คอลัมน์ “TIMEOUT” โดย “ชมณัฐ”
“โค้ชวัง” ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล เป็นกุนซือรายล่าสุดที่ต้องลงจากตำแหน่ง หลังชัยนาท ฮอร์นบิล ผลงานย่ำแย่จมปลักท้ายตาราง ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่า นอกจาก “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง และผองเพื่อนที่ถูกดึงมาช่วยงานในนามทีมชาติไทยแล้ว เหล่าบรรดาขุนพล “ช้างศึก” จากชุด "ดรีมทีม" ที่ผันตัวมาเป็นโค้ช ยังไม่มีรายใดที่ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามเลย ดังเช่นต่อไปนี้
สุรชัย จตุรภัทรพงศ์ : อดีตมิดฟิลด์จอมขยัน ยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรจากการเป็นโค้ชให้กับ บางกอกกล๊าส เอฟซี และ ชัยนาท ฮอร์นบิล รวมถึง ทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ที่ได้โอกาส ก่อนจะรับหน้าที่เป็น ผู้อำนวยการสโมสร ให้กับ "บีจี" ในตอนนี้
กฤษดา เพี้ยนดิษฐ์ : เข้ารับตำแหน่งกุนซือ โอสถสถา เอ็ม150 เมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ปัจจุบันพา "พลังเอ็ม" รั้งอันดับ 12 ของตาราง ซึ่งฤดูกาลหน้ามีโอกาสสูงที่จะต้องหลีกทางให้กับ "โค้ชชาย" สมชาย ทรัพย์เพิ่ม เทรนเนอร์มากประสบการณ์ ที่ทีมดึงมาเป็นที่ปรึกษาในขณะนี้
ดุสิต เฉลิมแสน : พา สิงห์ท่าเรือ คัมแบ๊กสู่ลีกสูงสุดเมื่อปี 2013 ก่อนจะโบกมือลาทีมในฤดูกาลแรกที่ขึ้นมาพร้อมบอร์ดบริหาร เนื่องจากปัญหาภายใน ล่าสุด "โค้ชโอ่ง" เป็นกุนซือให้กับ "ต่อพิฆาต" ประจวบ เอฟซี ทีมอันดับ 7 แห่งศึกยามาฮ่า ลีก วัน มีคะแนนตามหลังอันดับ 3 ในโควตาเลื่อนชั้น อยู่ 7 แต้ม
สุรชัย จิระศิริโชติ : ถูกดึงเข้ามาช่วยกู้สถานการณ์ให้กับ พิษณุโลก เอฟซี ใน 7 นัดสุดท้ายเมื่อปี 2014 แต่ไม่สำเร็จต้องตกชั้นลงไปเล่นใน เอไอเอส ลีก ภูมิภาค (ดิวิชั่น 2) ล่าสุดเป็นผู้ช่วยผู้ฝึกสอนให้กับ การท่าเรือ เอฟซี ทีมอันดับ 17 ของลีกสูงสุด
นิรุจน์ สุระเสียง : เพิ่งแขวนสตั๊ดเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ก่อนประเดิมเป็นผู้ช่วยโค้ชให้กับ อาร์มี่ ยูไนเต็ด และได้ขึ้นเป็นกุนซือใหญ่คู่กับ อิสระ ศรีทะโร ก่อนที่รายหลังจะโบกมือลา แล้วทีมตั้ง “เสธ.เหนียว” พ.ท. วัชรกร อันทะคำภู ขึ้นมารับตำแหน่งแทน และส่งให้ "เจ้าตั้ม" กลับไปเป็นสตาฟฟ์ตามเดิม
วรวุฒิ ศรีมะฆะ : พเนจรมาหลายทีมไล่ตั้งแต่ ปทุมธานี เอฟซี, สงขลา เอฟซี, ชลบุรี เอฟซี และล่าสุดกับ สุพรรณบุรี เอฟซี ที่คัมแบ๊กรอบสอง ซึ่งอดีตศูนย์หน้าจอมถล่มประตู ยังไม่สามารถเสกแชมป์ในฐานะโค้ชเหมือนสมัยเมื่อครั้งวาดลวดลายในสนามได้เลย
ชูเกียรติธน ยศภัทรหนูสลุง : ชูเกียรติ หนูสลูง อดีตแนวนับตัวแกร่ง ปัจจุบันนั่งแท่นกุนซือให้กับ มาแชร์ ชัยภูมิ ทีมใน ลีกภูมิภาค (ดิวิชั่น 2) โซนอีสาน ซึ่งฤดูกาลที่ผ่านมาจบอันดับ 11 ห่างไกลการเลื่อนชั้น ระหว่างนั้นเจ้าตัวตกเป็นข่าวว่าจะถูกดันขึ้นมาเป็นที่ปรึกษาให้กับทีมชาติไทย แต่ก็จางหายไป
ธชตวัน ศรีปาน :ผันตัวเป็นโค้ชให้กับ บีอีซี เทโรศาสน และ สระบุรี เอฟซี ล่าสุดถูกดึงตัวไปกู้วิกฤตให้กับ เพื่อนตำรวจ ที่ต้องตกชั้นลงมาเล่น ยามาฮ่า ลีก วัน(ดิวิชั่น 1) แทน "โค้ชแต๊ก" อรรถพล ปุษปาคม ผู้ล่วงลับ แต่ "โค้ชแบน" สามารถโชว์กึ๋นพา "เดอะ โปลิศ" การันตีเลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดซีซันหน้าแน่นอนแล้ว เหลือเพียงปิดฉากด้วยตำแหน่งแชมป์เท่านั้น
“โค้ชวัง” ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล เป็นกุนซือรายล่าสุดที่ต้องลงจากตำแหน่ง หลังชัยนาท ฮอร์นบิล ผลงานย่ำแย่จมปลักท้ายตาราง ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่า นอกจาก “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง และผองเพื่อนที่ถูกดึงมาช่วยงานในนามทีมชาติไทยแล้ว เหล่าบรรดาขุนพล “ช้างศึก” จากชุด "ดรีมทีม" ที่ผันตัวมาเป็นโค้ช ยังไม่มีรายใดที่ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามเลย ดังเช่นต่อไปนี้
สุรชัย จตุรภัทรพงศ์ : อดีตมิดฟิลด์จอมขยัน ยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรจากการเป็นโค้ชให้กับ บางกอกกล๊าส เอฟซี และ ชัยนาท ฮอร์นบิล รวมถึง ทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ที่ได้โอกาส ก่อนจะรับหน้าที่เป็น ผู้อำนวยการสโมสร ให้กับ "บีจี" ในตอนนี้
กฤษดา เพี้ยนดิษฐ์ : เข้ารับตำแหน่งกุนซือ โอสถสถา เอ็ม150 เมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ปัจจุบันพา "พลังเอ็ม" รั้งอันดับ 12 ของตาราง ซึ่งฤดูกาลหน้ามีโอกาสสูงที่จะต้องหลีกทางให้กับ "โค้ชชาย" สมชาย ทรัพย์เพิ่ม เทรนเนอร์มากประสบการณ์ ที่ทีมดึงมาเป็นที่ปรึกษาในขณะนี้
ดุสิต เฉลิมแสน : พา สิงห์ท่าเรือ คัมแบ๊กสู่ลีกสูงสุดเมื่อปี 2013 ก่อนจะโบกมือลาทีมในฤดูกาลแรกที่ขึ้นมาพร้อมบอร์ดบริหาร เนื่องจากปัญหาภายใน ล่าสุด "โค้ชโอ่ง" เป็นกุนซือให้กับ "ต่อพิฆาต" ประจวบ เอฟซี ทีมอันดับ 7 แห่งศึกยามาฮ่า ลีก วัน มีคะแนนตามหลังอันดับ 3 ในโควตาเลื่อนชั้น อยู่ 7 แต้ม
สุรชัย จิระศิริโชติ : ถูกดึงเข้ามาช่วยกู้สถานการณ์ให้กับ พิษณุโลก เอฟซี ใน 7 นัดสุดท้ายเมื่อปี 2014 แต่ไม่สำเร็จต้องตกชั้นลงไปเล่นใน เอไอเอส ลีก ภูมิภาค (ดิวิชั่น 2) ล่าสุดเป็นผู้ช่วยผู้ฝึกสอนให้กับ การท่าเรือ เอฟซี ทีมอันดับ 17 ของลีกสูงสุด
นิรุจน์ สุระเสียง : เพิ่งแขวนสตั๊ดเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ก่อนประเดิมเป็นผู้ช่วยโค้ชให้กับ อาร์มี่ ยูไนเต็ด และได้ขึ้นเป็นกุนซือใหญ่คู่กับ อิสระ ศรีทะโร ก่อนที่รายหลังจะโบกมือลา แล้วทีมตั้ง “เสธ.เหนียว” พ.ท. วัชรกร อันทะคำภู ขึ้นมารับตำแหน่งแทน และส่งให้ "เจ้าตั้ม" กลับไปเป็นสตาฟฟ์ตามเดิม
วรวุฒิ ศรีมะฆะ : พเนจรมาหลายทีมไล่ตั้งแต่ ปทุมธานี เอฟซี, สงขลา เอฟซี, ชลบุรี เอฟซี และล่าสุดกับ สุพรรณบุรี เอฟซี ที่คัมแบ๊กรอบสอง ซึ่งอดีตศูนย์หน้าจอมถล่มประตู ยังไม่สามารถเสกแชมป์ในฐานะโค้ชเหมือนสมัยเมื่อครั้งวาดลวดลายในสนามได้เลย
ชูเกียรติธน ยศภัทรหนูสลุง : ชูเกียรติ หนูสลูง อดีตแนวนับตัวแกร่ง ปัจจุบันนั่งแท่นกุนซือให้กับ มาแชร์ ชัยภูมิ ทีมใน ลีกภูมิภาค (ดิวิชั่น 2) โซนอีสาน ซึ่งฤดูกาลที่ผ่านมาจบอันดับ 11 ห่างไกลการเลื่อนชั้น ระหว่างนั้นเจ้าตัวตกเป็นข่าวว่าจะถูกดันขึ้นมาเป็นที่ปรึกษาให้กับทีมชาติไทย แต่ก็จางหายไป
ธชตวัน ศรีปาน :ผันตัวเป็นโค้ชให้กับ บีอีซี เทโรศาสน และ สระบุรี เอฟซี ล่าสุดถูกดึงตัวไปกู้วิกฤตให้กับ เพื่อนตำรวจ ที่ต้องตกชั้นลงมาเล่น ยามาฮ่า ลีก วัน(ดิวิชั่น 1) แทน "โค้ชแต๊ก" อรรถพล ปุษปาคม ผู้ล่วงลับ แต่ "โค้ชแบน" สามารถโชว์กึ๋นพา "เดอะ โปลิศ" การันตีเลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดซีซันหน้าแน่นอนแล้ว เหลือเพียงปิดฉากด้วยตำแหน่งแชมป์เท่านั้น