xs
xsm
sm
md
lg

“ริงไซด์ ไฟต์คลับ” ปี 2557 (2) / ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”

มองย้อนกลับไปในแวดวง “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” ของเราในปี 2557 ที่กำลังจะผ่านพ้นไปนี้กันต่อ ว่ามีอะไรที่น่าจดจำ น่าประทับใจ หรือน่า...ลืมๆ...กันบ้าง

“ลุ้นที่สุด” ไม่แคล้วเรื่องสถิติโลกอันน่าภาคภูมิใจของ “ไอ้แสบ” แสนศักดิ์ เมืองสุรินทร์ อดีตแชมป์โลกผู้ยิ่งใหญ่ชาวไทยและของโลก ด้วยการชกมวยอาชีพ 3 ไฟต์แล้วคว้าเข็มขัดแชมป์โลกมาครองเลย เมื่อมีโคตรมวยสมัครเล่นชาวยูเครนอย่าง “ไฮ-เทค” วาซีล โลมาเชนโก ประกาศก้องว่าจะลบสถิตินี้ให้ได้ แถมได้แรงหนุนส่งขึ้นชิงแชมป์โลกในรุ่นเฟเธอร์เวทขององค์กรมวยโลกในการชกอาชีพไฟต์ที่ 2 ของเจ้าตัว ปรากฏว่าเจอความเก๋าของเจ้าของเข็มขัดในขณะนั้น ออร์แลนโด ซาลิโด ปล่อยน้ำหนักยอมตกตาชั่งแต่อาศัยความใหญ่กว่าชนิดบังกันมิดเดินบดเข้าใส่ บวกกับการวางแผนลากเกมจนยืดเยื้อ เพราะ โลมาเชนโก ขาดประสบการณ์ในการชกเกมยาว ครบยก ซาลิโด ชนะคะแนนไป ทำให้สถิติโลกของ “หมัดซ้ายสีชมพู” ยังคงอยู่และแม้ว่ายอดมวยยูเครนจะมาคว้าแชมป์โลกได้ในไฟต์ถัดมา แต่ก็แค่ทำได้เทียบเท่า ไม่สามารถทำลายสถิติได้ แถมยังด้อยกว่าด้วยการที่มีความพ่ายแพ้เข้ามาคั่น และตำแหน่งที่ได้ก็มาจากการชิงแชมป์ว่าง ไม่ใช่ชิงได้จากเจ้าของตำแหน่ง แบบนี้แฟนมวยชาวไทยยังยืดได้อีกนาน ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะมีคนทำแบบ “ไอ้แสบ” ได้อีก

“งงที่สุด” แฟนมวยน่าจะเห็นเป็นเอกฉันท์ว่าการที่ “ดำดอทคอม” บัวขาว บัญชาเมฆ ลงจากเวทีซะเฉยๆ ทันทีที่ชกกับมวยหนุ่มจากเยอรมัน เอ็นริโก เคห์ล ครบ 3 ยกในรายการ K-1 World Max รอบชิงชนะเลิศที่พัทยา ไฟต์นี้ก่อนการชกก็มีกระแสความวุ่นวายต่างๆ มากมาย จนชกครบ 3 ยกก็ยังมีดรามาเกิดขึ้นเมื่อผลออกเสมอ ตามปกติจะต้องมียก 4 ต่อ แต่ทางมุมของ “บัวขาว” ก็หายตัวไปเรียบร้อยชนิดลงเวทีก่อนจะมีการประกาศผลเสมอซะอีก สุดท้ายเจ้า “เฮอริเคน” เคห์ล เลยคว้าแชมป์ K-1 ประจำปีนี้ไป ส่วน บัวขาว แม้จะออกมาแถลงการณ์ต่างๆ ในภายหลัง ก็ดูเหมือนยิ่งแถลงแฟนมวยยิ่งงง ตัว บัวขาว เองตอนแถลงยังดูงงๆ เหมือนกัน ก็ต้องยกตำแหน่งนี้ให้ไป

สุดท้ายน่าจะเป็นเรื่อง “อลวนที่สุด” ในมวยสากลสมัครเล่นในกีฬา เอเชียน เกมส์ ที่อินชอน เกาหลีใต้ เพราะแม้ว่า “ไอบ้า” จะพยายามเปลี่ยนแปลงแก้ไขเรื่องต่างๆ หวังให้โปร่งใสขึ้น มวยสนุกขึ้น ฯลฯ แล้วก็ตาม แต่มหกรรมกีฬาคราวนี้ก็ยังมีเรื่องวุ่นๆ ไม่เว้นแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็นนักมวยหญิงไทย “น้องมุก” โสภิดา สะทุมรัมย์ ที่ชกนักมวยจีนจะแจ้งตลอด แต่ผลกรรมการให้ชนะ 1 เสมอ 2 แบบนี้ถือว่าผลเสมอ ต้องมาตัดสินกันที่คะแนนดิบ กลายเป็นเราแพ้ซะงั้น หรือนักมวยไทยหลายๆ คนที่ตกรอบแบบค้านสายตาเสียอารมณ์ แถมมดรามาในมวยหญิงอีกเมื่อนักมวยหญิงอินเดียไม่ยอมรับเหรียญทองแดง เพราะเชื่อว่าโดนตัดสินแบบไม่เป็นธรรมอีกเหมือนกัน สุดท้ายทัพมวยสากลสมัครเล่นไทยได้เหรียญทองโทนมาจาก วุฒิชัย มาสุข ที่ชนะมาด้วยคะแนนดิบเหมือนกันหลังครบยกกรรมการให้เราแพ้ 1 เสมอ 2 ซึ่งก็ต้องถือว่าทำได้ดีเพราะไฟต์รอบชิงนี้เราเจอกับเจ้าภาพซะด้วย แต่จบรายการนี้ก็มีการบ้านให้สมาคมมวยสากลสมัครเล่นไปทำกันต่อ ว่าด้วยกติกาที่เปลี่ยนไปแบบนี้ จะเตรียมทัพนักมวยของเราอย่างไรดีให้สมกับที่เป็นกีฬาความหวังของเรามาทุกยุคทุกสมัย

ปีที่ผ่านไปนี้ก็ถือว่ามีหลากหลายสีสันและปีต่อๆ ไปก็คงมีเรื่องสนุกๆ ให้พวกเราชาว “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” ได้มาติดตามกระแสเรื่องราวต่างๆ กันต่อไปครับ

* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *


กำลังโหลดความคิดเห็น