ASTVผู้จัดการรายวัน – ช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมาถือว่าวงการมวยบ้านเราสั่นสะเทือนจากการที่มีกำปั้นสร้างเรื่องหายจากเวทีถึง 2 รายคือ บัวขาว บัญชาเมฆ กับ สมรักษ์ คำสิงห์ ซึ่งแต่ละคนถือว่าชื่อชั้นไม่ธรรมดา ยังไม่นับกรณีก่อนหน้านี้ที่มีการวางยานักมวยไทย รวมถึงจ้างล้มมวย ถือว่ามรดกไทยมรดกโลกที่ว่าตอนนี้กำลังเละเทะหาทิศทางไปไม่เจอ เนื่องจากทัวร์นาเมนต์ใหม่ๆ ที่ผุดขึ้นมาไม่ได้รับการรับรองอย่างถูกต้องตามกฎหมาย มีแต่ฝ่ายจัดกับนักมวยเท่านั้นที่เซ็นสัญญากัน อีกทั้งสปิริตที่ได้ชื่อว่าเป็นกีฬาลูกผู้ชายก็หดหาย ซึ่งคนที่ได้รับผลกระทบก็คือคนดู ขณะที่ไม่มีหน่วยงานใดที่สามารถเข้ามาจัดการได้เลย
“ดำ ดอท คอม” หรือ บัวขาว ชกแค่ 3 ยกคือศึกมวยไทย เค-วัน เวิลด์ แม็กซ์ ไฟนอล โดยหายจ้อยหลังจากนั้นทั้งที่ยังไม่รู้ผลแพ้ชนะ ล่าสุดสดๆ ร้อนๆ "โม้อมตะ" สมรักษ์ คำสิงห์ ยอดกำปั้นวัย 41 ปี ไม่ยอมขึ้นชกบนเวที มวยไทยมาราธอน วีโกแชมป์ และคาราวานซีพีเอฟ มีการแฉว่าตัว "เจ้าบาส" ดีกรีเหรียญทอง โอลิมปิก ปี 1996 รับเงินมัดจำก่อนขึ้นชกไปแล้วจำนวน 1 แสนบาท อ้างคู่ต่อสู้ตัวใหญ่กว่า ทำให้ตนเองกลัวบาดเจ็บจนอาจจะมีผลกระทบต่อการในวงการมายาได้
เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหลายทั้งปวง เขาทราย แกแล็คซี่ อดีตแชมเปียนโลกชาวไทย ของสมาคมมวยโลก (WBA) เท้าความให้ฟังว่าตอนนี้ วงการกำปั้นไทย ตกต่ำลงไปกว่าสมัยก่อนมาก "ตอนนี้ต้องเรียกว่าสถานการณ์ของ วงการมวยบ้านเราตกต่ำลงไปมาก ทีเดียว ยุคก่อน ไทย มีนักมวยที่เป็นแม่เหล็กดึงดูดมากมาย ที่จะทำให้คนทั่วไปเข้ามาดูชม แต่ตอนนี้ยังไม่มีนักมวยคนใดขึ้นมา หรือมีแววว่าจะคว้าแชมป์โลก"
"อีกอย่างตอนนี้ต้องยอมรับว่าค่าใช้จ่ายในการจัดมวยมันสูงมาก ในแต่ละครั้งผู้จัดหมดกันไปเยอะ เมื่อเกิดเรื่องแบบ บัวขาว หรือ สมรักษ์ ขึ้นมา ตัวนักมวยเองต้องมาชี้แจง แต่ในกรณ บัวขาว ตนไม่ทราบว่าเกิดเหตุใดเขาถึงไม่ขึ้น แต่ สมรักษ์ มันชัดเจนแล้วว่า เขาไม่ไหวจริงๆ ตัวเองก็ออกมายอมรับ ซึ่งตนเข้าใจ สมรักษ์ แต่ บัวขาว ก็คงเป็นไปตามที่เขาสงสัยกันนั่นคือ มีเรื่องเงินๆ ทองๆ นอกกฎหมายมาเกี่ยวข้อง" เขาทราย เผย
ทางด้าน ขาวผ่อง สิทธิชูชัย หรือชื่อจริงว่า "ทวี อัมพรมหา" ฮีโรเหรียญเงิน โอลิมปิก คนแรกของประเทศอัดยับ วงการมวยยุคนี้แย่ที่สุด "วงการนี้มันไม่มีอะไรที่แย่ไปกว่านี้แล้ว มวยกำลังเดินทางสู่ขาลง มีปัจจัยอะไรหลายอย่างเข้ามาเยอะ ทั้งการพนัน ยิ่งเกิดกรณี มวยดังๆอย่าง บัวขาว หรือ สมรักษ์ ขึ้นมายิ่งให้ภาพของคนดูมันเป็นลบเข้าไปอีก แต่สมรักษ์ จะไปว่าก็ไม่ได้ เขามีเหตุผลที่ไม่ขึ้น และยืดอกยอมรับแบบลูกผู้ชาย แต่บัวขาว ไม่มีการบอกกล่าวถึงเหตุผลอะไรเลย ซึ่งถ้าตามจากข่าวที่ผ่านมาก็คงไม่พ้นเรื่องการพนัน"
สำหรับ "เสี่ยเน้า" วิรัตน์ วชิรรัตนวงศ์ โปรโมเตอร์มวยรุ่นเก๋าที่มีประสบการณ์มากว่า 40 ปี เล่าว่าอันที่จริงแล้วการที่นักมวยหายไปจากเวที เป็นเรื่องของความรับผิดชอบในตัวนักมวยล้วนๆ "อันที่จริง เรื่องนักหวยไม่ยอมขึ้นชกมันมีมาทุกยุคทุกสมัย เพียงแต่ว่าไม่ใช่นักมวยดังก็เลยไม่เป็นข่าวเท่านั้น ซึ่งเรื่องแบบนี้ต้องเรียกว่าตัวนักมวยเอง ไม่มีความรับผิดชอบ โปรโมเตอร์ ไม่มีสิทธิ์ที่จะไปตามได้หรือบังคับให้มาขึ้นชก อยู่ที่ตัวนักมวยเองเท่านั้น ยิ่งเมื่อเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมา คนดูก็ไม่อยากเข้ามาดู เพราะเข้ามาก็ไม่ได้ดู นักมวยที่ตัวเองรัก สุดท้ายนักมวยเหล่านี้แหละที่ทุบหม้อข้าวตัวเอง"
มาถึง ''น้องโบ๊ท'' ณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์ โปรโมเตอร์เลือดใหม่ที่มีอายุน้อยที่สุดในด้วยวัยเพียง 24 ปี เท่านั้น ให้ความคิดเห็นไว้อย่างน่าสนใจว่า กรณ บัวขาว หรือ สมรักษ์ หายตัวไปจากเวทีนั้น ทำให้ภาพวงการนี้เป็นลบอย่างแน่นอน อีกทั้งบรรดาผู้จัดและสปอนเซอร์ต่างเสียหายหลายแสน "สำหรับตัวเองก็ไม่ได้หวั่นในเรื่องการจัดงานหรือค่าใช้จ่ายอะไร เนื่องจากกรณีบัวขาว หรือสมรักษ์ ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก มีแต่มวยดังๆมากกว่า ที่เขามีปัญหานี้ เพราะเมื่อมีชื่อเสียง ความคิดก็จะเปลี่ยนไป เล่นตัวได้มากขึ้น ซึ่งตรงนี้มันจะมีผลกับผู้เข้าชม ที่ตั้งใจว่าจะเข้ามาดูมวยที่ชอบ แต่พอไม่ยอมขึ้นชก ภาพของวงการนี้ก็จะลบลงทันทีในสายตาคนดู"
อย่างไรก็ตามเมื่อปี 2542 ประเทศไทยได้มีการประกาศใช้กฎหมาย พระราชบัญญัติกีฬามวย (พ.ร.บ. มวย) ที่มี สำนักคณะกรรมการกีฬามวย เป็นผู้ใช้กฎหมาย และขึ้นตรงกับ "รองเสือ" สกล วรรณพงษ์ รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ฝ่ายกีฬาอาชีพและสิทธิประโยชน์ แต่ "รองเสือ" ยอมรับว่าตั้งแต่มีการประกาศใช้ พ.ร.บ. มา 15 ปี ยังไม่เคยนำมาใช้อย่างจริงจัง จนทำให้ต่อไปวงการมวยจะตกต่ำลงเรื่อยๆ
"ตั้งแต่ประกาศใช้ พ.ร.บ. มาตั้งแต่ปี 2542 ต้องยอมรับว่า ยังไม่เคยมีการนำมาใช้ในด้านกฎหมายอย่างจริงจัง ทั้งในเรื่องการล้มมวย หรือเรื่องการทุจริตในวงการ ตัวผมเอง เป็นคนที่ดูแลส่วนนี้ก็จริง แต่ไม่มีหน้าที่ไปบังคับใช้กฎหมาย ต้องให้ สำนักคณะกรรมการกีฬามวย เป็นคนตรวจสอบ แต่ที่ผ่านมาก็ไม่เคยลงสนามจริง เข้าไปสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้นเลยสักกรณี ส่วนในเรื่อง บัวขาว หรือ สมรักษ์ ที่หายไปจากเวที พ.ร.บ. ก็ไม่มีสิทธิตรงนี้เช่นกัน เรื่องแบบนี้ขึ้นอยู่กับ โปรโมเตอร์ ว่าจะตกลงกันอย่างไร ส่วนตัวผมเองก็ห่วงว่า ถ้าเราไม่เริ่มจริงจังกับ พ.ร.บ. กีฬามวย วงการนี้คงจะตกต่ำลงเรื่อยๆ " รองเสือ ทิ้งท้าย
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *