“ปลื้มจิตร์” แจ้งความ ลั่นเอาเรื่องมือตัดต่อถึงที่สุด!

ปลื้มจิตร์ ถินขาว นักตบลูกยางสาวซูเปอร์สตาร์ทีมชาติไทย เดินทางเข้าแจ้งความกรณีที่โดนตัดต่อภาพอนาจารลงเฟซบุ๊ก ที่กองบังคับการปราบปราม การกระทำผิด เกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ป.อ.ท.) เมื่อช่วงเที่ยงวันที่ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เจ้าตัวลั่นดำเนินคดีจนถึงที่สุด

ความคืบหน้าหลังจากที่ ปลื้มจิตร์ ถินขาว นักกีฬาวอลเลย์บอลทีมชาติไทย ออกมาเผยว่าตนโดนผู้ไม่ประสงค์ดีนำภาพของตนไปตัดต่อเป็นรูปลามากอนาจารแล้วมีการเผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊กสื่อโซเชียลชื่อดัง

ล่าสุดเมื่อช่วงเที่ยงวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ปลื้มจิตร์ พร้อมด้วย ร.ท.จักรสุวรรณ โตเจริญ เลขาธิการสมาคมวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย และทนายความ ได้เดินทางเข้าแจ้งความกรณีดังกล่าวที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) อาคารเฉลิมพระเกียรติตึก บี ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ เพื่อเอาผิดผู้ที่นำภาพไปตัดต่อ โดยมี พ.ต.ท. ดำรงศักดิ์ อ่อนตา รองผู้กำกับการ 3 บก. ปอท. เป็นผู้รับเรื่อง

โดย ปลื้มจิตร์ เปิดเผยความรู้สึกถึงการเดินทางมาแจ้งความครั้งนี้ว่า "หลังจากได้เห็นภาพดังกล่าวก็รู้สึกตกใจเพราะเป็นภาพสมัยเมื่อ 2 ปีที่แล้วที่กำลังเล่นลีกอาชีพที่อาเซอร์ไบจาน แต่ถูกนำมาตัดต่อเป็นรูปเปลือยขึ้นคร่อมผู้ชาย จึงได้ปรึกษากับทางสมาคมวอลเลย์บอลฯ และรวบรวมหลักฐานต่างๆมาแจ้งความในครั้งนี้ แม้ส่วนตัวจะไม่ได้กระเทือนจิตใจมากมายเพราะรู้อยู่แล้วว่าไม่ใช่เรื่องจริง แต่เราเป็นห่วงครอบครัวเพราะหลายคนอาจไม่รู้ว่าเป็นภาพตัดต่อและมาพูดต่อๆกัน ที่สำคัญก่อนหน้านี้ตัวเองและน้องๆในทีมมักจะถูกคุกคามในสื่อประจำทั้งการแอบอ้างทำเฟซบุ๊กปลอมไปหลอกขายของ รวมถึงส่งข้อความแปลกๆมา"

"ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำและทำไปเพราะอะไร ส่วนตัวคิดว่าคนตัดต่ออาจจะว่างและคึกคะนอง รวมถึงคนที่นำรูปมาโพสต์ต่อด้วยเช่นกัน ดังนั้นเราจึงต้องออกมาปกป้องและเป็นเหมือนตัวแทนของครอบครัววอลเลย์บอลไทย เดินทางมาแจ้งความและจะเอาเรื่องจนถึงที่สุดเพื่อให้เป็นกรณีตัวอย่างไม่ให้เกิดขึ้นอีกกับผู้อื่น" นิ้งหน่อง กล่าว

ด้าน ประพัฒน์ ไชยเดช ทนายความ เผยว่าขณะนี้พอทราบข้อมูลเบื้องต้นแล้ว "ตอนนี้เราพอทราบข้อมูลเบื้องต้นแล้วว่าเป็นใคร จากนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ ซึ่งกรณีนี้มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326 และ 327 เรื่องการหมิ่นประมาท รวมถึงผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 และ 16 เรื่องการนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ มีโทษสูงสุดคือจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ"

* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *