เปิดใจ “โจ้” ก่อนวิวาห์ ชีวิตโบว์ลิ่งที่ถูกเติมเต็ม

ASTV ผู้จัดการรายวัน - หลังจากจบศึก เอเชียน เกมส์ ครั้งที่ 17 ณ เมืองอินชอน เกาหลีใต้ ชื่อของ “โจ้” ญาณพล ลาภอาภารัตน์ ตกเป็นที่สนใจ เพราะผลงานคว้าเหรียญทองแรกให้ทีมชาติไทยจากกีฬาโบวลิ่ง ทั้งที่เจ้าตัวเคยผิดหวังจนเกือบเลิกเล่น เพราะจบอันดับ 4 แบบน่าเสียดายเมื่อ 4 ปีที่แล้ว อย่างไรก็ตามตอนนี้ทุกอย่างลงตัว โดยเฉพาะเรื่องหัวใจที่มีกำหนดลั่นระฆังวิวาห์วันที่ 2 พฤศจิกายนนี้ที่ อาคารอิมแพ็ค ฟอรั่ม อิมแพ็ค เมืองทองธานี

“มิ้ง” สมกกนธ์ บุตรสาธรรม แฟนสาว ถือเป็นกำลังใจชั้นดีที่ส่งให้มีวันนี้ “โจ้” ฮีโร่ของนักนักกีฬาไทย อินชอน เกมส์ จึงถือโอกาสแต่งงานเพื่อให้ชีวิตสมบูรณ์แบบ หลังจากประสบการณ์ความสำเร็จในกีฬาที่รักแล้ว

โดย ญาณพล เปิดใจถึงอุบัติรักกับว่าที่เจ้าสาวแสนสวยว่า “เราทำงานอยู่ที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเหมือนกันแต่อยู่คนละแผนก ซึ่งมีวันนึงตนได้จัดประชุมและเป็นผู้บรรยาย ทำให้พบกับ มิ้ง เห็นแล้วบอกเลยว่าชอบมากผู้หญิงคนนี้ เขาสะดุดตา แล้วก็เริ่มคุยกันผ่านโปรแกรมเอ็มเอสเอ็น กว่าจะจีบติดก็นานเหมือนกัน มาขอเขาเป็นแฟนก็ช่วง เอเชียน เกมส์ 2010 ที่กวางโจว เกมส์ คบเป็นแฟนกันมาก็ 4 ปีแล้ว”

วันเวลาที่ล่วงเลยทำให้ความผูกพันของทั้งคู่เพิ่มพูนกลายเป็นความเข้าใจที่มีให้กัน ซึ่งชีวิตนักกีฬาจะต้องทุ่มเทกับการฝึกซ้อมและลงแข่งขัน จนแทบไม่มีเวลา แต่ฝ่ายหญิงก็เข้าใจ หนุ่มโจ้ เล่าอีกว่า “มิ้ง ค่อนข้างเป็นผู้ใหญ่และเป็นคนที่เข้าใจในตัวเราที่จะต้องเดินทางบ่อย ไหนจะต้องฝึกซ้อมและทำธุรกิจโบว์ลิ่งที่เปิดที่รามคำแหงอีก เธอก็ไม่เคยงอแงว่าเราไม่มีเวลาให้แถมยังให้กำลังใจตลอดและที่สำคัญอยู่ด้วยกันแล้วไม่ต้องเปลี่ยนอะไรเลยมีความเป็นตัวเอง”

“ที่ประทับใจเลยก็คือช่วงที่ผิดหวังจาก กวางโจว เกมส์ แม้ว่าเราจะล้มเหลวแต่ มิ้ง ก็ให้กำลังใจบอกว่าให้สู้ต่อ เคยจะเลิกเล่นเหมือนกัน แต่ด้วยกำลังใจจากแฟน จากพ่อแม่ ทำให้เราคิดได้ว่ายังทำฝันไม่สำเร็จนะ ก็เลยฮึดสู้อีกครั้ง จนมาถึง เอเชียน เกมส์ ครั้งที่ 17 เธอก็คืออีกกำลังใจสำคัญในการคว้าเหรียญทอง ทำให้มั่นใจว่าตนเองตัดสินใจไม่ผิดที่เลือกผู้หญิงคนนี้มาเป็นเพื่อนคู่ทุกข์คู่ยาก อยู่ด้วยไปจนแก่เฒ่า” นักกีฬาทีมชาติไทย เผย

ส่วนเซอร์ไพรส์ขอแต่งงาน “โจ้” เลือกเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2557 ด้วยการนำแหวนแต่งงานและผ้าพันคอ ปักข้อความที่แสนโรแมนติก “วันนั้นผมมีแข่งขันที่พัทยา ซึ่งตรงกับวันเกิดของ มิ้ง ซึ่งก็มั่นใจว่าอยากจะใช้ชีวิตคู่อยู่กับเขาก็เลยทำเซอร์ไพรส์ เอาแหวนไป และก็เอาผ้าพันคอ ปักคำว่า will you marry me ไปวางไว้ในห้องพัก พอเจ้าตัวมาเห็นก็ร้องไห้และก็ตอบตกลง เราจึงไปหาฤกษ์แต่งงาน ที่วัดในจังหวัดนครปฐม และได้ฤกษ์วันที่ 2 พฤศจิกายนนี้มา”

นักทอยแก่นหนุ่ม วัย 31 ปี เผยสินสอดที่มอบให้กับเจ้าสาวนั้น เป็นเงินสด 1 ล้านบาท และทอง 10 บาท ส่วนชีวิตหลังแต่งงานคงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมาก “หลังแต่งก็คงจะอยู่กรุงเทพฯ ที่คอนโดมิเนียมของผม เพราะมีบ้านของพ่อ-แม่ อยู่แล้ว ที่จังหวัดนครปฐม ส่วนเรื่องลูกตนก็ไม่กะเกณฑ์ว่าจะมีตอนไหน ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ แต่ก็หวังว่าจะได้ลูกผู้ชาย และอยากให้โตมาเป็นนักกีฬาเหมือนกับตนเอง”

สำหรับอนาคตของ ญาณพล กับกีฬาโบวลิ่งนั้น เจ้าตัวเผยว่าแม้จะมีครอบครัวแล้วก็จะไม่ทิ้งสิ่งที่ตนรักแน่นอน โดยได้พูดคุยกับทางผู้ใหญ่ในสมาคมฯ ว่าต้องการผันตัวเองมาเป็นผู้ฝึกสอนดูแลนักกีฬา เพราะความสำเร็จในครั้งนี้ถือว่าเป็นจุดสูงสุดที่ต้องการแล้ว แต่สมาคมฯ ได้ขอร้องให้อยู่ช่วยทีมชาติเป็นครั้งสุดท้ายคือศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 28 ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเจ้าตัวก็ยินดีทำเต็มที่ รวมถึงยังเตรียมเปิดอะคาเดมี ที่ลานโบว์ลิ่งของตัวเองย่านรามคำแหง เพื่อปั้นนักกีฬาป้อนทีมชาติไทย

ทั้งนี้ ในวันสำคัญของชีวิต ญาณพล เผยว่าได้เนรมิตสถานที่จัดงานแต่งให้กลายเป็นลานโบวลิ่งเพื่อแสดงให้เห็นว่าคือสิ่งที่เขารักและแสดงถึงความเป็นตัวตนของตัวเอง “การเตรียมงานส่วนใหญ่จะให้ มิ้ง เป็นคนจัดการ เพราะผมต้องฝึกซ้อม ซึ่งบรรยากาศทั้งหมดจะเหมือนอยู่ในสนามโบวลิ่ง เพราะเรารักในสิ่งนี้และผู้หญิงข้างกายของเราก็รู้สึกเช่นเดียวกัน”

* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *