คอลัมน์ “สกอร์บอร์ด” โดย “แมวดำ”
นับตั้งแต่ฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีกได้รับความนิยม ลีกระดับรองอย่าง ดิวิชัน 1 ก็ได้รับความสนใจมากขึ้น แต่ที่น่าสนใจกว่าคือทีมระดับดิวิชัน 2 ที่กระจายแข่งขัน 5 ภูมิภาค กว่า 80 ทีมลงชิงชัย ถึงตอนนี้ลีกปกติจะจบไปแล้ว แต่ยังเหลือให้ชิงชัยในรอบ แชมเปียนส์ ลีก ซึ่งมี 12 ทีมร่วมแข่งขัน โดยการแข่งขันแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 6 ทีม เพื่อคัดเอา 4 ทีมเลื่อนชั้นสู่ ดิวิชัน 1
สถานการณ์ล่าสุดเป็นกลุ่มเอ แข่งไป 7 นัด มี พิจิตร เอฟซี นำเป็นจ่าฝูง 12 คะแนน เท่ากับ อันดับ 2 ประจวบ เอฟซี และ อันดับ 3 วานา นาวา หัวหิน ซิตี้ ส่วนทีมอย่าง อุดรธานี เอฟซี และ บีซีซี-เทโร เอฟซี อยู่ในอันดับ 4 และ 5 มีคะแนน 10 แต้มเท่ากัน ขณะที่กลุ่ม บี แข่งไป 7 นัดเท่ากัน ทีมนำเป็น ไทยฮอนด้า มี 15 คะแนน ตามติดด้วย สุโขทัย เอฟซี มี 14 แต้ม และที่ 3 เป็น อุบล ยูเอ็มที เอฟซี ที่มี 11 แต้มเท่ากับ สตูล ยูไนเต็ด ตามด้วย เพชบุรี เอฟซี อันดับ 5 มี 9 แต้ม สุดท้ายที่ไม่ต้องลุ้นคงเป็น มาบตาพุด น.ย. ระยอง ที่แพ้รวด 7 นัด ไร้แต้ม แม้จะเหลืออีก 3 นัดให้ได้ลุ้นกัน แต่ยากที่จะบอกได้ว่าทีมที่จะผ่านไปสู่ ดิวิชั่น 1 เพียง 4 ทีม จากอันดับ 1 และ 2 ของแต่ละกลุ่มนั้นจะเป็นใคร เนื่องจากฟุตบอลระดับนี้ยากที่จะคาดเดาได้ แต่คาดว่าคงได้ลุ้นกันถึงนัดสุดท้ายของทั้ง 2 กลุ่ม คือ วันที่ 13 - 14 ธันวาคมนี้ คงได้โฉมหน้าน้องใหม่ลีกรองจากลีกสูงสุด
อีกเรื่องที่ยากคาดเดา คือ เงินสนับสนุนทีม ดิวิชัน 2 จากรัฐบาล ที่มอบให้อย่างต่อเนื่อง จำนวนทีมละ 2 ล้านบาท แต่ก่อนการเลือกตั้งนายกสมาคมลูกหนังไทยแลนด์แดนออฟสไมล์ ก็ไปขายฝันว่าจะขอเพิ่มให้เป็นทีมละ 3 ล้านบาท ตอนนี้เห็นได้ชัดว่ารัฐบาลถังแตก ไม่มีเงินมาจับจ่ายใช้สอย หน่วยงานอย่าง การกีฬาแห่งประเทศไทย ก็เลยกระเป๋าแบน ขณะที่ กรมพลศึกษา ที่วางแผนขยับขยายไปสร้างฐานกีฬาใหญ่ที่ บางปิ้ง สมุทรปราการ ก็ต้องพับแผนลงไปเก็บในลิ้นชักกับเขาด้วย เนื่องจากรัฐบาลก็ไม่ค่อยอยากสนับสนุนในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพกีฬาใหญ่ในช่วงนี้ แผนทุกประการจึงกลายเป็นหมัน
ส่วนกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ทราบว่ามีแผนนำเรื่องเก่ามาปัดฝุ่นใหม่ นั่นคือ พ.ร.บ.การกีฬาแห่งประเทศไทย ฉบับใหม่ เพื่อผันเงินจากภาษีบาป (เหล้า - บุหรี่) จำนวนที่คาดไว้ว่าน่าจะมี 3 - 4 พันล้านบาท มาเพื่อสนับสนุนงานด้านกีฬาของประเทศไทยนั้น ยังต้องรอว่าจะออกลูกไหน แบบใด เพราะการผ่านกฎหมายสักฉบับออกมาไม่ใช่เรื่องง่ายต้องใช้เวลา ที่สำคัญ คนทำงานฟุตบอลระดับรากหญ้าจะมีเวลารอคอยพอจะทำทีมต่อในฤดูกาลหน้าหรือไม่ น่าติดตามเป็นอย่างยิ่ง หากว่ามองโลกในแง่ร้ายเกิดไม่มีเงินตกถึงมือ ทีมไหนทุนหนาก็รอด (สักพัก) ทีมไหนทุนน้อยคงต้องลอยแพนักเตะ หรือจะเป็นอวสานลีกรากหญ้าอีกไม่นานคงได้รู้กัน?
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
นับตั้งแต่ฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีกได้รับความนิยม ลีกระดับรองอย่าง ดิวิชัน 1 ก็ได้รับความสนใจมากขึ้น แต่ที่น่าสนใจกว่าคือทีมระดับดิวิชัน 2 ที่กระจายแข่งขัน 5 ภูมิภาค กว่า 80 ทีมลงชิงชัย ถึงตอนนี้ลีกปกติจะจบไปแล้ว แต่ยังเหลือให้ชิงชัยในรอบ แชมเปียนส์ ลีก ซึ่งมี 12 ทีมร่วมแข่งขัน โดยการแข่งขันแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 6 ทีม เพื่อคัดเอา 4 ทีมเลื่อนชั้นสู่ ดิวิชัน 1
สถานการณ์ล่าสุดเป็นกลุ่มเอ แข่งไป 7 นัด มี พิจิตร เอฟซี นำเป็นจ่าฝูง 12 คะแนน เท่ากับ อันดับ 2 ประจวบ เอฟซี และ อันดับ 3 วานา นาวา หัวหิน ซิตี้ ส่วนทีมอย่าง อุดรธานี เอฟซี และ บีซีซี-เทโร เอฟซี อยู่ในอันดับ 4 และ 5 มีคะแนน 10 แต้มเท่ากัน ขณะที่กลุ่ม บี แข่งไป 7 นัดเท่ากัน ทีมนำเป็น ไทยฮอนด้า มี 15 คะแนน ตามติดด้วย สุโขทัย เอฟซี มี 14 แต้ม และที่ 3 เป็น อุบล ยูเอ็มที เอฟซี ที่มี 11 แต้มเท่ากับ สตูล ยูไนเต็ด ตามด้วย เพชบุรี เอฟซี อันดับ 5 มี 9 แต้ม สุดท้ายที่ไม่ต้องลุ้นคงเป็น มาบตาพุด น.ย. ระยอง ที่แพ้รวด 7 นัด ไร้แต้ม แม้จะเหลืออีก 3 นัดให้ได้ลุ้นกัน แต่ยากที่จะบอกได้ว่าทีมที่จะผ่านไปสู่ ดิวิชั่น 1 เพียง 4 ทีม จากอันดับ 1 และ 2 ของแต่ละกลุ่มนั้นจะเป็นใคร เนื่องจากฟุตบอลระดับนี้ยากที่จะคาดเดาได้ แต่คาดว่าคงได้ลุ้นกันถึงนัดสุดท้ายของทั้ง 2 กลุ่ม คือ วันที่ 13 - 14 ธันวาคมนี้ คงได้โฉมหน้าน้องใหม่ลีกรองจากลีกสูงสุด
อีกเรื่องที่ยากคาดเดา คือ เงินสนับสนุนทีม ดิวิชัน 2 จากรัฐบาล ที่มอบให้อย่างต่อเนื่อง จำนวนทีมละ 2 ล้านบาท แต่ก่อนการเลือกตั้งนายกสมาคมลูกหนังไทยแลนด์แดนออฟสไมล์ ก็ไปขายฝันว่าจะขอเพิ่มให้เป็นทีมละ 3 ล้านบาท ตอนนี้เห็นได้ชัดว่ารัฐบาลถังแตก ไม่มีเงินมาจับจ่ายใช้สอย หน่วยงานอย่าง การกีฬาแห่งประเทศไทย ก็เลยกระเป๋าแบน ขณะที่ กรมพลศึกษา ที่วางแผนขยับขยายไปสร้างฐานกีฬาใหญ่ที่ บางปิ้ง สมุทรปราการ ก็ต้องพับแผนลงไปเก็บในลิ้นชักกับเขาด้วย เนื่องจากรัฐบาลก็ไม่ค่อยอยากสนับสนุนในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพกีฬาใหญ่ในช่วงนี้ แผนทุกประการจึงกลายเป็นหมัน
ส่วนกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ทราบว่ามีแผนนำเรื่องเก่ามาปัดฝุ่นใหม่ นั่นคือ พ.ร.บ.การกีฬาแห่งประเทศไทย ฉบับใหม่ เพื่อผันเงินจากภาษีบาป (เหล้า - บุหรี่) จำนวนที่คาดไว้ว่าน่าจะมี 3 - 4 พันล้านบาท มาเพื่อสนับสนุนงานด้านกีฬาของประเทศไทยนั้น ยังต้องรอว่าจะออกลูกไหน แบบใด เพราะการผ่านกฎหมายสักฉบับออกมาไม่ใช่เรื่องง่ายต้องใช้เวลา ที่สำคัญ คนทำงานฟุตบอลระดับรากหญ้าจะมีเวลารอคอยพอจะทำทีมต่อในฤดูกาลหน้าหรือไม่ น่าติดตามเป็นอย่างยิ่ง หากว่ามองโลกในแง่ร้ายเกิดไม่มีเงินตกถึงมือ ทีมไหนทุนหนาก็รอด (สักพัก) ทีมไหนทุนน้อยคงต้องลอยแพนักเตะ หรือจะเป็นอวสานลีกรากหญ้าอีกไม่นานคงได้รู้กัน?
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
