"เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี เปิดรังถล่ม "ไก่เดือยทอง" ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ ซึ่งเหลือผู้เล่นเพียง 10 คน 4-1 จากผลงานของ เซร์คิโอ อกูเอโร หัวหอกชาวอาร์เจนไตน์ ทั้งหมด ในศึก พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา
ฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
แมนฯ ซิตี 4-1 สเปอร์ส
มานูเอล เปเยกรินี กุนซือ แมนเชสเตอร์ ซิตี ดร็อป ยาย่า ตูเร ห้องเครื่อง ไอวอรี โคสต์ ที่อ่อนล้าจากการเล่นทีมชาติ นั่งสำรอง ส่ง แฟรงค์ แลมพาร์ด มิดฟิลด์ตัวเก๋า ปั้นเกมแดนกลางกับ ดาบิด ซิลบา สนับสนุน เซร์คิโอ อกูเอโร ศูนย์หน้าตัวเก่ง เปิดรัง เอติฮัด สเตเดียม รับมือ ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ ซึ่งนำมาโดย โรแบร์โต โซลดาโด , คริสเตียน เอริกเซน และ เอริค ลาเมลา 3 ตัวอันตรายบนแนวรุก
เสียงนกหวีดดังขึ้น ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ ทักทายน่ากลัวเพียง 8 นาที โรแบร์โต โซลดาโด รับบอลหน้าเขตโทษด้านซ้าย ไหลเข้ากลาง ไรอัน เมสัน สอดจากแถวสองหลุดมาล่อเป้า โจ ฮาร์ท นายทวาร แต่ดีดไปติดเซฟอย่างน่าเสียดาย ถัดมา แมนเชสเตอร์ ซิตี เริ่มตื่นตัว กดดันชุดใหญ่จนขึ้นนำนาที 14 เอริค ลาเมลา ทำบอลเสียหน้าเขตโทษ ถูก บาการี ซานญา ฉกบอลล้นมาถึง แฟรงค์ แลมพาร์ด ไหลเข้าเขตโทษด้านซ้าย เซร์คิโอ อกูเอโร หลอกล่อตัวประกบ แล้วตวัดยิงเสียบมุมเสาไกล
ต่อมาเพียง 2 นาที ทีมของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน แก้คืนทันควัน ไรอัน เมสัน กองกลางดาวรุ่ง พุ่งสไลด์บอลจากเท้า เฟอร์นานโด หลุดมาถึง โรแบร์โต โซลดาโด ไหลออกเขตโทษด้านขวา คริสเตียน เอริกเซน วิ่งมาตะบันแบบเน้นๆ แฉลบปลายเท้า โจ ฮาร์ท เสยเพดานตาข่าย ต่อมานาที 19 เจ้าถิ่น ได้เฮอีกครั้ง เจมส์ มิลเนอร์ เก็บบอลทางเขตโทษด้านซ้าย แล้วเปิดทางแก่ แลมพาร์ด มารับบอลต่อ แต่ถูก เอริค ลาเมลา กระแทกด้านหลังล้มลง ผู้ตัดสินเป่าจุดโทษ อกูเอโร ยิงเรียดเสียบมุมซ้ายมือ
ซิตี ค่อยๆ ลำเลียงเกมบุก ก่อนจะพลาดโอกาสทอง 2 ครั้งติด เริ่มจากนาที 30 มิลเนอร์ ดีดจากซ้ายเข้ากลางสั้นๆ ดาบิด ซิลบา โฉบถึงบอลก่อน แต่ถูก ยูเนส กาบูล พุ่งเสียบล้มลง เซร์คิโอ อกูเอโร แปกลางประตู ติดขา ฮูโก โยริส นายทวาร ก่อนลอยตัวฟาดซ้ำข้ามคาน ถัดมานาที 33 "เอล กุน" สปีดรับบอลยาวตีคู่มากับ กาบูล เข้าเขตโทษด้านขวา กระชากมาทางเส้นหลัง แล้วยิงมุมแคบไม่ผ่านมือ โยริส
เข้าสู่นาที 39 อาคันตุกะจากถิ่น ไวท์ ฮาร์ท เลน ตอบโต้มาได้เสียว คริสเตียน อีริกเซน ส่องไกลหน้าเขตโทษด้านขวาเต็มแรง โจ ฮาร์ท ต้องออกแรงปัดทิ้ง ต่อมา 1 นาที อีริกเซน กระชากทางหนีตัวประกบทางเขตโทษด้านขวา แล้วหักเข้ากลาง เอริค ลาเมลา ซัดติดบล็อก แฟร์นานดินโญ ล้มตัวเคลียร์ไม่ขาด ไรอัน เมสัน ตะบันสวนระยะประมาณ 20 หลา โจ ฮาร์ท พุ่งปัดไว้ได้ ครบ 45 นาที แมนเชสเตอร์ ซิตี นำ 2-1
ลุยต่อครึ่งหลัง แชมป์เก่า ทำเกมรุกไหลลื่นกว่า นาที 49 เซร์คิโอ อกูเอโร สับไกระยะประมาณ 20 หลา กลางประตู ฮูโก โยริส ทิ้งตัวบล็อกไว้ได้ ก่อนมาพลาดเสียจุดโทษนาที 61 กาแอล กลิชี เตะสกัดบอลโด่งย้อนหลังมาแดนตัวเอง โรแบร์โต โซลดาโด บังบอลไว้แล้วถูก มาร์ติน เดมิเชลิส กระแซะด้านหลังล้มลง ทว่า อดีตหัวหอกบาเลนเซีย แปเรียดทางซ้ายเบาเกินไป โจ ฮาร์ท ผู้รักษาประตูทีมชาติอังกฤษ พุ่งปัดไว้ทัน
เกมเปิดแลกกันสนุกจนกระทั่งนาที 66 สถานการณ์ สเปอร์ส เลวร้ายอีก เฆซุส นาบาส หลุดเดี่ยวมาทางขวา ลากเข้าเขตโทษ แล้วผ่านเรียดเข้ากลาง เฟเดริโก ฟาซิโอ เอามือคว้าหัวไหล เซร์คิโอ อกูเอโร ก่อนจะเข้าถึงบอลจนตัวลอย ผู้ตัดสินเป่าจุดโทษ พร้อมชักใบแดงไล่ออก "เอล กุน" แปเรียดเสียบมุมซ้ายมือ ถัดมานาที 75 "เรือใบสีฟ้า" ทิ้งห่าง อกูเอโร วิ่งฉีกมารับบอลทางขวา ลากตัดเข้าใน แล้วแปเน้นๆ ด้วยเท้าซ้าย เสียบโคนเสาไกล ช่วงท้ายไม่มีสกอร์เกิดขึ้น จบเกม แมนเชสเตอร์ ซิตี เอาชนะไป 4-1 เก็บเพิ่มเป็น 17 แต้ม จาก 8 นัด รั้งอันดับ 2 ของตาราง
รายชื่อ 11 ตัวจริง
แมนฯ ซิตี : โจ ฮาร์ท , บาการี ซานญา , แว็งซ็องต์ กอมปานี , กาแอล กลิชี , มาร์ติน เดมิเชลิส , เฟอร์นานโด , เจมส์ มิลเนอร์ , เฆซุส นาบาส , แฟรงค์ แลมพาร์ด , ดาบิด ซิลบา , เซร์คิโอ อกูเอโร
สเปอร์ส : ฮูโก โยริส , แดนนี โรส , ยูเนส กาบูล , เอริค ไดเออร์ , เฟเดริโก ฟาซิโอ , เอริก ลาเมลา , เนเซอร์ แชดลี , คริสเตียน อีริกเซน , เอเตียน กาปู , ไรอัน เมสัน , โรแบร์โต โซลดาโด
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
