ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - ศึกดวลวงสวิงหญิงระหว่างวันที่ 11-14 มิถุนายนนี้พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง เพราะเป็นศึกเมเจอร์ที่ 2 ของปีรายการ “เคพีเอ็มจี วีเมนส์ พีจีเอ แชมเปียนชิป” ชิงเงินรางวัลรวม 3,500,000 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 119 ล้านบาท) ณ เวสต์เชสเตอร์ คันทรี คลับ ระยะ 6,670 หลา พาร์ 73 นิว ยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา
หลังจากออกสตาร์ทฤดูกาล 2015 ปล่อยให้สาวที่เกิดในเกาหลีใต้กวาดแชมป์ไป 6 รายการรวด จากนั้นก้านเหล็กหญิงฝั่งอเมริกันและยุโรปเริ่มจับจังหวะได้พุ่งขึ้นเบียดจนทำให้ความสนุกเข้มข้นมีเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะเมเจอร์แรกรายการ “เอเอ็นเอ อินสไปเรชัน” ที่ผู้ชนะได้แก่ บริททานีย์ ลินซิคัม จากสหรัฐอเมริกา เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ส่วนล่าสุดคือ แอลพีจีเอ “มานูไลฟ์ แอลพีจีเอ คลาสสิก” ซูซานน์ เพ็ตเตอร์เซน จากนอร์เวย์ได้ไปครอง
ก่อนหน้านี้มองว่ายากเหลือเกินที่จะหาใครมาโค่น ลิเดีย โค สาวน้อยจากนิว ซีแลนด์ ที่นิ่งเกินวัย 18 ปีเจ้าของสถิติรั้งมือ 1 ของโลกอายุน้อยที่สุดทั้งฝ่ายชายและหญิง โดยปีนี้นับเฉพาะแชมป์ แอลพีจีเอ ทัวร์ คว้าไปแล้ว 2 รายการ ทว่าศึก “เคพีเอ็มจี วีเมนส์ พีจีเอ แชมเปียนชิป” อาจจะตกบัลลังก์ก็ได้ โดยมี ปาร์ค อินบี จากเกาหลีใต้และ สเตซีย์ ลูอิส จากสหรัฐอเมริกาเป็นผู้ท้าทาย
สำหรับโจทย์ในรายการเมเจอร์ที่ 2 ของปีที่ ปาร์ค อินบี ซึ่งปีนี้ได้แชมป์ 2 รายการเช่นเดียวกันได้แก่ “เอชเอสบีซี วีเมนส์ แชมเปียนส์” กับ “โวลันเทียร์ส ออฟ อเมริกา นอร์ธ เท็กซัส ชูตเอาต์” ต้องทำเพื่อแซงขึ้นมือ 1 คือจบไม่เกินที่ 29 หรือดีกว่า แน่นอนต้องดูผลงานของ ลิเดีย โค กับ ลูอิส ด้วย ส่วนสาวอเมริกันจะต้องได้แชมป์ แล้วค่อยไปดูผลงานของคู่แข่ง
ปาร์ค อินบี อดีตมือ 1 ของโลก จะลงเล่นในฐานะแชมป์เก่า 2 สมัยติดต่อกัน แต่ภารกิจทวงบัลลังก์คืนไม่ง่ายแน่นอน แม้ที่ผ่านมาจะได้แชมป์ระดับเมเจอร์มาแล้วถึง 5 รายการ เพราะนักกอล์ฟแต่ละคนล้วนตั้งใจกันเต็มที่เพื่อคว้าเงินรางวัล “เคพีเอ็มจี วีเมนส์ พีจีเอ แชมเปียนชิป” ที่เพิ่มขึ้นจากเดิมเท่าตัวเป็น 630,000 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 21.4 ล้านบาท)
พวกที่พร้อมจะสอดแทรกแย่งแชมป์ “เคพีเอ็มจี วีเมนส์ พีจีเอ แชมเปียนชิป” ก็มี ลินซิคัม รองแชมป์ปีที่แล้วที่แพ้เพลย์ออฟ ปาร์ค อินบี รวมถึงจอมเก๋าวัย 34 ปีอย่าง เพ็ตเตอร์เซน ที่เรียกความมั่นใจกลับมาได้พอดีด้วยการได้แชมป์ที่ 15 ในชีวิตรายการล่าสุด ที่ผ่านมาเธอเคยเป็นแชมปเมเจอร์ 1 ครั้ง ซึ่งปีที่แล้วเมเจอร์ที่ 2 ของปีทำ 9 อันเดอร์พาร์แต่รอบสุดท้ายหลุด 76 เลยตกไปจบที่ 6 ร่วมอย่างน่าเสียดาย
ส่วน ลูอิส ได้มาแล้ว 2 เมเจอร์ครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นเมื่อปี 2013 โดยตอนนี้ยังหาจังหวะใส่เกียร์เดินหน้า เนื่องจากรายการ “มานูไลฟ์ แอลพีจีเอ คลาสสิก” ไม่ผ่านตัดตัว ซึ่งถือเป็นครั้งแรกรอบเกือบ 2 ปี นอกจากนี้ยังมีแรงกระตุ้นพิเศษเพราะ “เคพีเอ็มจี” หนึ่งในบริษัทตรวจสอบบัญชีที่ใหญ่ที่สุดในโลกสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ส คือน้ำเลี้ยงในฐานะสปอนเซอร์ของก้านเหล็กสาววัย 30 ปี
ด้าน ลิเดีย โค แม้จะคว้าแชมป์ แอลพีจีเอ ทัวร์ มาแล้วถึง 7 รายการ แต่ยังไม่เคยสัมผัสถ้วยเมเจอร์ แม้ว่าเวลายังเหลืออีกมากโข ทว่าก็ยังไม่อาจจุดประกายความสมบูรณ์ในฐานะนักกอล์ฟอาชีพ หากทำได้ก็จะสร้างสถิติเป็นคนที่อายุน้อยที่สุดที่ได้แชมป์เมเจอร์ด้วย
ฟากผู้สอดแทรกรายอื่นๆ มิเชล วี สาวสวยชาวอเมริกันเชื้อสายเกาหลี ไม่ผ่านตัดตัวรายการ “ช็อปไรต์ คลาสสิก” เมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นอีเวนต์สุดท้ายที่ได้ออกสตาร์ท อย่างไรก็ตามต้องลุ้นหนัก เพราะเจ้าของแชมป์เมเจอร์ “ยูเอส วีเมนส์ โอเพน” เมื่อปี 2014 บาดเจ็บที่สะโพกซ้าย ทำให้ต้องถอนตัวศึก “มานูไลฟ์ คลาสสิก” ดังนั้นอาจจะวืดอีกครั้ง โดยปีนี้เธอต้องมองหาการจบท็อป 10 เป็นครั้งแรกต่อไป
ที่เหลือได้แก่ แคร์รี เว็บบ์ จากออสเตรเลีย ที่กำลังมองหาเมเจอร์ที่ 8, แอนนา นอร์ดควิสต์ จากสวีเดน แชมป์ “ช็อปไรต์ คลาสสิก” เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน, มอร์แกน เพรสเซลล์ จากสหรัฐอเมริกา ที่ฟอร์มดีใช้ได้จบที่ 3 หรือดีกว่า 3 ครั้งจาก 7 รายการหลังสุดที่ออกสตาร์ท ปิดท้ายที่ ชาร์ลีย์ ฮัลล์ สาวอังกฤษวัย 18 ปีที่จบอันดับ 11 ร่วมรายการล่าสุด “มานูไลฟ์” เรียกได้ว่าน่าจะเป็นการแย่งแชมป์เมเจอร์ที่เข้มข้น เพราะต่างมีเป้าหมายที่ต่างกันไป
เรื่อง สรเดช เพชรแสงใสกุล
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!***
