คอลัมน์ “TIMEOUT” โดย “ชมณัฐ”
สัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้เขียนได้มีโอกาสเดินทางไปร่วมชมการฝึกซ้อมของเยาวชนไทย อายุไม่เกิน 18 ปี ที่เป็นตัวแทนจากโครงการ “สพฐ-เอ.พี.ฮอนด้า เรด แชมเปียน ซีซั่น 4” ถึงประเทศอังกฤษ ซึ่งต้องบอกว่าได้ประสบการณ์ดีๆไม่น้อย
สำหรับรอบนี้มีเยาวชนจาก 5 โรงเรียน เดินทางมาร่วมฝึก โดยมี 3 โรงเรียนที่ได้รับการเทรนด์จากโค้ชอะคาเดมีของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือ โรงเรียนตะโหมด จ.พัทลุง โรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัด กาญจนบุรี 1 และ โรงเรียนวชิราลัย จ.เชียงใหม่ ส่วนอีกสองโรงเรียนฝึกกับโค้ชเยาวชนของ ลิเวอร์พูล คือ โรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา จ.ชลบุรี กับ โรงเรียนนาถ่อนพัฒนา จ.นครพนม
แต่ที่จะหยิบเล่าในสัปดาห์นี้คือการฝึกซ้อมที่ พาร์ทิงตัน สปอร์ต วิลเลจ ซึ่งเป็นสนามซ้อมของ “ปิศาจแดง” ในเมืองแมนเชสเตอร์ เพราะมีหลายอย่างที่สะกิดใจเหลือเกิน ซึ่ง พาร์ทิงตันฯ นี้เป็นเหมือน ซอคเกอร์ สคูล ของแมนฯยูไนเต็ด สำหรับปลุกปั้นเหล่าอะคาเดมีรุ่นจิ๋วของแชมป์ลีกสูงสุดเมืองผู้ดี 20 สมัย ก่อนที่จะได้เลื่อนขั้นไปฝึกซ้อมที่ คาร์ริงตัน สนามซ้อมของทีมชุดใหญ่
โดยครั้งนี้เด็กทั้งทั้ง 21 คน จาก 3 โรงเรียน ได้ร่วมฝึกซ้อมที่นี่เป็นเวลา 5 วัน แบ่งเป็น 2 ช่วง คือ เช้า 9.00-12.00 น. และบ่าย 13.00-16.00 น. ไล่ตั้งแต่วันแรกเน้นแทคติกต่างๆทั้งการ จ่ายบอล การโหม่ง การเลี้ยง การยิงประตู ก่อนที่วันที่สองจะเน้นเกมรับ ต่อด้วยวันที่สามเน้นเกมรุก ส่วนวันที่สี่จะเน้นความสัมพันธ์ในทีม และวันสุดท้ายจะซ้อมเบาๆแล้วปิดท้ายด้วยการพบกับเยาวชนท้องถิ่น โดยมี แมธ เกรกอลี กับ เอียน ธอมป์สัน สองโค้ชอะคาเดมีของแมนฯยูเป็นผู้ติวเข้ม
ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างสบายๆ เพราะทีมสตาฟฟ์ชุดนี้คุ้นเคยกับเด็กไทยเป็นอย่างดี ฝึกทักษะให้เด็กไทยมาแล้วไม่ต่ำกว่าร้อยคน เคยเดินทางมาแดนสยามเมืองยิ้มอยู่เป็นประจำ ทั้งคู่จึงรู้วิธีรับมือและออกแบบการสอนได้อย่างดีเยี่ยม โดยเวลาซ้อมตามด่านต่างๆก็จะเน้นจริงจัง เร่ง กระชับ ไม่มีหย่อนยาน แต่ในขณะเดียวกันก็จะคอยแอบหยอดมุกต่างๆให้เด็กได้ผ่อนคลาย ฝึกให้ได้สื่อสารกับชาวต่างชาติอย่างไม่ต้องเคอะเขิน ทุกอย่างจึงราบรื่น และที่เป็นไฮไลต์ คือ ในวันที่สี่ ได้มีสองตำนานศูนย์หน้าของ “ปิศาจแดง” อย่าง ดไวท์ ยอร์ค และ แอนดี โคล มาร่วมแจมลงฝึกร่วมกับเด็กๆอีกด้วย(สองคนนี้ก็มาเมืองไทยบ่อยไม่แพ้กัน)
นอกจากนี้ยังมีทีมแพทย์เตรียมสแตนด์บายพร้อมให้ความช่วยเหลือทันทีหากเด็กได้รับบาดเจ็บหรือมีอาการไม่สู้ดี เรียกได้ว่าตัวเองแอบอิจฉาไม่ได้ที่ได้เห็นเด็กๆมาได้ฝึกซ้อมกับทีมระดับโลกในบรรยากาศดีๆเย็นสบายราว 10 องศาเซลเซียส แต่ท่สำคัญหลังจากได้พูดคุยกับเด็กที่เดินทางมาในครั้งนี้หลายคนที่บ้านฐานะไม่สู้จะนัก บางคนไม่มีสตั๊ด บางคนไม่มีเสื้อหนาว โดยโค้ชหรือคุณครูที่เดินทางมาด้วยจึงจำต้องควักกระเป๋าช่วยเหลือ ดังนั้นการที่เด็กเหล่านี้ได้รับประสบการณ์ชั้นเยี่ยมที่จะเป็นที่จดจำไปตลอดชีวิต ต้องขอบคุณ “ฮอนด้า” โต้โผใหญ่ที่จัดโครงการดีๆเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดทั้ง การเดินทาง ที่พัก แถมยังพาเที่ยวชมสนาม ทานอาหารดีๆ(แอบถามผู้บริหารมา เชื่อว่าทุ่มทุนไปไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท ในการพาทั้ง 5 โรงเรียนมาแดนผู้ดีครั้งนี้)
ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับเด็กแต่ละคนแล้วว่าจะเก็บเกี่ยวประสบการณ์กลับบ้านได้มากน้อยขนาดไหน และจะสามารถนำไปต่อยอดให้กับตนเองในอนาคตได้หรือไม่ เพราะที่ผ่านมาก็มีตัวอย่างให้เห็นกันแล้วว่ามีหลายรายที่ได้โอกาสดีๆจากโครงการต่างๆจากผู้สนับสนุนใจดีมากมายในประเทศไทย แต่ไม่สามารถที่จะไขว่คว้าไว้ได้
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
สัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้เขียนได้มีโอกาสเดินทางไปร่วมชมการฝึกซ้อมของเยาวชนไทย อายุไม่เกิน 18 ปี ที่เป็นตัวแทนจากโครงการ “สพฐ-เอ.พี.ฮอนด้า เรด แชมเปียน ซีซั่น 4” ถึงประเทศอังกฤษ ซึ่งต้องบอกว่าได้ประสบการณ์ดีๆไม่น้อย
สำหรับรอบนี้มีเยาวชนจาก 5 โรงเรียน เดินทางมาร่วมฝึก โดยมี 3 โรงเรียนที่ได้รับการเทรนด์จากโค้ชอะคาเดมีของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือ โรงเรียนตะโหมด จ.พัทลุง โรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัด กาญจนบุรี 1 และ โรงเรียนวชิราลัย จ.เชียงใหม่ ส่วนอีกสองโรงเรียนฝึกกับโค้ชเยาวชนของ ลิเวอร์พูล คือ โรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา จ.ชลบุรี กับ โรงเรียนนาถ่อนพัฒนา จ.นครพนม
แต่ที่จะหยิบเล่าในสัปดาห์นี้คือการฝึกซ้อมที่ พาร์ทิงตัน สปอร์ต วิลเลจ ซึ่งเป็นสนามซ้อมของ “ปิศาจแดง” ในเมืองแมนเชสเตอร์ เพราะมีหลายอย่างที่สะกิดใจเหลือเกิน ซึ่ง พาร์ทิงตันฯ นี้เป็นเหมือน ซอคเกอร์ สคูล ของแมนฯยูไนเต็ด สำหรับปลุกปั้นเหล่าอะคาเดมีรุ่นจิ๋วของแชมป์ลีกสูงสุดเมืองผู้ดี 20 สมัย ก่อนที่จะได้เลื่อนขั้นไปฝึกซ้อมที่ คาร์ริงตัน สนามซ้อมของทีมชุดใหญ่
โดยครั้งนี้เด็กทั้งทั้ง 21 คน จาก 3 โรงเรียน ได้ร่วมฝึกซ้อมที่นี่เป็นเวลา 5 วัน แบ่งเป็น 2 ช่วง คือ เช้า 9.00-12.00 น. และบ่าย 13.00-16.00 น. ไล่ตั้งแต่วันแรกเน้นแทคติกต่างๆทั้งการ จ่ายบอล การโหม่ง การเลี้ยง การยิงประตู ก่อนที่วันที่สองจะเน้นเกมรับ ต่อด้วยวันที่สามเน้นเกมรุก ส่วนวันที่สี่จะเน้นความสัมพันธ์ในทีม และวันสุดท้ายจะซ้อมเบาๆแล้วปิดท้ายด้วยการพบกับเยาวชนท้องถิ่น โดยมี แมธ เกรกอลี กับ เอียน ธอมป์สัน สองโค้ชอะคาเดมีของแมนฯยูเป็นผู้ติวเข้ม
ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างสบายๆ เพราะทีมสตาฟฟ์ชุดนี้คุ้นเคยกับเด็กไทยเป็นอย่างดี ฝึกทักษะให้เด็กไทยมาแล้วไม่ต่ำกว่าร้อยคน เคยเดินทางมาแดนสยามเมืองยิ้มอยู่เป็นประจำ ทั้งคู่จึงรู้วิธีรับมือและออกแบบการสอนได้อย่างดีเยี่ยม โดยเวลาซ้อมตามด่านต่างๆก็จะเน้นจริงจัง เร่ง กระชับ ไม่มีหย่อนยาน แต่ในขณะเดียวกันก็จะคอยแอบหยอดมุกต่างๆให้เด็กได้ผ่อนคลาย ฝึกให้ได้สื่อสารกับชาวต่างชาติอย่างไม่ต้องเคอะเขิน ทุกอย่างจึงราบรื่น และที่เป็นไฮไลต์ คือ ในวันที่สี่ ได้มีสองตำนานศูนย์หน้าของ “ปิศาจแดง” อย่าง ดไวท์ ยอร์ค และ แอนดี โคล มาร่วมแจมลงฝึกร่วมกับเด็กๆอีกด้วย(สองคนนี้ก็มาเมืองไทยบ่อยไม่แพ้กัน)
นอกจากนี้ยังมีทีมแพทย์เตรียมสแตนด์บายพร้อมให้ความช่วยเหลือทันทีหากเด็กได้รับบาดเจ็บหรือมีอาการไม่สู้ดี เรียกได้ว่าตัวเองแอบอิจฉาไม่ได้ที่ได้เห็นเด็กๆมาได้ฝึกซ้อมกับทีมระดับโลกในบรรยากาศดีๆเย็นสบายราว 10 องศาเซลเซียส แต่ท่สำคัญหลังจากได้พูดคุยกับเด็กที่เดินทางมาในครั้งนี้หลายคนที่บ้านฐานะไม่สู้จะนัก บางคนไม่มีสตั๊ด บางคนไม่มีเสื้อหนาว โดยโค้ชหรือคุณครูที่เดินทางมาด้วยจึงจำต้องควักกระเป๋าช่วยเหลือ ดังนั้นการที่เด็กเหล่านี้ได้รับประสบการณ์ชั้นเยี่ยมที่จะเป็นที่จดจำไปตลอดชีวิต ต้องขอบคุณ “ฮอนด้า” โต้โผใหญ่ที่จัดโครงการดีๆเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดทั้ง การเดินทาง ที่พัก แถมยังพาเที่ยวชมสนาม ทานอาหารดีๆ(แอบถามผู้บริหารมา เชื่อว่าทุ่มทุนไปไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท ในการพาทั้ง 5 โรงเรียนมาแดนผู้ดีครั้งนี้)
ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับเด็กแต่ละคนแล้วว่าจะเก็บเกี่ยวประสบการณ์กลับบ้านได้มากน้อยขนาดไหน และจะสามารถนำไปต่อยอดให้กับตนเองในอนาคตได้หรือไม่ เพราะที่ผ่านมาก็มีตัวอย่างให้เห็นกันแล้วว่ามีหลายรายที่ได้โอกาสดีๆจากโครงการต่างๆจากผู้สนับสนุนใจดีมากมายในประเทศไทย แต่ไม่สามารถที่จะไขว่คว้าไว้ได้
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *