ASTV ผู้จัดการรายวัน – ช่วงต้นเดือนเมษายนของทุกปีเป็นที่ทราบกันดีว่าคือช่วงเวลาที่ “ลูกผู้ชายไทย” ต้องตรวจเลือกเพื่อเข้ารับราชการทหาร ไม่มียกเว้นทุกสาขาอาชีพไม่ว่าจะนักร้อง นักแสดง หรือนักกีฬา บางคนเลือกที่จะเสี่ยงจับใบดำ-ใบแดงตามกฎ บ้างก็ก้าวออกมาสมัคร เช่นเดียวกับ “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา ศูนย์หน้าตัวเก่งทีมชาติไทย ที่เลือกเข้ากองทัพอากาศเป็นระยะเวลา 1 ปีไปเมื่อวันที่ 7 เมษายนที่ผ่านมา ณ วิทยาลัยเทคนิคดอนเมือง
ถือว่าชีวิตของ ธีรศิลป์ แดงดา ช่วงนี้ค่อนข้างพลิกผัน โดยเพิ่งยกเลิกสัญญายืมตัวกับ อัลเมเรีย สโมสรแห่งศึก ลา ลีกา สเปน พร้อมกลับมาช่วง เอสซีจี เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ทวงแชมป์ฟุตบอล โตโยต้า ไทย พรีเมียร์ ลีก ฤดูกาล 2015 ล่าสุดได้สมัครเป็นรั้วของชาติ ซึ่งการตัดสินใจครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากคุณพ่อ พ.อ.อ. ประสิทธิ์ แดงดา ที่เป็นต้นแบบในการสร้างวินัยให้ตนเองเรื่อยมา
“มุ้ย” กล่าวว่า “สาเหตุที่ตนตัดสินใจเข้าทำหน้าที่ทหารอากาศ เพราะว่าเราเห็นคุณพ่อเป็นแบบอย่างมาโดยตลอด เรียกได้ว่าโตมาแบบลูกทหาร ฝึกให้มีระเบียบวินัย ความรับผิดชอบ และทำในสิ่งที่ตอบแทนแผ่นดินเกิด ทั้งการเป็นนักฟุตบอลทีมชาติไทย รวมทั้งการทำหน้าที่ทหาร เชื่อว่าจะได้ทำหน้าที่ลูกผู้ชายไทยอย่างเต็มที่"
“ทั้งนี้ผมได้สิทธิลดจากคุณวุฒิมัธยมศึกษาปีที่ 6 เข้ารับราชการเพียง 1 ปีเท่านั้นก็จะได้ปลดประจำการ ผมเลือกลงผลัดที่ 1 เพราะจะได้รีบกลับมาทำหน้าที่ให้ต้นสังกัด เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ส่วนตัวรู้สึกดีใจและภูมิใจที่ได้ทำหน้าที่ของลูกผู้ชาย สำหรับอนาคตทางสายทหารของผมถ้ามีโอกาสผมก็อยากจะเข้าบรรจุรับราชการเหมือนกันซึ่งก็ขึ้นอยู่กับจังหวะและโอกาสที่ได้รับ” ดาวยิง “กิเลนผยอง” เผย
ส่วนเรื่องอนาคตการค้าแข้งกับ เอสซีจี เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ธีรศิลป์ มั่นใจว่าน่าจะไม่มีผลกระทบแต่อย่างใด โดยกล่าวว่า "ยังไม่ทราบอะไรที่แน่ชัด คงต้องรอการปรึกษากับทางผู้ใหญ่แต่ก็น่าจะต้องเล่นฟุตบอลให้กับหน่วยที่สังกัดในกีฬาภายในกองทัพที่เลือกเอาไว้ ซึ่งการฝึกซ้อมกับต้นสังกัด เอสซีจี เมืองทองฯ ในศึกฟุตบอลโตโยต้า ไทยพรีเมียร์ลีก ไม่น่ามีปัญหาอะไรต้องกังวล เพราะได้รับอนุญาตจากกองทัพให้ปฏิบัติหน้าที่นักฟุตบอลได้ปกติ"
ด้าน พ.อ.อ. ประสิทธิ์ แดงดา บิดาของ “มุ้ย” กล่าวถึงการที่ลูกชายเลือกเดินทางตามเส้นทางของตนเองในครั้งนี้ว่า “ปีนี้ มุ้ย ต้องเป็นทหารแน่ๆ เพราะผ่อนผันครบแล้ว ทางเลือกของเราคือ จับใบดำ ใบแดง หรือไม่ก็ไปสมัครเข้าเลย หากจับได้ใบดำ ก็ถือว่าโชคดีไป แต่หากได้ใบแดง อาจต้องไปลงทหารบก ซึ่งแน่นอนว่าต้นสังกัด เมืองทองฯ อาจเสียหายหนัก เราจึงตัดสินใจเลือกสมัครและเลือกที่จะยื่นเอกสารไปยังทหารอากาศ"
"ในปีนี้ทหารอากาศรับเพียง 25 คน แบ่งเป็น 2 ผลัด ผลัด 1 จำนวน 13 คน ผลัด 2 จำนวน 12 คน มุ้ย ยื่นความจำนงสมัครเข้าผลัด 1 และได้ตามที่หวังไว้ถือว่าเป็นเรื่องน่ายินดี ส่วนตัวดีใจที่ลูกชายได้ทำหน้าที่รับใช้ชาติ และที่ผ่านมาเเขาก็ได้รับใช้ชาติมาโดยตลอด ด้วยการตั้งใจฝึกซ้อมฟุตบอลเพื่อไปช่วยทีมชาติไทย" คุณพ่อแข้งตัวเก่งทีมชาติไทย เผย
นอกจากนี้ พ.อ.อ.ประสิทธิ์ กล่าวถึงการที่ทีมชาติไทยต้องการได้ตัว “มุ้ย” มาทำศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย เดือนมิถุนายนนี้ ก็อยากให้ สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย หรือ เอสซีจี เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ทำเรื่องไปยังทหารอากาศเพื่อขอตัว โดยเชื่อว่าน่าจะไม่ติดขัดอะไร
"แน่นอนว่าช่วงแรกๆ มุ้ย อาจต้องเรียนรู้ในการเป็นทหารและได้รับการฝึกต่างๆ แต่หากถึงช่วงคัดฟุตบอลโลก สมาคมฟุตบอลฯ และ เอสซีจี เมืองทองฯ อาจทำเรื่องขอตัวให้มุ้ยมาเล่นทีมชาติ เพราะถือว่าเป็นการช่วยชาติอีกทาง ซึ่งรายละเอียดการฝึกซ้อมต่อจากนี้ยังไม่ได้กำหนดชัดเจน น่าจะทราบผลอีกครั้งหลังจากที่ทราบว่าลูกชายจะสังกัดอยู่ในหน่วยไหน" พ.อ.อ.ประสิทธิ์ กล่าว
ทั้งนี้ “มุ้ย” จะเข้ามารายงานตัวกับกองทัพอากาศอีกครั้งในวันที่ 23 เมษายน 2558 เพื่อรับทราบว่าตนเองถูกจัดให้อยู่ในหน่วยใดและเข้ารับการฝึกซ้อมในวันที่ 1 พฤษภาคม 2558 เป็นระยะเวลา 1 ปี
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *