ASTV ผู้จัดการรายวัน – ถือเป็นเรื่องปกติที่อาการบาดเจ็บสามารถเกิดขึ้นได้จากการเล่นกีฬาทุกประเภท โดยเฉพาะจำพวกที่ต้องปะทะอย่าง “ฟุตบอล” ซึ่งมีให้เราเห็นทั่วไปตั้งแต่ระดับสมัครเล่นไปจนถึงอาชีพอย่างไทยพรีเมียร์ลีก ที่ต้องใช้ความแข็งแกร่งของร่างกายเข้าห้ำหั่นกัน
ดังนั้น แต่ละสโมสรจึงต้องมีนักกายภาพบำบัด เพื่อดูแลสภาพร่างกายของนักกีฬาให้พร้อมลงสนามหรือเยียวยาอาการบาดเจ็บให้หายเร็วที่สุด ซึ่งอาชีพดังกล่าวส่วนมากมักเป็นผู้ชาย ทว่าไม่ใช่กับทีมดังอย่าง “มังกรไฟ” บีอีซี เทโรศาสน ที่มี “หมอนีล” ณัฐษกรณ์ ทรงพรวาณิชย์ นักกายภาพสาวหน้าใสคอยประคบประหงมนักกีฬาในสังกัด โดยหากจะบอกว่าเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จแชมป์ โตโยต้า ลีก คัพ 2014 ก็คงไม่ผิดนัก
“หมอนีล” กล่าวถึงการร่วมงานกับต้นสังกัดว่า “จุดเริ่มต้นเกิดจากคุณแม่อยากให้เราทำงานที่ช่วยเหลือคนอื่น ประกอบกับท่านเคยทำงานด้านกายภาพมาก่อน เราจึงตัดสินใจเรียนด้านนี้ พอเรียนจบก็ไปสอบใบประกอบโรคศิลปะ เพื่อให้ทำงานด้านนี้ได้อย่างถูกกฎหมาย ซึ่งก่อนจะมาทำงานในวงการกีฬาก็เคยทำงานคลินิกมาก่อน จนปี 2551 ได้ร่วมงานกับทีมในไทยพรีเมียร์ลีกทั้ง สโมสรฟุตบอลทีทีเอ็ม พิจิตร, สมุทรสงคราม เอฟซี และ บีอีซี เทโร ศาสน ในลักษณะลูกจ้างชั่วคราว ช่วยงานทุกสโมสร”
ด้วยการที่ต้องเดินทางออกต่างจังหวัดไปกับทีมฟุตบอลบ่อยครั้ง จนทำให้ “หมอนีล” เคยอำลาวงการนี้ไปแล้ว แต่ก็ได้ “เสี่ยแมน” ธัญญะ วงศ์นาค ผู้จัดการทีม “มังกรไฟ” ติดต่อให้กลับมาช่วยงานประจำที่สโมสรเพียงทีมเดียว โดยมีการเซ็นต์สัญญาว่าจ้างเหมือนนักฟุตบอลบอลอาชีพ มีการตกลงเรื่องเงินเดือนที่จะได้รับ จึงทำให้คุณหมอคนสวย ตัดสินใจกลับมาทำหน้าที่นี้อีกครั้ง และอยู่กับทีมเป็นปีที่ 3 ปีแล้ว “สาเหตุที่ตัดสินใจอยู่กับ บีอีซี เทโรฯ ส่วนหนึ่งมาจากตัวนักกีฬา ทุกคนรู้ว่าเราเป็นใคร มีหน้าที่อะไร จึงไม่มาวุ่นวายหรือเกาะแกะกับเรา และทีมก็ให้ความสำคัญกับงานของเรา ช่วง 1 - 2 ปีแรก หมอจะทำทุกอย่างอยู่คนเดียว แต่ปีที่ผ่านมาสโมสรหาผู้ช่วยมาให้ ตอนนี้มี 3 คนแล้ว แบ่งงานกันเป็นนักกายภาพ 2 คน หมอนวดอีก 1 คน ช่วยให้เราทำงานสะดวกมากขึ้น”
ซึ่งนอกจาก “หมอนีล” จะเป็นนักกายภาพคนสำคัญของทีม “มังกรไฟ” แล้ว เจ้าตัวยังพ่วงตำแหน่งนักจิตวิทยาไปในตัวด้วย “จากที่ตอนเราเรียนด้านนี้มาก็จะได้ศึกษาทุกศาสตร์ทางการแพทย์ ทั้งพยาบาล, เภสัช, กายภาพ แล้วก็จิตวิทยา ซึ่งทุกครั้งที่เราทำกายภาพให้นักฟุตบอล จะใช้เวลาเป็นชั่วโมง ก็จะอาศัยช่วงนั้นพูดคุยถึงปัญหาของแต่ละคน รับฟังทั้งปัญหาครอบครัว การเงิน พ่อ-แม่ หลักๆ ก็จะใช้การพูดคุยตัวต่อตัว ค่อยๆ ถามปัญหา ช่วยแก้ไขเบื้องต้น เพื่อเรียกสมาธิให้เขาอยู่กับการแข่งขัน”
“ช่วงแรกๆ ก็เก็บปัญหาของทุกคนมาคิด จนเต็มหัวตัวเองไปหมด แต่ด้วยความที่ต้องการให้ปัญหาทุกอย่างจบที่เรา ให้คนที่มาระบายเขาสบายใจว่าไม่ทำให้เราเครียด เราก็จะหาเรื่องอื่นมาผ่อนคลายตัวเอง คิดเรื่องอื่นที่ไร้สาระ มองปัญหาหรืออุปสรรค์ต่างๆ เป็นเรื่องตลกเข้าไว้ จะได้ไม่เครียดมาก จนถึงทุกวันนี้แยกแยะทุกอย่างได้แล้ว คงเพราะประสบการณ์ของเราที่เพิ่มมากขึ้น” หมอนิล เผย
ในส่วนของอาการบาดเจ็บรุนแรง บางกรณีนักกีฬาอาจต้องพักนานถึง 6 เดือน แต่เพราะทำตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด อาจลดทอนเวลารักษาตัวเหลือเพียง 3 เดือนครึ่งก็ได้เช่นกัน “หมอจะมาช่วยงานของ โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนด้วย เพราะเป็นพันธมิตรกับบีอีซี เทโร และเคยมีครั้งนึง “น้องพี่” จารุวัฒน์ โพธิไสย กองหลังของทีม เจ็บจากจังหวะปะทะจนเดินไม่ได้ จึงส่งมาให้เราดูอาการ ปรากฏว่า เอ็นหน้าไขว้ขาด ต้องส่งไปผ่าตัด พักนานประมาณ 6 เดือน หลังผ่าตัดกล้ามเนื้อตรงช่วงขาจะหายไป เพราะไม่ได้ออกกำลังกาย ทำให้เข่าบวม เราก็เอาตัวกลับมาลดบวม ให้เล่นเวท ซึ่งน้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ไม่วิ่ง ไม่กระโดด ทำให้ใช้เวลาแค่ 3 เดือนครึ่งก็สามารถกลับลงสนาม และลงแข่งขันฟุตบอลจตุรมิตรครั้งที่ผ่านมาได้”
สำหรับการทำงานของ “หมอนีล” จะต้องประจำการทั้งตอนฝึกซ้อมหรือการลงแข่งขัน ซึ่งเวลางานนั้นเริ่มตั้งแต่ 9 - 10 โมงเช้า ไปจนถึงเที่ยงคืนเลยทีเดียว ถึงจะทำงานทั้งวันทั้งคืน แต่ก็ยังมีบางหน้าที่ที่นักกายภาพไม่สามารถดูแลได้ ต้องยกให้ทางด้านฟิตเนสโค้ชเป็นผู้จัดการ “เรามีหน้าที่ดูแลฟื้นฟูเบื้องต้น หากมีการบาดเจ็บ ประเมิณว่าต้องพักกี่วัน เรียกความฟิตให้ร่างกายพร้อมที่จะฝึกต่อ แล้วจึงส่งต่อให้ฟิตเนสโค้ช ทำหน้าที่เรียกความฟิตต่อ เพื่อให้ลงไปแข่งขันได้ การทำงานจะต้องคาบเกี่ยวปรึกษากันตลอด”
แม้จะมีความสุขกับการทำงานในฐานะนักกายภาพของนักฟุตบอลทีม “มังกรไฟ” ทว่า “หมอนีล” ยอมรับว่าอนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน หากถึงจุดอิ่มตัวก็อาจหาช่องทางเปิดคลีนิคเพื่อเดินตามเส้นทางสายวิชาชีพของตน แต่คงไม่ใช่อนาคตอันใกล้แน่นอน
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
