ASTV ผู้จัดการ – “มังกรไฟ” บีอีซี เทโรศาสน อันดับ 3 ในลีก หมายมั่นที่จะคว้าโทรฟีมาประดับตู้โชว์หลังห่างเหินไปนานกว่า 12 ปี มีคิวลงลุ้นแชมป์โตโยต้า ลีก คัพ 2014 แต่ต้องเจองานหินเมื่อโคจรมาปะทะของแข็งอย่าง “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จ่าฝูง ไทย พรีเมียร์ ลีก และแชมป์เก่ารายการนี้ 3 สมัยซ้อน ซึ่งเกมนี้ถือเป็นการดวลกันของ 2 มหาอำนาจต่างยุคเลยก็ว่าได้
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทัพของ อเล็กซานเดร กามา กุนซือบราซิเลียน ยิงได้ 11 เสีย 3 ประตู ในรายการนี้ รอบที่แล้วผ่าน ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ด้วยสกอร์รวมสองนัด 3-1 แต่ต้องสังเวย คาร์เมโล กอนซาเลซ มิดฟิลด์สแปนิชตัวเก่ง ที่ยิงไป 4 ประตูในถ้วยนี้ เนื่องจากติดโทษแบนจากการโดนไล่ออกกรณีเตะขวดน้ำไปทางผู้ตัดสิน นอกจากนี้ยังชวดใช้งาน “กอล์ฟ” อดิศักดิ์ ไกรษร หอกดีกรี 3 ประตู เอเชียนเกมส์ 2014 เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บติดตัวมา ส่วนที่เหลือยังฟูลทีม นำโดย ฮาเวียร์ ปาติโญ ดาวยิง 18 ตุงในลีก และ 2 ประตูในรายการนี้ลงล่าตาข่าย โดยมี สุเชาว์ นุชนุ่ม, จักรพันธ์ แก้วพรม และ ดาบิด โรเชลา สนับสนุนจากแดนกลาง ส่วนหลังบ้านมี ธนะศักดิ์ ศรีใส, อันเดรส ตูเนส และ ประทุม ชูทอง ยืนคุม ขนาบด้วย ธีราทร บุญมาทัน กับ อนาวิน จูจีน
โดย เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรปราสาทสายฟ้า มั่นใจว่าจะปิดบัญชีภายใน 90 นาที “เราไม่มีเป้าหมายอื่นนอกจากการเป็นแชมป์สมัยที่ 4 สถานเดียว แม้เกมนี้จะไม่มี อดิศักดิ์ กับ คาร์เมโล แต่ก็ไม่ส่งผลอะไรอยู่แล้ว และไม่ว่า บีอีซี เทโรฯจะมาเล่นอย่างไรก็ไม่ใช่ปัญหา เราจะเอาชนะภายใน 90 นาทีแน่นอน”
ฟาก บีอีซี เทโรศาสน ที่ยิงได้ 14 เสีย 3 ประตู เอาชนะ นครราชสีมา เอฟซี จ่าฝูงยามาฮ่า ลีก วัน ด้วยสกอร์รวม 5-2 ได้ อัฟราม แกรนท์ อดีตผู้จัดการทีมของเชลซี มานั่งในตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิค โดยมี โชเซ อัลเวส บอร์จีส เทรนเนอร์แซมบ้าสั่งการข้างสนาม ต้องปวดหัวในการจัดทัพเนื่องจากชวดใช้งาน จิรวัฒน์ มัครมย์ กองกลางดีกรีแชมป์รายการนี้ 3 สมัย กับ การท่าเรือไทย เอฟซี(ปี 2010) และ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด(ปี 2012, 2013) ที่ติดคัพไท รวมถึง กิลเบิร์ต คูมสัน แข้งตัวจี๊ดชาวกานา ที่ยิงไป 3 ประตูในถ้วยนี้ เนื่องจากผ่าตัดหัวเข่าต้องพักยาว และ พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา ที่ติดโทษแบน
นอกจากนี้ยังต้องเช็คอาการ “เมสซีเจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ ที่เป็นไข้หวัด ส่วนผู้เล่นที่เหลือกำลังฮึกเหิมโดยเฉพาะแข้งพลังหนุ่มที่เพิ่งผ่านอินชอนเกมส์อย่าง นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม, ธนบูรณ์ เกษารัตน์ และ อดิศร พรมรักษ์ จะได้สตาร์ทเป็นตัวจริงร่วมกับสองสตาร์ญี่ปุ่น โช ชิโมจิ และ ไดกิ อิวามาสะ โดย ธัญญะ วงศ์นาค ผู้จัดการทีมมังกรไฟ ยอมรับว่าเป็นรองหลายขุม
“สภาพทีมถือว่าพร้อมเต็มที่แม้จะต้องขาดตัวหลักหลายคน แต่ผู้เล่นที่กลับจากเอเชียนเกมส์ก็ฟิตสมบูรณ์พร้อมลงสนามเหลือเพียง ชนาธิป รายเดียวที่ยังต้องเช็คอาการ ซึ่งตอนนี้เราได้ แกรนท์ เข้ามาช่วยวางแทคติกรวมถึงดึงจุดแข็งของทีมซึ่งคือเกมรุกให้มีศักยภาพมากขึ้น อย่างไรก็ตามยอมรับว่าบุรีรัมย์ฯยังเหนือกว่าเราเยอะ แม้จะขาด คาร์เมโล ก็ไม่เป็นผลเพราะพวกเขาเล่นด้วยระบบ แต่เราก็จะสู้เต็มที่ เราชอบทีมที่มาเล่นเกมบุกกับเราอยู่แล้ว เพราะเราจะเปิดหน้าแลกเช่นกัน บีอีซี เทโรฯไม่เคยเล่นเกมรับอยู่แล้วนอกจากจะบุกไม่ขึ้นเท่านั้น” ธัญญะ เผย
พร้อมกันนี้ “เสี่ยแมน” ยังกล่าวต่อว่าทีมต้องการถ้วยแชมป์ใบนี้เป็นอย่างมาก “การเจอกันนัดนี้จะเรียกว่าเป็นการพบกันของ 2 มหาอำนาจต่างยุคก็ว่าได้ แม้ว่าเมื่อก่อนเราจะเคยเป็นเจ้าบุญทุ่มแต่ตอนนี้บุรีรัมย์ฯกลายเป็นมหาบุญทุ่มไปแล้ว สามารถพัฒนาในทุกด้านได้พร้อมๆกัน แต่เราก็ต้องการแชมป์นี้เช่นกันเพื่อเป็นขวัญกำลังใจของทีมที่หลายคนอายุยังน้อย รวมถึงเป็นกำลังใจให้ประธานสโมสรลงทุนทำทีมเพิ่มขึ้นในปีต่อๆไป และเป็นการตอกย้ำว่าการสร้างผู้เล่นจากเยาวชนของเรามาถูกทาง”
โดยผลงานที่พบกันในศึกโตโยต้า ไทย พรีเมียร์ ลีก ฤดูกาลนี้ เป็น "มังกรไฟ" ที่ข่มกว่าหลังนัดแรกเปิดรังเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา มีนบุรี เฉือนชนะ 3-2 ก่อนจะบุกไปยันเจ๊าที่ ไอ-โมบาย สเตเดียม 1-1
ขณะที่ตุลาการสนามในเกมนี้ที่หลายฝ่ายจับตามองจะใช้วิธีจับสลากก่อนแข่ง 2 ชั่วโมง โดยมีเชิ้ตดำดีกรีฟีฟา 14 คนอยู่ในข่าย แบ่งเป็น ผู้ตัดสิน 6 คน คือ ชัยยะ มหาปราบ, อลงกรณ์ ฝีมือช่าง, สุเปรม นนทะวงศ์, ฑีธิชัย นวลจันทร์, มงคลชัย เพชรศรี, ศิวกร ภูอุดม และผู้ช่วยผู้ตัดสิน 8 คน คือ ถนอม บริคุต, ชุมพล ดีแปลง, อนุวัตร ฝีมือช่าง, นิวัฒน์ อินสะอาด, อำนาจ ผ่องมณี, บินหลา ปรีดา, สุเมธ สายแวว และ ฐาปนา ถาวร
สำหรับเกมนัดชิง ลีก คัพ ระหว่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พบ บีอีซี เทโรศาสน จะฟาดแข้งวันอาทิตย์ที่ 12 ตุลาคม นี้ ที่สนามศุภชลาศัย เวลา 18.00 น. โดยทีมแชมป์จะได้ครองถ้วยพร้อมเงินรางวัล 5 ล้านบาท ส่วนนักเตะยอดเยี่ยมรับรถยนต์โตโยต้า คัมรี ไฮบริด 1 คัน
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *