คอลัมน์ “TIMEOUT” โดย “ชมณัฐ”
สะดุ้งเลยทีเดียวเมื่อได้เห็นข่าว “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือทีมชาติไทย เตรียมเข้าหารือกับ “บังยี” วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เรื่องนโยบายของทีมชาติชุดต่างๆ ในปี 2015 เพราะที่ตกใจก็คือส่วนหนึ่งของข้อความระบุว่า เฮดโค้ชวัย 41 ปี จะเข้าไปถามว่าจะเน้นชุดไหนระหว่าง “คัดบอลโลก” กับ “ซีเกมส์” ที่มีช่วงเวลาแข่งขันทับซ้อนกัน
หากใครยังไม่ทราบในปี 2015 นี้ ทัพ “ช้างศึก” มีโปรแกรมลงเล่นรายการ “ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย” ที่ได้ออกสตาร์ทในรอบแบ่งกลุ่มโดยจะเริ่มระเบิดแข้งตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายน นี้ เป็นต้นไป ลากยาวถึงวันที่ 29 มีนาคม 2016 ซึ่งจะเป็นการคัดหาทีมไปเล่นรายการ เอเชียน คัพ 2019 ไปในตัว แต่ที่เป็นประเด็นคือ 2 เกมแรกของรายการนี้ วันที่ 11 และ 16 มิถุนายน ดันไปทับซ้อนตรงกับรายการ ซีเกมส์ ครั้งมี่ 28 ระหว่างวันที่ 5 - 16 มิถุนายน นี้ ที่สิงคโปร์ จึงต้องแบ่งนักเตะออกเป็น 2 ชุด
ครั้นจะทำเหมือนที่แล้วมาให้นักเตะวิ่งรอก 2 รายการ “ซิโก้” ก็ยืนยันว่าไม่เอาด้วยแน่นอน ต้องแบ่งชัดเจนไปเลยว่าใครติดทีมชุดไหน จึงต้องเข้าไปหารือนโยบายกับพ่อใหญ่บอลไทยเสียก่อนจึงจะแบโผรายชื่อออกมาให้ได้รู้ว่าอยากให้เน้นชุดไหนมากกว่ากัน
หลายคนคงหัวร่อว่าทำไมต้องคุยในเมื่อฟุตบอลโลกนั้น เป็นรายการใหญ่มีความสำคัญกว่าชัดเจน แต่อย่าลืมว่านายใหญ่ลูกหนังไทยคนปัจจุบันให้ความสำคัญกับ ซีเกมส์ มากแค่ไหน ถึงขนาดออกโรงอาสารวบรวมเสียงชาติในอาเซียนไปยื่นต่อสหพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (เอเอฟซี) เพื่อขอเลื่อนโปรแกรมคัดบอลโลกเลยทีเดียว ทำให้ยังคงต้องลุ้นกันต่อไปว่าสุดท้ายจะออกมาหน้าไหน เพราะที่ผ่านมาก็มีสิ่งเหนือความคาดคิดออกมาให้ได้เห็นเป็นประจำ
ที่สำคัญ นอกจากวงการลูกหนังแล้วยังมีอีกหลายสมาคมกีฬาบ้านเราที่พอมีโปรแกรมตรงกันมักจะเลือกเน้นไปที่ทัวร์นาเมนต์เล็กมากกว่ารายการที่ใหญ่กว่า เนื่องจากมองว่าสามารถการันตีความสำเร็จได้แน่นอน แถมมีโบนัสและเงินรางวัลที่จะตามมาอีกมากมาย หากไปลุ้นรายการใหญ่นอกจากจะยากแล้วยังมีโอกาสสูงที่จะมือเปล่า
ซึ่งในส่วนของฟุตบอล ณ เวลานี้ต้องบอกว่านักเตะอย่าง “เมสซีเจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม ธนบูรณ์ เกษารัตน์ หรือ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ที่คว้าแชมป์ครั้งก่อน นั้นฝีเท้าเกินระดับอาเซียนไปแล้ว ไม่มีความจำเป็นใดๆ เลยที่จะต้องทู่ซี้ส่งนักเตะชุดนี้ไปไล่ล่าเหรียญทองซีเกมส์อีกครั้งแทนที่จะเก็บพละกำลังไว้ลุ้นไปฟุตบอลโลก
ยิ่งไปกว่านั้นใน ซีเกมส์ 2015 เวียดนาม ประกาศแล้วว่าจะใช้แข้งชุด ยู-19 ลงชิงชัยเพื่อต่อยอดสู่อนาคต แล้วทำไมพี่ไทยจึงไม่ตัดสินใจที่จะส่งเด็กหาประสบการณ์บ้าง อย่าลืมว่าตอนนี้บ้านเรามีคลื่นลูกใหม่ที่ต่อแถวรอวันแจ้งเกิดนับไม่ถ้วน หลายรายได้รับโอกาสแล้วจากสโมสรต้นสังกัด อาทิ ขุนพลชุด ยู-22 อย่าง เจนรบ สำเภาดี สุริยา สิงห์มุ้ย กษิดิ์เดช เวทยาวงศ์ ธนาสิทธิ์ ศิริผลา ชาว์วัฒน์ วีระชาติ ฯลฯ ที่ต้องการเกมระดับประเทศเพื่อเสริมกระดูก หากผ่านรอบแรกคัดเลือกโอลิมปิกเกมส์ 2016 ในเดือนมีนาคมนี้ได้
แฟนบอลรับได้อยู่แล้วครับหากมีนโยบายแผนการพัฒนาต่อยอดที่ชัดเจน แม้จะใช้เด็กใหม่แล้วต้องพลาดเหรียญทองในระดับอาเซียนไป เพราะยังดีกว่าใช้ตัวหลักแล้วต้องวนอยู่กับวังวนความสำเร็จเดิมๆ เป็นเจ้าอาเซียนสมัยที่ 15 แต่ระดับทวีปยังย่ำอยู่กับที่
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
สะดุ้งเลยทีเดียวเมื่อได้เห็นข่าว “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือทีมชาติไทย เตรียมเข้าหารือกับ “บังยี” วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เรื่องนโยบายของทีมชาติชุดต่างๆ ในปี 2015 เพราะที่ตกใจก็คือส่วนหนึ่งของข้อความระบุว่า เฮดโค้ชวัย 41 ปี จะเข้าไปถามว่าจะเน้นชุดไหนระหว่าง “คัดบอลโลก” กับ “ซีเกมส์” ที่มีช่วงเวลาแข่งขันทับซ้อนกัน
หากใครยังไม่ทราบในปี 2015 นี้ ทัพ “ช้างศึก” มีโปรแกรมลงเล่นรายการ “ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย” ที่ได้ออกสตาร์ทในรอบแบ่งกลุ่มโดยจะเริ่มระเบิดแข้งตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายน นี้ เป็นต้นไป ลากยาวถึงวันที่ 29 มีนาคม 2016 ซึ่งจะเป็นการคัดหาทีมไปเล่นรายการ เอเชียน คัพ 2019 ไปในตัว แต่ที่เป็นประเด็นคือ 2 เกมแรกของรายการนี้ วันที่ 11 และ 16 มิถุนายน ดันไปทับซ้อนตรงกับรายการ ซีเกมส์ ครั้งมี่ 28 ระหว่างวันที่ 5 - 16 มิถุนายน นี้ ที่สิงคโปร์ จึงต้องแบ่งนักเตะออกเป็น 2 ชุด
ครั้นจะทำเหมือนที่แล้วมาให้นักเตะวิ่งรอก 2 รายการ “ซิโก้” ก็ยืนยันว่าไม่เอาด้วยแน่นอน ต้องแบ่งชัดเจนไปเลยว่าใครติดทีมชุดไหน จึงต้องเข้าไปหารือนโยบายกับพ่อใหญ่บอลไทยเสียก่อนจึงจะแบโผรายชื่อออกมาให้ได้รู้ว่าอยากให้เน้นชุดไหนมากกว่ากัน
หลายคนคงหัวร่อว่าทำไมต้องคุยในเมื่อฟุตบอลโลกนั้น เป็นรายการใหญ่มีความสำคัญกว่าชัดเจน แต่อย่าลืมว่านายใหญ่ลูกหนังไทยคนปัจจุบันให้ความสำคัญกับ ซีเกมส์ มากแค่ไหน ถึงขนาดออกโรงอาสารวบรวมเสียงชาติในอาเซียนไปยื่นต่อสหพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (เอเอฟซี) เพื่อขอเลื่อนโปรแกรมคัดบอลโลกเลยทีเดียว ทำให้ยังคงต้องลุ้นกันต่อไปว่าสุดท้ายจะออกมาหน้าไหน เพราะที่ผ่านมาก็มีสิ่งเหนือความคาดคิดออกมาให้ได้เห็นเป็นประจำ
ที่สำคัญ นอกจากวงการลูกหนังแล้วยังมีอีกหลายสมาคมกีฬาบ้านเราที่พอมีโปรแกรมตรงกันมักจะเลือกเน้นไปที่ทัวร์นาเมนต์เล็กมากกว่ารายการที่ใหญ่กว่า เนื่องจากมองว่าสามารถการันตีความสำเร็จได้แน่นอน แถมมีโบนัสและเงินรางวัลที่จะตามมาอีกมากมาย หากไปลุ้นรายการใหญ่นอกจากจะยากแล้วยังมีโอกาสสูงที่จะมือเปล่า
ซึ่งในส่วนของฟุตบอล ณ เวลานี้ต้องบอกว่านักเตะอย่าง “เมสซีเจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม ธนบูรณ์ เกษารัตน์ หรือ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ที่คว้าแชมป์ครั้งก่อน นั้นฝีเท้าเกินระดับอาเซียนไปแล้ว ไม่มีความจำเป็นใดๆ เลยที่จะต้องทู่ซี้ส่งนักเตะชุดนี้ไปไล่ล่าเหรียญทองซีเกมส์อีกครั้งแทนที่จะเก็บพละกำลังไว้ลุ้นไปฟุตบอลโลก
ยิ่งไปกว่านั้นใน ซีเกมส์ 2015 เวียดนาม ประกาศแล้วว่าจะใช้แข้งชุด ยู-19 ลงชิงชัยเพื่อต่อยอดสู่อนาคต แล้วทำไมพี่ไทยจึงไม่ตัดสินใจที่จะส่งเด็กหาประสบการณ์บ้าง อย่าลืมว่าตอนนี้บ้านเรามีคลื่นลูกใหม่ที่ต่อแถวรอวันแจ้งเกิดนับไม่ถ้วน หลายรายได้รับโอกาสแล้วจากสโมสรต้นสังกัด อาทิ ขุนพลชุด ยู-22 อย่าง เจนรบ สำเภาดี สุริยา สิงห์มุ้ย กษิดิ์เดช เวทยาวงศ์ ธนาสิทธิ์ ศิริผลา ชาว์วัฒน์ วีระชาติ ฯลฯ ที่ต้องการเกมระดับประเทศเพื่อเสริมกระดูก หากผ่านรอบแรกคัดเลือกโอลิมปิกเกมส์ 2016 ในเดือนมีนาคมนี้ได้
แฟนบอลรับได้อยู่แล้วครับหากมีนโยบายแผนการพัฒนาต่อยอดที่ชัดเจน แม้จะใช้เด็กใหม่แล้วต้องพลาดเหรียญทองในระดับอาเซียนไป เพราะยังดีกว่าใช้ตัวหลักแล้วต้องวนอยู่กับวังวนความสำเร็จเดิมๆ เป็นเจ้าอาเซียนสมัยที่ 15 แต่ระดับทวีปยังย่ำอยู่กับที่
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *