ASTV ผู้จัดการรายวัน – แวดวงมอเตอร์สปอร์ตบ้านเรา อาจมาถึงยุคที่เรียกว่าซบเซาพอสมควร นับตั้งแต่ รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ เบอร์ 1 ของไทย แยกทางกับ คอร์ มอเตอร์ สปอร์ต ไทยแลนด์ มานานร่วม 1 เดือน ขณะที่ “ติ๊งโน๊ต” ฐิติพงศ์ วโรกร ผลงานปี 2015 รุ่น โมโต ทู ก็ยังไม่เข้าตา แต่หากลดระดับลงมายัง รายการชิงแชมป์ทวีปอย่าง “เอเชียน โรด เรซซิง” ด้าน บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด ไม่ได้นิ่งนอนใจเตรียมคลื่นลูกใหม่ที่จะเป็นความหวังในอนาคต นำโดย รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ และ มุกข์ลดา สารพืช นักบิดหญิงหนึ่งเดียวของไทย
การแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบ “เอเชีย โรด เรซซิง” เรียกได้ว่า เป็นอีเวนท์หนึ่ง ซึ่งปลุกปั้นนักบิดแห่งอนาคตมาประดับวงการ แบ่งเป็นการประลองความเร็ว 3 รุ่น ซึ่งแต่ละรุ่นจะมีกำหนดดวลกัน 2 รอบ ไล่เรียงตั้งแต่รุ่นเล็กสุด “เอชียน ดรีม คัพ” ที่ใช้รถแบบสแตนดาร์ด หรือแทบไม่มีการเซ็ตอัพใดๆ เลย เพื่อเฟ้นหานักบิดที่มีอายุไม่เกิน 20 ปี ขึ้นสู่ระดับสูงยิ่งขึ้น
สำหรับรุ่นนี้นักแข่งที่น่าจับตา คงเป็นใครเสียมิได้ นอกจาก “น้องมุกข์” มุกข์ลดา สารพืช หญิงไทยหนึ่งเดียวของทีม ที่กำลังร้อนแรงแบบสุดๆ เบียดคู่แข่งชายอกสามศอก รับธงตาหมากรุกคนแรก ที่ เซปัง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย (รอบที่ 2) และล่าสุด ที่เซนทูล อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต ประเทศอินโดนีเซีย (รอบที่ 1) โกยคะแนนสะสม 86 แต้ม ยึดอันดับ 1 ของตาราง ณ เวลานี้
แน่นนอนว่า ผลงานเช่นนี้ ย่อมสร้างความประทับใจแก่ อารักษ์ พรประภา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด ซึ่งร่วมเดินทางมากับ ทีม เอ.พี. ฮอนด้า เรซซิง ไทยแลนด์ ถึงแดนอิเหนา เมื่อระหว่างวันที่ 6-8 มิถุนายนที่ผ่านมา “มุกข์ลดา เป็นนักแข่งหญิงคนเดียวของไทย ที่ชนะขึ้นโพเดียมทั้ง รอบ 1 และ 2 น่าเสียดายที่รอบหลัง พ่ายแก่ผู้นำเพียง 0.08 วินาที นับเป็นสิ่งที่เราภาคภูมิใจ เพราะเป็นผู้หญิงที่เริ่มแข่งมาตั้งแต่เด็กๆ มัดผมมาดวลกับผู้ชายที่ ฮอนด้า เรซซิง สคูล”
อย่างไรก็ตาม บิ๊กบอสแห่งผู้ผลิตจักรยานยนต์สัญชาติญี่ปุ่น ยังมองว่า ความแตกต่างด้านเพศ ถือเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการขึ้นสู่ระดับโลก โดยรุ่น โมโต ทรี ที่มีขนาดเครื่องยนต์ไม่แตกต่างจากที่เธอแข่งขันอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งมี อนา คาร์ราสโก (อาร์บีเอ เรซซิง) และ มาเรีย เฮร์เรรา (ฮาสควาร์นา แฟคทอรี ลากลิสเซ) 2 นักบิดสาวสเปน ที่ร่วมดวลฝีมือกับผู้ชาย มาตั้งแต่ปี 2015
“เท่าที่ผ่านมา มีนักขับยุโรปคนเดียวที่เป็นเพศหญิง ด้านพละกำลังย่อมเสียเปรียบเพศชาย เนื่องจากเป็นรถที่มีความเร็ว และแรงปะทะค่อนข้างสูง แต่ มุกข์ลดา เป็นเด็กที่มีความมุ่งมั่น หากเอาชนะอุปสรรคเหล่านี้ได้ ก็น่าจะพัฒนาได้ไกลถึงระดับโลก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่า มุกข์ลดา จะพิสูจน์ตัวเองได้มากน้อยแค่ไหน และอายุเพียงแค่ 20 ปีเอง ยังมีเวลาอีก 8-9 ปี เพราะฝั่ง ฮอนด้า มอเตอร์ส ไม่ใส่ใจเรื่องเพศ เขาใส่ใจแค่ความสามารถ ส่วนอีกเรื่องหนึ่งที่เป็นปัญหาสำหรับเพศหญิง คือ ประจำเดือน ซึ่งมักจะทำให้ร่างกายอ่อนแอ” บอสใหญ่ ฮอนด้า เผย
รุ่นที่ 2 ของการประลองความเร็วรถ 2 ล้อชิงแชมป์เอเชีย คือ เอเชีย โปรดักชัน 250 ซีซี ซึ่งจะสามารถปรับแต่งเครื่องยนต์ช่วยเหลือบ้าง จึงมีความเร็วสูงกว่ารุ่น เอเชียน ดรีม คัพ โดย อารักษ์ ชื่นชมสภาพจิตใจของ อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ เจ้าของแชมป์ ที่กรุงจาการ์ตา (รอบที่ 2) “น้องแสตมป์ เป็นเด็กวัยรุ่นที่มีความพยายาม มีความฟิตตลอดเวลา และกระหายจะเป็นแชมป์ นั่นคือคุณสมบัติของผลผลิตจาก ฮอนด้า เรซซิง สคูล”
ข้ามมายังรุ่นที่เรียกว่าเปรียบดั่งพระเอกของรายการ ได้แก่ ซูเปอร์สปอร์ต (600 ซีซี) ทุกสายตาของคอกีฬาความเร็วย่อมจับจ้องมายัง “โฟลท” รัฐพงษ์ ทายาทนักบิดรุ่นที่ 3 ต่อจาก คริสมาส บิดา และ รัฐภาคย์ พี่ชาย แถมครั้งหนึ่งยังเคยเป็นแคนดิเดต รับช่วงต่อจาก “ฟิล์ม” สมัยอยู่ยังลงแข่ง โมโต ทู กับ ไทย ฮอนด้า พีทีที เกรซินี คู่กับ “ติ๊งโน๊ต” ฐิติพงศ์ วโรกร แต่ทางต้นสังกัดเลือกผลักดันฝ่ายหลัง
อารักษ์ กล่าวว่า “โฟลท ห่างหายจากวงการไปนาน เนื่องจากไปทุ่มเทกับการเรียนหนังสือ พอกลับมาแล้ว ฟอร์มก็กำลังดีขึ้นเรื่อยๆ เรียกว่ากำลังสดอยู่ แต่ถ้าจะเทียบกับรุ่นโมโต ทู ตอนนี้ยังเร็วเกินไป เราคงไม่กล้าตัดสินใจแบบเดียวกับการส่ง ติ๊งโน๊ต ลงแข่ง เพราะเรายังตามฝั่งยุโรปไม่ทันจริง และยังไม่สุกงอมพอ หากเราเร่งรัดมากเกินไป จะเป็นอันตรายต่อนักแข่งเอง”
ขณะเดียวกัน คุณอารักษ์ ยังแอบปลื้มฝีไม้ลายมือ นักบิดวัย 23 ปี อยู่เช่นกัน “ทางครอบครัวของ โฟลท ถือว่าสนับสนุนและคอยผลักดัน แม้แต่ ฟิล์ม ก็ยังเคยสอนมาหลายๆ อย่าง ผมมองว่า เขาเป็นคนมีพรสวรรค์ , ฉลาด , ปรับตัวเร็ว และจิตใจได้ก หากเติบโตขึ้นกว่านี้ ผมมั่นใจว่า เขาจะสร้างชื่อเสียงแก่ประเทศ และ เอ.พี. ฮอนด้า อย่างแน่นอน”
สุดท้ายนี้ ผู้บริหารองค์กร เอ.พี. ฮอนด้า ยังเปรียบเทียบสไตล์การขับขี่ของ 2 พี่น้องตระกูลวิไลโรจน์ ที่เคยปล “ฟิล์ม เป็นคนเก่งแบบนุ่มๆ คือ เป็นสไตล์อนุรักษ์นิยมเช่นเดียวกับคนญี่ปุ่น เข้าโค้งแบบนิ่มนวล แต่สำหรับ โฟลท จัดเป็นนักแข่งที่มีความดุดัน และกล้าได้กล้าเสียตามแบบฉบับชาวยุโรป แต่น่าจะน้อยกว่า มาร์ค มาร์เกวซ (แชมป์โลก โมโต จีพี 2 สมัย) สรุปแล้วตามความเห็นส่วนตัว ผมชอบ โฟลท มากกว่า”
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *