ASTV ผู้จัดการรายวัน - เปิดตัวบนเส้นทางป้องกันแชมป์อย่างสวยงามตามคาด สำหรับนักวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ที่ลงแข่งขัน ซีเกมส์ ครั้งที่ 28 ณ ประเทศสิงคโปร์ ที่ โอซีบีซี อารีนา ฮอลล์ 2 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมา ด้วยดีกรีแชมป์ 11 สมัยเอาชนะ เมียนมาร์ 3-0 เซต 25-8, 25-11, 25-6 โปรแกรมถัดไปพบเจ้าภาพวันที่ 12 มิ.ย.ตอน 12.00น.ตามเวลามประเทศไทย หนนี้นอกจากสตาร์ดังที่คุ้นหน้าคุ้นฝีมือกันเป็นอย่างดีแล้ว ยังมี 4 ผู้เล่นหน้าใหม่ที่ประเดิมติดธงรายการนี้เป็นครั้งแรก แต่พกดีกรีไม่ธรรมดาติดตัว จนเป็นที่คาดกันว่าคือเลือดใหม่ที่จะแทนรุ่นพี่ในอนาคต
ซีเกมส์ ที่สิงคโปร์ ครั้งนี้ “โค้ชอ๊อต” เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร เฮดโค้ชทีมวอลเลย์บอลหญิงไทย ตัดสินใจเรียกใช้บริการหน้าใหม่ 4 ราย ประกอบด้วย หัตถยา บำรุงสุข, จรัสพร บรรดาศักดิ์, ชัชชุอร โมกศรี และ พิมพิชยา ก๊กรัมย์ ซึ่งแม้ทุกคนจะเพิ่งติดธงในรายการนี้เป็นครั้งแรก แต่ก็เริ่มเป็นที่รู้จักบ้างแล้ว เพราะทั้ง 4 คน มีดีกรีเป็น รองแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี และติดชุดใหญ่ คว้า อันดับ 3 ชิงแชมป์เอเชีย ปีล่าสุดมาแล้ว ก่อนจะมีคิวสู้ศึก เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 2015 และ ยู-23 ชิงแชมป์โลก ต่อหลังจบภารกิจระดับอาเซียนนี้
สำหรับ “เตย” หัตถยา บอลเร็ววัย 21 ปี จากสโมสร นครราชสีมา วีซี เบียด ทัดดาว นึกแจ้ง ที่มีอาการบาดเจ็บ ขึ้นมายึดตำแหน่งมือรองต่อจาก ปลื้มจิตร์ ถินขาว ได้ในระยะหลัง ก่อนจะมีชื่อติดธงร่วมกับทีมชุดใหญ่ถึง 3 รายการในปีนี้ ด้วยประสบการณ์ที่มากขึ้นตามลำดับส่งให้ เจ้าของส่วนสูง 180 ซม. รายนี้ถูกจับตาเป็นอย่างมาก เพราะมีทีเด็ดที่ลูกตบทั้งเร็วและแรง บวกกับพลังการบล็อก รางวัลตัวบล็อกกลางยอดเยี่ยม(Best Middle Blockers) ของ ยู-23 ชิงแชมป์เอเชีย คาดการณ์ว่าในอนาคตเจ้าตัวน่าจะก้าวขึ้นมาเป็นเสาหลักของทีมแทนที่รุ่นพี่อย่าง “นิ้งหน่อง” ได้แน่นอน
ขณะที่ “บุ๋มบิ๋ม” ชัชชุอร มือหัวเสา วัยเพียง 15 ปี จากสโมสร อยุธยา-เอ.ที.ซี.ซี. ถือว่าเป็นดาวรุ่งที่พุ่งแรงขึ้นมาแซงหน้าเพื่อนร่วมรุ่น ด้วยเทคนิคการตบที่หลากหลายทั้ง ตบตรง ตบฉีก และลูกหยอด บวกกับส่วนสูง 175 ซม. ที่สามารถใช้เล่นงานคู่ต่อสู้ได้สบายๆ อย่างไรก็ตามเจ้าตัวยังคงต้องพัฒนาเรื่องความแรงของลูกตบ และเรียนรู้แผนแทคติกต่างๆ อีกมากหากหวังจะก้าวขึ้นมาจะเทียบเท่า อรอุมา สิทธิรักษ์ มือ 1 ของทีมเวลานี้ โดยในปีนี้ ชัชชุอร ยังมีคิวลงเล่น ศึก ยู-18 ชิงแชมป์โลก ช่วงเดือนสิงหาคม ที่เมืองลิมา เปรู อีกด้วย
ส่วน “บีม” พิมพิชยา มือตบแดนหลังวัย 16 ปี เป็นอีกรายที่ฉายแววโดดเด่นจนได้รับเสียงเชียร์มากมาย จากการเป็นกำลังช่วยทีม นครนนทบุรี 3BB คว้ารองแชมป์ วอลเลย์บอล ไทยแลนด์ ลีก 2015 ต่อด้วยหยิบรางวัลตัวตบตรงข้ามหัวเสายอดเยี่ยม(Best Opposite Spiker) ของ ยู-23 ชิงแชมป์เอเชีย มานอนกอด ซึ่งในตำแหน่งนี้ถือว่าได้เบียดแย่งกับ อัจฉราพร คงยศ อย่างสนุกแน่นอน เพื่อที่จะก้าวขึ้นมาแทนที่รุ่นพี่ที่ใกล้โรยราอย่าง “ปู” มลิกา กันทอง เต็มตัว
สุดท้าย “เดียร์” จรัสพร อีก 1 บอลเร็วที่แจ้งเกิดมาได้พักใหญ่ จากการติดทีมชาติ ชุดเวิลด์ กรังด์ ปรีซ์ และ ชิงแชมป์โลก เมื่อปี 2014 ก่อนจะถูก บางกอกกล๊าส วีซี มหาอำนาจลูกยางไทย ดึงตัวจาก นครราชสีมา ไปร่วมทีม ปัจจุบันในวัย 22 ปี มีจุดเด่นที่ความสูง 182 ซม. และการตบลูกที่ใช้เทคนิคสูง โดยเจ้าตัวมีโอกาสได้เรียนรู้และเก็บประสบการณ์จาก ปลื้มจิตร์ ทั้งในสีเสื้อทีมชาติและสโมสร ดังนั้นจึงมีโอกาสสูงที่จะพัฒนาก้าวขึ้นมาเป็นสตาร์ดวงใหม่
ด้าน “โค้ชอ๊อต” กล่าวถึงบรรดาเลือดใหม่ทั้งหมดว่าจะเป็นกำลังสำคัญของทัพลูกยางไทยในช่วง 4-5 ปีหลังจากนี้ได้แน่นอน “สำหรับ หัตถยา กับ จรัสพร เป็นผู้เล่นที่มีความสามารถ และได้ร่วมซ้อมกับทีมชุดใหญ่มาสักระยะแล้ว เราคิดว่าพวกเขาจะต้องมีอนาคตที่สดใส จึงฝึกซ้อมให้มีคุณภาพสูงในระดับนานาชาติมากขึ้น พัฒนาแบบค่อยเป็นค่ายไปทั้ง 4 ด้าน คือ ร่างกาย จิตใจ เทคนิค และ แทคติก โดยเฉพาะอย่างหลังที่ต้องเรียนรู้ในการแข่งขัน จึงเห็นได้ว่าภายใน 1-2 ปีนี้ เราให้โอกาสเขาได้ลงแข่งในรายการต่างๆ พอสมควรและพัฒนาขึ้นมาก”
“ส่วน ชัชชุอร กับ พิมพิชยา ถือเป็นเด็กที่เข้ามาใหม่ แต่ก็มีแววแม้อายุยังน้อย เราพยายามให้เขาได้เรียนรู้จากรุ่นพี่โดยตรง ให้นั่งดูเกมในระดับชิงแชมป์เอเชียกับตาตัวเอง เพื่อนำไปพัฒนาใช้ในการฝึกซ้อมแทคติกให้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังเน้นในเรื่อง สกิล และทักษะพื้นฐานต่างๆในอีกระดับ ซึ่งทั้งคู่สามารถเรียนรู้ได้เร็ว แต่ยังมีเรื่องความแข็งแรงที่ต้องเพิ่มให้มากขึ้น แต่เราก็ไม่ได้เร่งรีบเพราะรู้ดีว่ากระดูกยังไม่แข็งต้องเป็นไปตามวัย นอกจากนี้ยังต้องขัดเกลาในเรื่องอารมณ์และจิตใจ จะเห็นได้ว่าการฝึกซ้อมอาจจะโดนซ่อมกันเยอะ เพราะเราคาดหวังว่าพวกเขาทั้ง 4 คน จะเป็นกำลังสำคัญให้ทีมชาติในช่วงปี 2016-2020 นี้ได้แน่นอน” เกียรติพงษ์ มั่นใจ
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
