เชลซี ของ โชเซ มูรินโญ ขยับเข้าใกล้ตำแหน่งแชมป์ พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เข้าไปทุกขณะ หลังโชว์ฟอร์มเยี่ยมต่อเนื่องบุกไปต้อน “จิ้งจอกสยาม” ขาดลอย 3-1 เกมลีกนัดกลางสัปดาห์ เมื่อวันที่ 29 เมษายน ที่ผ่านมา
พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
เลสเตอร์ ซิตี 1-3 เชลซี
ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เกมนัดกลางสัปดาห์ที่ คิง พาวเวอร์ สเตเดียม เลสเตอร์ ซิตี อันดับ 17 ใกล้ตกชั้นมี 31 แต้ม เปิดบ้านรับศึกหนักพบ เชลซี จ่าฝูงที่ใกล้เถลิงแชมป์อยู่รอมร่อ มี 77 แต้ม เกมนี้เจ้าบ้านใช้ เจมี วาร์ดี กับ ลีโอนาร์โด อุลลัว ยืนคู่หน้า ส่วนทีมเยือนใช้ ดิดิเยร์ ดร็อกบา ยิงเป้า
ครึ่งแรกลงมา 10 นาที เลสเตอร์ เป็นฝ่ายได้ลุ้นก่อน บอลหน้ากรอบเขตโทษ เจมี วาร์ดี ตวัดยิงแบบไม่จับแต่บอลข้ามคานไปไกล ขณะที่ นาที 22 เลสเตอร์ สร้างโอกาสขึ้นมาอีกครั้ง มาร์ค อัลไบรจ์ตัน เปิดโค้งจากมุมธงถึง เวส มอร์แกน โหม่งแต่หลุดออกข้างไป
เชลซี มีโอกาสบ้าง นาที 29 ดิดิเยร์ ดร็อกบา เอาบอลลงแล้วแต่ยิงไม่ดีบอลออกข้าง ด้าน เลสเตอร์ ที่ดูไม่มีปัญหากับการเล่นกลางสายฝนจนทดเจ็บ นาที 47 ก็ได้ประตูนำ เจมี วาร์ดี ตบบอลเข้ากลาง เซซาร์ อัสปิลิกูเอตา เสียหลักสกัดไม่ทันก่อนเป็น มาร์ค อัลไบรธ์ตัน แปให้เจ้าบ้านนำ 1-0 และจบครึ่งแรกไปเลย
ครึ่งหลังไม่ต้องรอนาน นาที 47 เชลซี ตีเสมอสำเร็จ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช ตบเข้ากลางเขตโทษให้ ดิดิเยร์ ดร็อกบา แปซุกตาข่าย 1-1 ต่อมา นาที 66 ทีมเยือนจะเอาประตูพลิกนำ เซซาร์ อัสปิลิกูเอตา ภวายพานมาให้ วิลเลียน กดด้วยขวาโล่งๆแต่บอลข้ามคานไปไกล
นาที 78 ประตูแซงนำก็มาจนได้ บอลจากลูกเตะมุม เชส ฟาเบรกาส เปิดเข้ามา ทิม เคฮิลล์ โหม่งติดเซฟแต่ จอห์น เทอร์รี ดีดเข้าเป็น 2-1 เท่านั้นไม่พอ นาที 83 เชส ฟาเบรกาส ถวายพานเข้ากลางให้ รามิเรส แปเข้าเสาไกลส่งให้ต้นสังกัดทะยานหนีเป็น 3-1
ท้ายเกม เลสเตอร์ บุกทวงประตูคืนไม่ได้ จบเกม เชลซี เช็กบิลชนะ 3-1 เก็บเพิ่มเป็น 80 แต้ม โดยเตรียมฉลองแชมป์นัดหน้าได้เลยหากนัดหน้าเปิดบ้านเอาชนะ คริสตัล พาเลซ ได้ในคืนวันอาทิตย์ที่ 3 พฤษภาคมนี้
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เลสเตอร์ ซิตี - แคสเปอร์ ชไมเคิล, พอล คอนเชสกี, เวส มอร์แกน, มาร์ค อัลไบรธ์ตัน, โรเบิร์ต ฮูธ, มาร์ซิน วาซิเลฟสกี, ดาเนียล ดริงค์วอเตอร์, แอนดี คิง, เอสเตบัน กัมบิอัสโซ, เลโอนาร์โด อุลลัว
เชลซี - ปีเตอร์ เช็ก, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, แกรี เคฮิลล์, จอห์น เทอร์รี, เซซาร์ อัสปิลิกูเอตา, เชส ฟาเบรกาส, รามิเรส, เอเดน ฮาซาร์ด, เนมานยา วิดิช, วิลเลียน, ดิดิเยร์ ดร็อกบา
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *