กองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ, บ.ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และ ซีพี ร่วมอัดฉีดเงินพิเศษให้ ทัพนักเตะทีมชาติไทย จำนวนรวม 15 ล้านบาท จากผลงานแชมป์เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2014 “ช้าง” หนุนสมาคมฟุตบอลต่ออีก 8 ปีๆ ละ 50 ล้านบาท
หลังจากที่ ทัพ “ช้างศึก” ภายใต้การคุมทีมของ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง โชว์ฟอร์มยอดเยี่ยม บุกไปคว้าแชมป์ เอเอฟเอฟ ซูซกิ คัพ 2014 ได้สำเร็จ ด้วยการชนะ มาเลเซีย ด้วยสกอร์รวมสองนัด 4-3
โดยจากผลงานดังกล่าว ทัพ “ช้างศึก” จะได้รับเงินอัดฉีดเบื้องต้นรวม 29 ล้านบาท โดย สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้มอบเงินอัดฉีดทั้งสิ้น 18 ล้านบาท, บริษัท โหลทอง โฮลดิ้ง จำกัด 7 ล้านบาท, บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) 2 ล้านบาท, บริษัท สยามพิวรรธณ์ จำกัด (สยามพารากอน) อีก 1 ล้านบาท และ ช่อง 7 อีก 1 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม ที่ผ่านมา แข้งฟุตบอลทีมชาติไทย พร้อมด้วยทีมงาน ได้เข้าพบ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อรับมอบเงินอัดฉีดจากกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติอีก จำนวน 5 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และบริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด (มหาชน) ได้มอบเงินสนับสนุนอีกคนละ 5 ล้านบาท ทำให้ยอดรวมจำนวนเงินที่ทัพ “ช้างศึก” จะได้ ณ ขณะนี้ทะลุ 44 ล้านบาทแล้ว
ด้าน “บังยี” วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้เปิดเผยถึงความสำเร็จในครั้งนี้ ว่า “ต้องขอขอบคุณคนไทยทุกคนที่สนับสนุนทีมชาติไทยมาโดยตลอด และการคว้าแชมป์อาเซียนได้ในรอบ 12 ปี ถือว่าเป็นผลงานของทุกคนที่ช่วยกันรักษาระเบียบวินัย และท่านนายกได้กล่าวว่าติดตามผลงานของทีมไทย และคอยให้กำลังใจทุกนัด ชื่นชมผลงานของคณะทำงานทุกคน”
“สำหรับอนาคตของผู้ฝึกสอน หรือผู้จัดการทีม ขณะนี้ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง เรายังเดินหน้าเพื่อเตรียมแข่งขันในปีหน้า แต่รายละเอียดที่ลึกกว่านี้ต้องรอให้มีการประชุมที่ชัดเจนก่อนว่าใครจะรับผิดชอบในส่วนไหน แต่ปีหน้าทีมฟุตบอลทีมชาติไทย จะต้องมีผลงานดีๆมาให้แฟนๆได้ชื่นชมอีกแน่นอน” ประมุขบอลไทยกล่าว
นอกจากนี้ นายวรวีร์ ยังเผยถึงการงบประมาณในการพัฒนาทีมชาติไทยต่อในปีหน้า ว่า “ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเราได้รับการช่วยเหลือจาก บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) มาโดยตลอด และในปีหน้าก็อีกเช่นเคย “ช้าง” จะให้การสนับสนุนการพัฒนาทีมทุกชุด ตั้งแต่ระดับรากหญ้า จนถึงทีมชาติเยาวชนทุกชุด ไม่ว่า 12 ปี, 14 ปี, เยาวชน 17 ปี และ 19 ปี ไปจนถึงทีมชาติชุดใหญ่ ด้วยงบประมาณปีละ 50 ล้านบาท ซึ่งสัญญาอาจจะยาวถึง 8 ปี ต้องรอการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง”
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* *
*<#
