“ปีศาจแเดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทียักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ต้องเจอเรื่องเศร้าเมื่อมีการประกาศผลกำไรล่าสุด ตกต่ำไปจากปีที่แล้วกว่า 500 ล้านบาท เหตุผลหลักเพราะไม่สามารถผ่านเข้ารอบไปแข่งขันในศึกฟุตบอล ยูฟา แชมเปียนส์ลีก ได้
ควันหลงผลงานของ เดวิด มอยส์ อดีตผู้จัดการทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ไม่สามารถทำให้ “ปีศาจแดง” ผ่านเข้าไปแข่งขันในศึกฟุตบอล ยูฟา แชมเปียนส์ลีก ได้ ในฤดูกาลปัจจุบัน จนส่งผลกระทบถึงค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดที่ต้องได้รับหายไป 13 เปอร์เซนต์ รวมไปถึงเงินค่าตั๋วที่แข่งขันใน โอลด์ แทรฟฟอร์ด หายไปอีก 21.8 เปอร์เซ็นต์ และเงินที่ต้องได้รับจากค่าต่างๆ อีกประมาณ 5.2 เปอร์เซ็นต์
ล่าสุด ทีมได้แสดงผลกำไรไตรมาสที่ 3 หรือช่วงระหว่างเดือน กรกฎาคม - กันยายน 2014 กำไรของทีมหายไป 9.8 ล้านปอนด์ (ประมาณ 499 ล้านบาท) ส่วนกำไรที่จะต้องได้รับจากการถ่ายทอดสด รวมไปถึงค่าตั๋วการแข่งขันต่างๆ จากเวลาเดียวกันเมื่อปีที่แล้วรับทั้งสิ้น 98.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 4,998 ล้านบาท) ปีนี้เหลือเพียง 88.7 ล้านปอนด์ (ประมาณ 4,523 ล้านบาท) หรือหายไปจากปีที่แล้วกว่า 9.9 เปอร์เซนต์ เมื่อเทียบเป็นเงินก็ประมาณ 9.8 ล้านปอนด์ (ประมาณ 500 ล้านบาท)
โดยตอนนี้ บัญชีหนี้สินของทีมดังแห่งเมืองแมนเชสเตอร์ เพิ่มขึ้นจาก 361 ล้านปอนด์ (ประมาณ 18,411 ล้านบาท) เป็น 362.2 ล้านปอนด์ (18,472 ล้านบาท) แม้ว่าสโมสรจะเพิ่งเซ็นสัญญากับ อาดิดาส แบรนด์กีฬาชื่อดังระดับโลก ที่จะเข้ามาสนุบสนุนทีมด้วยมูลค่ามหาศาลกว่า 750 ล้านปอนด์ ก็ได้ และยังมีอีก 5 บริษัทระดับโลกเข้ามาเป็นสปอนเซอร์เพิ่มขึ้นด้วย
ทำให้ เอ็ด วูดเวิร์ด ประธานบริหารของทีม ออกมาชี้แจงว่า สิ่งที่ทำให้บัญชีงบประมาณของทีมเป็นแบบนี้ เนื่องจากการที่ไม่สามาารถผ่านเข้ารอบไปเล่นในศึกฟุตบอล ยูฟา แชมเปียนส์ลีกได้ อย่างไรก็ตามก็ไม่ได้ยีหระนักเนื่องจากตอนนี้มีสปอนเซอร์ที่ให้เงินมากสุดในประวัติศาสตร์กีฬา หนุนอยู่
“เรายอมรับว่า ปีงบประมาณ 2014 - 2015 มันไม่ค่อยดีนัก มีผลมาจาการที่ไม่สามารถเข้าร่วมการแข่งขัน ยูฟา แชมเปียนส์ลีก ได้ แต่เรา เซ็นสัญญากับบริษัทผลิตชุดการแข่งขันที่ให้เงินมากที่สุดในประวัติศาสตร์ และตอนนี้เราต้องโฟกัสไปที่การเพิ่มมูลค่าให้ สปอนเซอร์ชิบ, ดิจิตอล มีเดีย และ ลูกค้ารายย่อย” เอ็ด กล่าว
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *