คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”
สัปดาห์นี้ต้องขอแสดงความยินดีกับ เดชดำรงค์ ส.อำนวยศิริโชค อดีตแชมป์มวยไทยเข็มขัดหลายเส้นของเวทีลุมพินี วัย 36 ปีที่ผันไปลุยในเวทีศิลปะการต่อสู้แบบผสม แถมทำได้ดีซะด้วยจนได้สัญญาสู้ในรายการ One Fighting Championship ซึ่งเป็นรายการศิลปะการต่อสู้แบบผสมที่ว่ากันว่ามีมาตรฐานที่สุดของเอเชียในตอนนี้
ปรากฏว่า “ครูรงค์” ขึ้นสู้มา 4 ไฟต์ชนะรวด ทำให้ได้รับเลือกให้ขึ้นสู้เพื่อประเดิมเข็มขัดแชมป์ One FC รุ่นสตรอว์เวท รายการ One FC 27 – Warrior’s Quest ระเบิดขึ้นที่สิงคโปร์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (22 พ.ค.)
โดยในศึกนี้ เดชดำรงค์ ขึ้นสู้เป็นคู่รองพบกับ รอย โดลิเกวซ นักสู้ชาวฟิลิปปินส์วัย 33 ปี เจ้าของสถิติชนะมา 5 แพ้ 1 เรียกว่าอายุอานามก็ไม่ได้เปรียบเสียเปรียบกันมาก ประสบการณ์ในเวทีวงกลมของรายการนี้ก็สูสีกัน นักสู้ฟิลิปปินโนรายนี้เคยเป็นนักมวยอาชีพมาก่อนในรุ่นซูเปอร์ฟลายเวท สถิติไม่ค่อยจะโสภาเท่าไหร่ชนะ 18 ไฟต์แต่แพ้ซะ 19 ไฟต์ แถมเคยมาฟาดปากกับ “น้ามวน” ประมวลศักดิ์ โพธิ์สุวรรณ ของเรามาแล้วด้วย ซึ่งนักชกฟิลิปปินส์รายนี้ก็พ่ายไปตามระเบียบ
มาไฟต์นี้ เดชดำรงค์ พยายามอาศัยการยืนสู้ตามถนัด ส่วน รอย โดลิเกวซ ก็พยายามเข้าจับดึงนักสู้ไทยมาสู้เกมบนพื้น แต่ เดชดำรงค์ ของเรานั้นเป็นนักมวยไทยที่หันมาลุยในศิลปะการต่อสู้แบบผสมที่มีการเตรียมตัวมาดีมาก มีการฝึกฝนเกมการต่อสู้บนพื้นมาอย่างดี สถิติการต่อสู้ที่ผ่านมาก็เคยชนะด้วยการจับล็อกจนคู่ต่อสู้ยอมแพ้ หรือที่เรียกกันว่าซับมิชชัน Submission ทั้งในท่าล็อกคอ และในท่าล็อกแขน อาร์มบาร์ ท่าถนัดของยอดนักสู้หญิง รอนดา เราซีย์ มาแล้ว เรียกว่ามีการเตรียมพร้อมสำหรับศึกการต่อสู้แบบผสมเป็นอย่างดี เลยไม่กลัวการจับล็อกของนักสู้ฟิลิปปินส์ ลงบนพื้นก็สามารถป้องกันตัวได้ดี แถมยังออกอาวุธได้เป็นระยะๆ ยิ่งพอยกท้ายๆ นักสู้ชาวไทยอาศัยสภาพร่างกายที่เหนือกว่า จับ โดลิเกวซ ทุ่มลงพื้น หรือที่เรียกว่า เทคดาวน์ Take Down ได้หลายครั้ง เรียกว่าทำคะแนนทิ้งห่าง
สุดท้ายฟัดกันจนครบ 5 ยกกรรมการตัดสินให้ เดชดำรงค์ ส.อำนวยศิริโชค คว้าเข็มขัดในรุ่นสตรอว์เวทนี้ไปครอง นับเป็นนักสู้ไทยคนแรกที่คว้าแชมป์ในรายการศิลปะการต่อสู้แบบผสมของ One FC แถมเป็นชัยชนะที่สวยงามซะด้วย ก็ต้องขอแสดงความยินดีกับ “ครูรงค์” ด้วยที่ประสบความสำเร็จ แถมสร้างชื่อให้กับวงการ MMA บ้านเราให้คึกคักขึ้นเยอะเลย
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
สัปดาห์นี้ต้องขอแสดงความยินดีกับ เดชดำรงค์ ส.อำนวยศิริโชค อดีตแชมป์มวยไทยเข็มขัดหลายเส้นของเวทีลุมพินี วัย 36 ปีที่ผันไปลุยในเวทีศิลปะการต่อสู้แบบผสม แถมทำได้ดีซะด้วยจนได้สัญญาสู้ในรายการ One Fighting Championship ซึ่งเป็นรายการศิลปะการต่อสู้แบบผสมที่ว่ากันว่ามีมาตรฐานที่สุดของเอเชียในตอนนี้
ปรากฏว่า “ครูรงค์” ขึ้นสู้มา 4 ไฟต์ชนะรวด ทำให้ได้รับเลือกให้ขึ้นสู้เพื่อประเดิมเข็มขัดแชมป์ One FC รุ่นสตรอว์เวท รายการ One FC 27 – Warrior’s Quest ระเบิดขึ้นที่สิงคโปร์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (22 พ.ค.)
โดยในศึกนี้ เดชดำรงค์ ขึ้นสู้เป็นคู่รองพบกับ รอย โดลิเกวซ นักสู้ชาวฟิลิปปินส์วัย 33 ปี เจ้าของสถิติชนะมา 5 แพ้ 1 เรียกว่าอายุอานามก็ไม่ได้เปรียบเสียเปรียบกันมาก ประสบการณ์ในเวทีวงกลมของรายการนี้ก็สูสีกัน นักสู้ฟิลิปปินโนรายนี้เคยเป็นนักมวยอาชีพมาก่อนในรุ่นซูเปอร์ฟลายเวท สถิติไม่ค่อยจะโสภาเท่าไหร่ชนะ 18 ไฟต์แต่แพ้ซะ 19 ไฟต์ แถมเคยมาฟาดปากกับ “น้ามวน” ประมวลศักดิ์ โพธิ์สุวรรณ ของเรามาแล้วด้วย ซึ่งนักชกฟิลิปปินส์รายนี้ก็พ่ายไปตามระเบียบ
มาไฟต์นี้ เดชดำรงค์ พยายามอาศัยการยืนสู้ตามถนัด ส่วน รอย โดลิเกวซ ก็พยายามเข้าจับดึงนักสู้ไทยมาสู้เกมบนพื้น แต่ เดชดำรงค์ ของเรานั้นเป็นนักมวยไทยที่หันมาลุยในศิลปะการต่อสู้แบบผสมที่มีการเตรียมตัวมาดีมาก มีการฝึกฝนเกมการต่อสู้บนพื้นมาอย่างดี สถิติการต่อสู้ที่ผ่านมาก็เคยชนะด้วยการจับล็อกจนคู่ต่อสู้ยอมแพ้ หรือที่เรียกกันว่าซับมิชชัน Submission ทั้งในท่าล็อกคอ และในท่าล็อกแขน อาร์มบาร์ ท่าถนัดของยอดนักสู้หญิง รอนดา เราซีย์ มาแล้ว เรียกว่ามีการเตรียมพร้อมสำหรับศึกการต่อสู้แบบผสมเป็นอย่างดี เลยไม่กลัวการจับล็อกของนักสู้ฟิลิปปินส์ ลงบนพื้นก็สามารถป้องกันตัวได้ดี แถมยังออกอาวุธได้เป็นระยะๆ ยิ่งพอยกท้ายๆ นักสู้ชาวไทยอาศัยสภาพร่างกายที่เหนือกว่า จับ โดลิเกวซ ทุ่มลงพื้น หรือที่เรียกว่า เทคดาวน์ Take Down ได้หลายครั้ง เรียกว่าทำคะแนนทิ้งห่าง
สุดท้ายฟัดกันจนครบ 5 ยกกรรมการตัดสินให้ เดชดำรงค์ ส.อำนวยศิริโชค คว้าเข็มขัดในรุ่นสตรอว์เวทนี้ไปครอง นับเป็นนักสู้ไทยคนแรกที่คว้าแชมป์ในรายการศิลปะการต่อสู้แบบผสมของ One FC แถมเป็นชัยชนะที่สวยงามซะด้วย ก็ต้องขอแสดงความยินดีกับ “ครูรงค์” ด้วยที่ประสบความสำเร็จ แถมสร้างชื่อให้กับวงการ MMA บ้านเราให้คึกคักขึ้นเยอะเลย
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
