เอเยนซี - นับตั้งแต่โลดแล่นศึก บาสเก็ตบอล เอ็นบีเอ (NBA) มานาน 6 ปี สตีเฟน เคอร์รี การ์ดจ่าย โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส กำลังอยู่ในช่วงพีกสุดขีดของอาชีพ ตลอดฤดูกาล 2014-15 เริ่มจากการพาต้นสังกัดหักปากกาเซียน เข้าใกล้การคว้าแชมป์ครั้งแรกรอบ 40 ปี ในประวัติศาสตร์แฟรนไชส์ เรียกได้ว่าเป็นดาวจรัสแสงดวงใหม่ที่จะขึ้นมาทาบรัศมีซูเปอร์สตาร์อย่าง เลอบรอน เจมส์ หรือ เควิน ดูแรนท์
เคอร์รี ลืมตาดูโลก วันที่ 14 มีนาคม ค.ศ.1988 ที่เมืองอักรอน มลรัฐโอไฮโอ เป็นทายาทของคนโตของครอบครัวนักกีฬา เดลล์ เคอร์รี อดีตสวิงแมน (การ์ดกึ่งฟอร์เวิร์ด) ของ NBA และ ซอนยา เคอร์รี อดีตสมาชิกทีมวอลเลย์บอลมหาวิทยาลัย เวอร์จิเนีย เทค และน้องร่วมสายเลือดอีก 3 คน ได้แก่ เซธ ซึ่งเคยถูก วอร์ริเออร์ส เซ็นสัญญา ปี 2013, ไซเดล และ วิลล์
ถึงแม้จะมีบ้านเกิดแห่งเดียวกับ “คิงเจมส์” ฟอร์เวิร์ด คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส แต่ สตีเฟน เติบโตขึ้นที่เมืองชาร์ล็อตต์ มลรัฐนอร์ธ แครอไลนา ย้ายถิ่นฐานตาม เดลล์ (บิดา) ซึ่งรับใช้ ชาร์ล็อตต์ ฮอร์เน็ตส์ นานถึง 10 ปี (1988-1998) และมักนั่งชมการแข่งขันพร้อมกับ เซ็ธ น้องชาย อยู่บ่อยๆ
ต่อมา เคอร์รี ต้องมาพำนักเมืองโตรอนโต ติดตาม เจ้าของรางวัลสำรองยอดเยี่ยม ปี 1994 ที่ย้ายมาเล่นให้ โตรอนโต แร็พเตอร์ส และฉายแววแบบสุดๆ สมัยเรียนเกรด 8 (เทียบเท่ามัธยมศึกษาปีที่ 2) เข้าทีมบาสเก็ตบอล โรงเรียน ควีนส์เวย์ คริสตียน คอลเลจ โดยครั้งหนึ่ง เจ้าตัว เหมา 63 แต้ม ทำเอา เดลล์ ที่มานั่งชมฝีมือลูกชาย เดินกลับบ้านก่อนจบเกม 20 นาที เนื่องจากทนเห็นสภาพคู่ต่อสู้ไม่ไหว
เคอร์รี สัมผัสทัวร์นาเมนต์ระดับประเทศ สมัยพามหาวิทยาลัยเดวิดสัน ซึ่งค่อนข้างโนเนมสำหรับวงการบาสเก็ตบอลคอลเลจ ด้วยการชู้ตอันแม่นยำของตัวเอง ปลุกปั้นทีมกลายเป็น “ซินเดอเรลลา” เข้าสู่รอบ “อีลิต 8” (รอบก่อนรองชนะเลิศ ระดับประเทศ) เอ็นซีดับเบิลเอ (NCAA) ปี 2008 และทิ้งทวนฤดูกาล 2008-2009 กับ ไวล์ดแคทส์ ค่าเฉลี่ย 28.6 แต้ม 4.4 รีบาวน์ด 5.6 แอสซิสต์ และ 2.5 สตีล
ก่อนจะก้าวสู่ระดับอาชีพเต็มตัว การ์ดจ่ายวัย 27 ปี ครองสถิติมากมาย ทั้งผู้เล่นทำคะแนนสูงสุดของมหาวิทยาลัย 2,635 แต้ม ยิงฟิลด์โกล 41.4 เปอร์เซ็นต์ ยิงลูกโทษ 479 ลูก ปิดสกอร์เกิน 30 แต้ม 30 เกม และ 40 แต้ม อีก 6 เกม เป็นเหตุให้ วอร์ริเออร์ส ใช้สิทธิ์รอบแรก อันดับ 7 คัดเลือก ดราฟต์มาร่วมทีม ปี 2009 และ มอบสัญญาฉบับแรกมูลค่า 4 ปี 12.7 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 381 ล้านบาท)
เคอร์รี เริ่มต้นอาชีพอย่างสวยหรู คว้าอันดับ 2 การโหวตรางวัล “รุกกี ออฟ เดอะ เยียร์” ฤดูกาล 2009-2010 รองจาก ทายรีก อีแวนส์ การ์ด ซาคราเมนโต คิงส์ (ปัจจุบันอยู่ นิวออร์ลีนส์ เพลิแกนส์) ผลงาน 17.5 แต้ม 4.5 รีบาวน์ด 5.9 แอสซิสต์ 1.9 สตีล และได้รับการคัดเลือกติดทีมดาวรุ่งยอดเยี่ยม ชุดแรก ร่วมกับ อีแวนส์ และ แบรนดอน เจนนิงส์
ย่างเข้าฤดูกาล 2012-13 เจ้าของสัดส่วน 6 ฟุต 3 นิ้ว (191 เซนติเมตร) จรดปากกาต่อสัญญาอีก 4 ปี ฟันรายได้ 44 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1.32 พันล้านบาท) ตอบแทนค่าเหนื่อยด้วยการทุบสถิติยิง 3 คะแนนเข้าเป้ามากสุดใน 1 ซีซัน 272 ครั้ง เบียด เรย์ อัลเลน การ์ดดีกรีแชมป์ 2 สมัยของ บอสตัน เซลติกส์ และไมอามี ฮีต เพียง 3 ครั้ง
หลังจากติด “ออล-สตาร์” และทีมยอดเยี่ยมชุดที่ 2 ครั้งแรก ปี 2014 ผลผลิตของ เดวิดสัน ไวล์ดแคทส์ ยังแรงไม่หยุด กลายเป็นผู้เล่นยิง 3 แต้ม ครบ 1,000 ลูกเร็วสุด เพียง 369 เกม ต่ำกว่า เดนนิส สกอตต์ อดีตฟอร์เวิร์ด ออร์แลนโด แมจิก 88 เกม และยึดอันดับ 1 ผลการลงคะแนนเลือก 5 ผู้เล่นตัวจริงทีมรวมดารา เหนือกว่า เลอบรอน ราว 43,000 เสียง
เคอร์รี ปิดฉาก เรกูลาร์ ซีซัน พาทีมของ สตีฟ เคอร์ หัวหน้าโค้ชรุกกี ชนะสูงสุดเป็นสถิติแฟรนไชส์ 67 เกม (แพ้ 15) ยึดอันดับ 1 ของลีก และสายตะวันตก แบบไร้ปัญหา รวมถึงทุบสถิติส่องไกลเข้าเป้าสูงสุดของตัวเอง เมื่อ 2 ปีก่อน (286 ครั้ง) รับรางวัลผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) สมัยแรก และกำลังจะพา “นักรบ” ตบเท้าสู่รอบชิงฯ NBA ครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 1975 ล่าโทรฟี “แลร์รี โอ’ไบรอัน” สมัยที่ 4 (1947, 1956 และ 1975)
สำหรับชีวิตส่วนตัว MVP คนล่าสุด สมรสกับ อเยชา อเล็กซานเดอร์ แฟนสาวที่คบกันมาตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย ณ เมืองชาร์ล็อตต์ วันที่ 30 กรกฎาคม 2011 มีลูกสาวด้วยกัน 1 คน ได้แก่ ไรลีย์ ซึ่งถือกำเนิด วันที่ 19 กรกฎาคม 2012 ขณะที่เกมชิงแชมป์สายฝั่งตะวันตก “นักรบ” นำซีรีส์เหนือ ฮูสตัน ร็อคเกตส์ 3-1 เกม หากปิดบัญชีนำทีมเข้าชิงได้ แน่นอนว่าชื่อเสียง, เงินทอง และเกียรติยศต่างๆจะหลั่งไหลเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย ก่อนยกสถานะขึ้นเป็นซูเปอร์สตาร์ดวงใหม่ของวงการแบบไม่ต้องสงสัย
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *