หลุยส์ ซานโต!ซัดโทน "เซราะกราว" เฉือนบีจีคว้าถ้วย ก

ดิโอโก หลุยส์ ซานโต ดาวยิงสัญชาติบราซิล แผลงฤทธิ์ในครึ่งหลังก่อนกดประตูชัยให้ "เซราะกราว" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เอาชนะ "กระต่ายแก้ว" บางกอกกล๊าส เอฟซี 1-0 คว้าแชมป์ถ้วยพระราชทาน ประเภท ก ไปครองเป็นสมัยที่ 3 เมื่อเย็นวันที่ 24 มกราคม ที่ผ่านมา

ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน ประเภท ก
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 1-0 บางกอกกล๊าส เอฟซี

ศึกฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน ประเภท ก ประจำปี 2558 เมื่อวันที่ 24 มกราคม ที่ผ่านมา ณ สนามศุภชลาสัย เป็นการพบกันระหว่าง 2 มหาอำนาจลูกหนังไทย บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เจ้าของแชมป์ 2 สมัยของรายการนี้ ลงเผชิญหน้า บางกอกกล๊าส เอฟซี โดยผู้ชนะจะได้รับถ้วยพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ขณะที่รายได้ส่วนหนึ่งของการแข่งขันจะทูลเกล้าฯถวายแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย

เกมนี้ทางฝั่งแชมป์เก่า ขาด จักรพันธ์ แก้วพรหม ที่ยังมีอาการบาดเจ็บ ขณะที่ตัวหลักคนอื่นๆ อยู่กันครบ โดย อเล็กซานเดอร์ กามา หัวหน้าผู้ฝึกสอน “ปราสาทสายฟ้า” ส่งดาวยิงจากบราซิล ทั้ง ดิโอโก หลุยส์ ซานโต และ กิลแบร์โต มาเชนา ผนึกกำลังในแนวรุก ขณะที่ ริคาร์โด โรดริเกวซ กุนซือ "กระต่ายแก้ว" พัก เลอันโดร โอลิเวียรา ที่เพิ่งหายจากอาการบาดเจ็บไว้ข้างสนาม และส่ง ดาโก ทาเชฟสกี ลงล่าตาข่ายคู่กับ ชาตรี ฉิมทะเล

เปิดฉากมาเพียง 3 นาที บุรีรัมย์ ได้โอกาสปั่นฟรีคิกจาก ธีราธร แต่บอลตกพื้นก่อนจะกระดอนเข้ามือ นริศ จากนั้น น.9 ดาโก ทาเชฟสกี ได้ลุ้นลูกฟรีคิกจากระยะ 35 หลา แต่บอลแรงผ่านเสาสองออกหลังไป น.17 ปราสาทสายฟ้ายังเปิดเกมบุกได้มากกว่า ก่อนได้โอกาสโต้กลับจากกลางสนาม บอลไปถึง นฤพล ตวัดบอลข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย เกมผ่านไปครึ่งชั่วโมงทั้ง 2 ทีมยังไม่สามารถทำประตูได้

จนกระทั่งเข้าสู่นาทีที่ 43 บางกอกกล๊าสได้ลุ้นทำประตูขึ้นนำ จากจังหวะการผ่านบอลของ ดาโก ทาเชฟกี แต่เป็น ตูนเนญ ที่ลงมาสกัดบอลออกไปได้หวุดหวิด ถัดมาเพียง 1 นาที บุรีรัมย์ใช้จังหวะสวนกลับ จาก ธีราธร ที่ยืนรออยู่ริมเส้น เปิดโด่งเข้าหัว นฤบดินทร์ โหม่งช้อนใต้บอลเหินข้ามคานออกไปอีก ก่อนจบครึ่งแรกด้วยผล 0-0

ครึ่งหลัง บีจี เปลี่ยนเอา ณรงค์ จันทร์เสวก ลงมาใช้ความเก๋าเติมเกมในแดนกลางแทน สุรเดช ธงชัย ก่อนที่ น.56 บุรีรัมย์ ได้เฮก่อน เมื่อ กิลแบร์โต มาเชนา ผ่านบอลสั้นในกรอบเขตโทษให้ หลุยส์ ซานโต ชาร์จบอลจ่อๆ สวนตัว นริศ เข้าประตู 1-0 ถัดมา น.63 บีจี มีลุ้นตีเสมอจากการซัลโวไกลของ พีระพงศ์ บอลพุ่งเฉียดตัวขลุกขลิกแนวรับของบุรีรัมย์ ก่อนจะกระดอนข้ามคานออกไป

มาถึงนาทีที่ 79 ศูนย์หน้าชาวบราซิล ได้โอกาสทำประตูที่สองของตัวเอง แต่เลือกผ่านบอลเข้าบริเวณกรอบเขตโทษ ถึงเท้า โก ซุล กิ แต่ไม่มีโอกาสได้ง้างยิง บอลแฉลบเท้าออกข้างไปอย่างน่าเสียดาย และไม่มีใครทำประตูเพิ่มได้ ทำให้หมดเวลาการแข่งขัน ปราสาทสายฟ้า เป็นฝ่ายคว้าแชมป์สมัยที่ 3 ได้สำเร็จ ด้วยประตูรวม 1-0

รายชื่อ 11 คนแรก
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (ผู้รักษาประตู), ธีราทร บุญมาทัน, อันเดรส ตูนเนญ, โก ซุล กิ, สุเชาว์ นุชนุ่ม (กัปตันทีม), นฤบดินทร์ วีรวัฒน์โนดม, ชิติพัทธ์ แทนกลาง, กรวิทย์ นามวิเศษ, นฤพล อารมณ์สวะ, ดิโอโก หลุยส์ ซานโต และ กิลแบร์โต มาเชนา
บางกอกกล๊าส เอฟซี : นริศ ทวีกุล (ผู้รักษาประตู), วสันต์ ฮมเสน, แมทธิว สมิธ, ลาซาลัส คาอิมบี, ศุภชัย คมศิลป์, สุรเดช ธงชัย, ดาโก ทาเชฟสกี, พีระพงศ์ พิชิตโชติรัตน์, องอาจ ภมรประเสริฐ, ชาตรี ฉิมทะเล และ สุวรรณภัทร์ กิ่งแก้ว

* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *