คอลัมน์ BUZZER BEAT โดย MVP
บ่ายวันเสาร์ที่ 21 มีนาคม ตามวัน - เวลาท้องถิ่น ประเทศสหรัฐฯ สตีฟ แนช ว่าที่ “ฮอลล์ ออฟ เฟม” ประกาศรีไทร์อย่างเป็นทางการ หลังผ่านสังเวียนบาสเก็ตบอล เอ็นบีเอ (NBA) มานาน 18 ฤดูกาล กับ ฟีนิกซ์ ซันส์, ดัลลัส แมเวอริกส์ และ แอลเอ เลเกอร์ส น่าเสียดายที่ตลอดซีซัน 2014 - 15 เราไม่ได้เห็น การ์ดจ่ายวัย 41 ปี ลงสนาม เนื่องจากปัญหาการบาดเจ็บหลัง ก็เลยขอรำลึกถึงอดีตสักหน่อย
แนช จบอาชีพด้วยการถูกโหวตติด “ออล - สตาร์” 8 สมัย และรางวัลผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) 2 สมัย ครั้งบัญชาเกมบุก 7 วินาทีของ ไมค์ ดี แอนโทนี หัวหน้าโค้ช ฟีนิกซ์ ซันส์ พลิกโฉมหน้าลีกเข้าสู่ยุคใหม่ ที่เน้นการจู่โจมโดยอาศัยพื้นที่ว่าง และความเร็ว ทำคะแนน 17,387 แต้ม (อันดับ 78) 10,335 แอสซิสต์ (อันดับ 3) ยิงฟรีโธรว์ 90.4 เปอร์เซ็นต์ (อันดับ 1) และ ส่อง 3 คะแนน 42.8 เปอร์เซ็นต์
ความสำเร็จของ จอมแม่นชาวแคนาเดียน เริ่มจากตำแหน่ง MVP ฤดูกาล 2004 - 2005 และ 2005 - 2006 รั้งอันดับ 5 ตลอดกาล ทาบ ทิม ดันแคน จอมเก๋า ซาน อันโตนิโอ สเปอร์ส กับ คาร์ล มาโลน อดีตฟอร์เวิร์ด ยูทาห์ แจซซ์ แถมเป็นผู้เล่นเพียงคนเดียวที่เตี้ยกว่า 6 ฟุต 6 นิ้ว (แนช 6 ฟุต 3 นิ้ว) ที่ได้รับรางวัลนี้มากกว่า 1 ครั้ง
ยิ่งกว่านั้น แนช นำ ซันส์ คว้าแชมป์ แปซิฟิก ดิวิชัน ทาบสถิติเก็บชัยมากสุดของแฟรนไชส์ 62 เกม (2004 - 05) ที่เคยทำไว้ฤดูกาล 1992 - 93 และเข้ารอบชิงชนะเลิศ สายตะวันตก ตลอด MVP ซีซัน และนับตั้งแต่หมดยุครุ่งเรืองของ “พระอาทิตย์” มีเพียง เลอบรอน เจมส์ ฟอร์เวิร์ด คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส ที่กวาดไป 4 จาก 8 ปีที่ผ่านมา
ข้ามมาที่การชู้ต ศิษย์เก่ามหาวิทยาลัย ซานตา คลารา นับว่าโดดเด่นไม่แพ้ใครในลีก ยึดอันดับ 1 ผู้เล่นทำสถิติ 50 - 40 - 90 (ฟิลด์โกล 50 เปอร์เซ็นต์, 3 คะแนน 40 เปอร์เซ็นต์, ลูกโทษ 90 เปอร์เซ็นต์) สูงสุดตลอดกาล 4 ครั้ง ฤดูกาล 2005 - 06, 2007 - 08, 2008 - 09 และ 2009 - 10 เหนือกว่า แลร์รี เบิร์ด ตำนาน บอสตัน เซลติกส์ ที่ทำได้ 2 ครั้ง ส่วนผู้เล่นปัจจุบันที่เหลืออยู่ มีเพียง โฆเซ คัลเดรอน, เควิน ดูแรนท์ และ เดิร์ก โนวิตซ์กี คนละ 1 ครั้ง
ด้านการแอสซิสต์ แนช ครองอันดับ 3 ตลอดกาล 10,335 ครั้ง เป็นรองเพียง จอห์น สต็อคตัน (15,806) และ เจสัน คิดด์ (12,091) แต่หากไม่ได้ผลงาน 5 แอสซิสต์ เกมพบ ฮุสตัน ร็อคเก็ตส์ วันที่ 8 เมษายน 2014 (ท้องถิ่น) ก็คงไม่อาจเบียด มาร์ค แจ็คสัน (10,334) ขึ้นมาได้
แต่ถ้าพิจารณาค่าเฉลี่ยต่อเกม แนช ทำเกินหลัก 10 ถึง 7 ฤดูกาล รั้งอันดับ 3 ตลอดกาลเช่นกัน รองจาก แมจิก จอห์นสัน (9) และ สต็อคตัน (10) โดย 5 ครั้งเป็นการครองแชมป์แอสซิสต์ เหนือกว่าตำนานอย่าง ออสการ์ โรเบิร์ตสัน (5), เควิน จอห์นสัน (4), ไอเซียห์ โธมัส (4), เจสัน คิดด์ (3) และ มาร์ค แจ็คสัน (2) ส่วนผู้เล่นยุคปัจจุบันที่น่าจะแซงได้ น่าจะมีแค่ คริส พอล ของ แอลเอ คลิปเปอร์ส (5) ขณะที่ เดรอน วิลเลียมส์ (4) แห่ง บรูกลิน เน็ตส์ อาจต้องเหนื่อยสักหน่อย
สิ่งเดียวที่น่าจะเติมเต็มอาชีพของ แนช นั่นคือ แหวนแชมป์ ซึ่งเปรียบดั่งโชคชะตากลั่นแกล้ง เนื่องจากโอกาสครั้งสุดท้ายกับ แอลเอ เลเกอร์ส ที่มีแม่ทัพอย่าง โคบี ไบรอันท์, เพา กาซอล และ ดไวท์ ฮาวเวิร์ด แต่ทั้งหมด (รวม แนช) เกิดบาดเจ็บออดๆ แอดๆ ก่อนจะแพแตกกันไป อย่างน้อย เจ้าตัว ก็คงรู้ซึ้งถึงความเจ็บของ คาร์ล มาโลน ที่มาจอย “ม่วงทอง” บั้นปลายอาชีพเช่นกัน
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
บ่ายวันเสาร์ที่ 21 มีนาคม ตามวัน - เวลาท้องถิ่น ประเทศสหรัฐฯ สตีฟ แนช ว่าที่ “ฮอลล์ ออฟ เฟม” ประกาศรีไทร์อย่างเป็นทางการ หลังผ่านสังเวียนบาสเก็ตบอล เอ็นบีเอ (NBA) มานาน 18 ฤดูกาล กับ ฟีนิกซ์ ซันส์, ดัลลัส แมเวอริกส์ และ แอลเอ เลเกอร์ส น่าเสียดายที่ตลอดซีซัน 2014 - 15 เราไม่ได้เห็น การ์ดจ่ายวัย 41 ปี ลงสนาม เนื่องจากปัญหาการบาดเจ็บหลัง ก็เลยขอรำลึกถึงอดีตสักหน่อย
แนช จบอาชีพด้วยการถูกโหวตติด “ออล - สตาร์” 8 สมัย และรางวัลผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) 2 สมัย ครั้งบัญชาเกมบุก 7 วินาทีของ ไมค์ ดี แอนโทนี หัวหน้าโค้ช ฟีนิกซ์ ซันส์ พลิกโฉมหน้าลีกเข้าสู่ยุคใหม่ ที่เน้นการจู่โจมโดยอาศัยพื้นที่ว่าง และความเร็ว ทำคะแนน 17,387 แต้ม (อันดับ 78) 10,335 แอสซิสต์ (อันดับ 3) ยิงฟรีโธรว์ 90.4 เปอร์เซ็นต์ (อันดับ 1) และ ส่อง 3 คะแนน 42.8 เปอร์เซ็นต์
ความสำเร็จของ จอมแม่นชาวแคนาเดียน เริ่มจากตำแหน่ง MVP ฤดูกาล 2004 - 2005 และ 2005 - 2006 รั้งอันดับ 5 ตลอดกาล ทาบ ทิม ดันแคน จอมเก๋า ซาน อันโตนิโอ สเปอร์ส กับ คาร์ล มาโลน อดีตฟอร์เวิร์ด ยูทาห์ แจซซ์ แถมเป็นผู้เล่นเพียงคนเดียวที่เตี้ยกว่า 6 ฟุต 6 นิ้ว (แนช 6 ฟุต 3 นิ้ว) ที่ได้รับรางวัลนี้มากกว่า 1 ครั้ง
ยิ่งกว่านั้น แนช นำ ซันส์ คว้าแชมป์ แปซิฟิก ดิวิชัน ทาบสถิติเก็บชัยมากสุดของแฟรนไชส์ 62 เกม (2004 - 05) ที่เคยทำไว้ฤดูกาล 1992 - 93 และเข้ารอบชิงชนะเลิศ สายตะวันตก ตลอด MVP ซีซัน และนับตั้งแต่หมดยุครุ่งเรืองของ “พระอาทิตย์” มีเพียง เลอบรอน เจมส์ ฟอร์เวิร์ด คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส ที่กวาดไป 4 จาก 8 ปีที่ผ่านมา
ข้ามมาที่การชู้ต ศิษย์เก่ามหาวิทยาลัย ซานตา คลารา นับว่าโดดเด่นไม่แพ้ใครในลีก ยึดอันดับ 1 ผู้เล่นทำสถิติ 50 - 40 - 90 (ฟิลด์โกล 50 เปอร์เซ็นต์, 3 คะแนน 40 เปอร์เซ็นต์, ลูกโทษ 90 เปอร์เซ็นต์) สูงสุดตลอดกาล 4 ครั้ง ฤดูกาล 2005 - 06, 2007 - 08, 2008 - 09 และ 2009 - 10 เหนือกว่า แลร์รี เบิร์ด ตำนาน บอสตัน เซลติกส์ ที่ทำได้ 2 ครั้ง ส่วนผู้เล่นปัจจุบันที่เหลืออยู่ มีเพียง โฆเซ คัลเดรอน, เควิน ดูแรนท์ และ เดิร์ก โนวิตซ์กี คนละ 1 ครั้ง
ด้านการแอสซิสต์ แนช ครองอันดับ 3 ตลอดกาล 10,335 ครั้ง เป็นรองเพียง จอห์น สต็อคตัน (15,806) และ เจสัน คิดด์ (12,091) แต่หากไม่ได้ผลงาน 5 แอสซิสต์ เกมพบ ฮุสตัน ร็อคเก็ตส์ วันที่ 8 เมษายน 2014 (ท้องถิ่น) ก็คงไม่อาจเบียด มาร์ค แจ็คสัน (10,334) ขึ้นมาได้
แต่ถ้าพิจารณาค่าเฉลี่ยต่อเกม แนช ทำเกินหลัก 10 ถึง 7 ฤดูกาล รั้งอันดับ 3 ตลอดกาลเช่นกัน รองจาก แมจิก จอห์นสัน (9) และ สต็อคตัน (10) โดย 5 ครั้งเป็นการครองแชมป์แอสซิสต์ เหนือกว่าตำนานอย่าง ออสการ์ โรเบิร์ตสัน (5), เควิน จอห์นสัน (4), ไอเซียห์ โธมัส (4), เจสัน คิดด์ (3) และ มาร์ค แจ็คสัน (2) ส่วนผู้เล่นยุคปัจจุบันที่น่าจะแซงได้ น่าจะมีแค่ คริส พอล ของ แอลเอ คลิปเปอร์ส (5) ขณะที่ เดรอน วิลเลียมส์ (4) แห่ง บรูกลิน เน็ตส์ อาจต้องเหนื่อยสักหน่อย
สิ่งเดียวที่น่าจะเติมเต็มอาชีพของ แนช นั่นคือ แหวนแชมป์ ซึ่งเปรียบดั่งโชคชะตากลั่นแกล้ง เนื่องจากโอกาสครั้งสุดท้ายกับ แอลเอ เลเกอร์ส ที่มีแม่ทัพอย่าง โคบี ไบรอันท์, เพา กาซอล และ ดไวท์ ฮาวเวิร์ด แต่ทั้งหมด (รวม แนช) เกิดบาดเจ็บออดๆ แอดๆ ก่อนจะแพแตกกันไป อย่างน้อย เจ้าตัว ก็คงรู้ซึ้งถึงความเจ็บของ คาร์ล มาโลน ที่มาจอย “ม่วงทอง” บั้นปลายอาชีพเช่นกัน
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
