายน นี้ ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นงานยาก เพราะคัดเอาเพียง 2 ทีมจากเอเชีย ที่มีทีมแข็งแกร่งอย่าง จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ อยู่ด้วย”
เช่นเดียวกับ “โค้ชหนึ่ง” ที่เห็นพ้องว่าควรจะต้องมีการจัดฟุตบอลลีกให้เกิดขึ้นเร็วที่สุด “ตอนนี้ทุกอย่างดีมาก เราได้เห็นโลกของฟุตบอลหญิงจริงๆ และผลงานที่ออกมาก็เกินความคาดหมาย สามารถเก็บ 3 แต้มได้ สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าเราสู้ได้ เชื่อว่าหากเรามีการเตรียมทีมอย่างมีระบบก็มีโอกาสที่จะผ่านเข้าสู่รอบลึกๆได้ แต่ปัญหาก็คือจากนี้จะมีน้องๆรุ่นใหม่ก้าวขึ้นมาแทนที่รุ่นพี่ได้หรือไม่ ซึ่งสิ่งสำคัญที่จะสร้างนักฟุตบอลใหม่ได้นั้น เราต้องมีการจัดแข่งฟุตบอลลีกหญิงอาชีพอย่างสมบูรณ์ เพื่อให้มีการพัฒนา และมีนักกีฬาใหม่เข้ามาเป็นตัวเลือกมากขึ้น”
อย่างไรก็ตาม ฟุตบอลลีกหญิง จะเกิดขึ้นได้คงต้องขึ้นอยู่กับการอนุมัติของ วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ที่จะเป็นโต้โผใหญ่ในการดำเนินการ โดย “บังยี” ที่ลัดฟ้ากลับมาพร้อมคณะนักกีฬาได้เผยว่า ตนพร้อมที่จะเดินหน้าผลักดันจัดการแข่งขันฟุตบอลลีกหญิงให้สำเร็จในเร็ววันนี้ และจะใช้โครงสร้างของฟุตบอล ไทย พรีเมียร์ ลีก เป็นต้นแบบในการพัฒนา ซึ่งจะต้องจับตากันต่อไปว่า “ลีกหญิง” จะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้ที่ประชุมสภากรรมการฯเคยหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมาถกแล้วหลายครั้ง แต่สุดท้ายแผนการก็ล่มไม่เป็นท่า
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
