คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”
ได้เหรียญทองจนได้สำหรับทีมมวยสากลสมัครเล่นไทย ที่บุกไปร่วมศึก เอเชียน เกมส์ “อินชอน เกมส์” ครั้งนี้ หลังจากที่เริ่มต้นแบบตะกุกตะกัก ตัวความหวังค่อยๆ ร่วงไปทีละคนๆ แบบร่วงจริงบ้าง ค้านสายตาบ้าง สุดท้ายได้ วุฒิชัย มาสุข ทะลุเข้าชิงเหรียญทองคนเดียวโดดๆ ในรุ่น 64 กก. และก็ไม่ทำให้ผิดหวังออกหมัดเน้นๆ คว้าเหรียญทองมาจนได้
ก่อนขึ้นเวทีกองเชียร์ชาวไทยก็ต้องทำใจกันไว้ระดับหนึ่ง เพราะคู่ชิงนั้นเจ้าภาพเกาหลีใต้ส่งเข้าประกวด และจากภาพการตัดสินในรอบที่ผ่านๆ มา รวมทั้งการตัดสินในกีฬาประเภทอื่นที่เห็นๆ กัน ก็ต้องบอกว่า วุฒิชัย นั้นเจอกับงานหินเข้าเต็มเปา เพราะคาดว่านอกจากต้องสู้กับคู่ชกแล้วก็ต้องสู้กับสภาพแวดล้อมด้วย ขึ้นยกแรกมานักชกไทยโชว์สเต็ปเท้าเข้าเร็วออกเร็ว แถมจิ้มหมัดซ้ายเข้าเป้าเน้นๆ ชนิดที่ถ้าให้คะแนนแบบนับหมัดอย่างสมัยก่อนก็น่าจะนำไป 3-4 หมัดเลยทีเดียว แต่พอเป็นการให้คะแนนแบบภาพรวมแบบนี้ก็ต้องมาตามลุ้นคะแนนกันตอนท้าย
ยก 2 นักชกพลังโสมเดินเร็วขึ้น แถมขยันออกหมัด แต่วืดวาดเป็นส่วนใหญ่ ขณะที่ความหวังของคนไทยยังโชว์ฟุตเวิร์กสวยงามรวมทั้งการออกหมัดจังหวะสองได้แม่นยำ แต่ท้ายยกหนีบหมัดและกดคอมากไปหน่อยกรรมการสั่งตัดคะแนน เล่นเอาทีมมวยไทยเครียดต้องรีบแก้เกมอีกเที่ยว ยกสามนักชกเจ้าภาพยังเดินเข้าหาเร็วออกหมัดเป็นพายุ แต่วุฒิชัยเรายังเน้นการออกหมัดแบบจะแจ้ง ครบยกเจ้าภาพมั่นใจมากชนิดที่ต้องสงสัยว่าจะมั่นใจอะไรขนาดนั้น เพราะดูตามสายตาแล้วนักชกไทยทำได้ดีกว่าเห็นๆ สุดท้ายกรรมการ 3 เสียงให้เสมอ 2 เสียง อีกเสียงออกทางเจ้าภาพ ทำให้ผลออกมาเสมอ
แต่พอดูกรรมการที่ให้เสมอแล้วทั้ง 2 คนชี้ให้ วุฒิชัย ได้เหลื่อม ทำให้ผลเป็นทางการคือนักชกไทยชนะ 2-1 เสียงคว้าเหรียญทองโทนจากมวยสากลสมัครเล่นมาให้ทีมกีฬาไทยจนได้ เรียกว่าตอน “น้องมุก” โสภิดา สะทุมรัมย์ ตกรอบก็มาจากการตัดสินในรูปแบบนี้ ถึงที วุฒิชัย ก็ได้คืนมาเจ๊ากันไป อย่างไรก็ตาม ก็ต้องบอกว่าการเปลี่ยนรูปแบบการให้คะแนนและการตัดสินครั้งนี้ยังไม่สามารถลบภาพเดิมๆ ของวงการมวยสากลสมัครเล่นได้ เพราะครั้งนี้ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการตัดสินกันกระหึ่ม ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่าจะมีแนวทางอะไรอีกหรือไม่
ส่วนทีมมวยสากลสมัครเล่นของไทยก็ต้องถือว่าทำได้ดีที่สุดแล้ว ก่อนไปอาจตั้งเป้าหมายไว้มากกว่านี้ แต่สุดท้ายได้มา 1 ทอง 1 ทองแดง รวมทั้งทีมหญิงที่ไม่มีเหรียญติดมือเลย เรียกว่ามีการบ้านที่ท่านนายกสมาคมและทีมงานจะต้องไปปรับสไตล์การชก และเตรียมความพร้อมให้เต็มที่กว่านี้ ดูจากไฟต์ชิงเหรียญทองของ วุฒิชัย นั้นยกแรกตามสายตาเราทำดีกว่าเห็นๆ แต่ปรากฏว่ากรรมการ 3 ท่านให้เราแพ้หมด แสดงว่าการเน้นออกหมัดแบบจิ้มทีละหมัดนั้นไม่ดีพอแล้ว ต้องเน้นการเข้าทำให้มากกว่านี้ รวมทั้งต้องคุมสถานการณ์ในยกให้ดีกว่านี้ พอยกต่อๆ มาเราโชว์สเต็ปล่อให้นักชกเกาหลีออกทะเล เราถึงได้คะแนนคืนมา แบบนี้ทีมงานก็ต้องปรับแนวทางการทำมวยให้เข้ากับวิธีการให้คะแนน จะได้มีโอกาสคว้าเหรียญในรายการต่อๆ ไปให้สมกับเป็นกีฬาความหวังของคนไทยในมหกรรมกีฬามาทุกยุคทุกสมัย
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
ได้เหรียญทองจนได้สำหรับทีมมวยสากลสมัครเล่นไทย ที่บุกไปร่วมศึก เอเชียน เกมส์ “อินชอน เกมส์” ครั้งนี้ หลังจากที่เริ่มต้นแบบตะกุกตะกัก ตัวความหวังค่อยๆ ร่วงไปทีละคนๆ แบบร่วงจริงบ้าง ค้านสายตาบ้าง สุดท้ายได้ วุฒิชัย มาสุข ทะลุเข้าชิงเหรียญทองคนเดียวโดดๆ ในรุ่น 64 กก. และก็ไม่ทำให้ผิดหวังออกหมัดเน้นๆ คว้าเหรียญทองมาจนได้
ก่อนขึ้นเวทีกองเชียร์ชาวไทยก็ต้องทำใจกันไว้ระดับหนึ่ง เพราะคู่ชิงนั้นเจ้าภาพเกาหลีใต้ส่งเข้าประกวด และจากภาพการตัดสินในรอบที่ผ่านๆ มา รวมทั้งการตัดสินในกีฬาประเภทอื่นที่เห็นๆ กัน ก็ต้องบอกว่า วุฒิชัย นั้นเจอกับงานหินเข้าเต็มเปา เพราะคาดว่านอกจากต้องสู้กับคู่ชกแล้วก็ต้องสู้กับสภาพแวดล้อมด้วย ขึ้นยกแรกมานักชกไทยโชว์สเต็ปเท้าเข้าเร็วออกเร็ว แถมจิ้มหมัดซ้ายเข้าเป้าเน้นๆ ชนิดที่ถ้าให้คะแนนแบบนับหมัดอย่างสมัยก่อนก็น่าจะนำไป 3-4 หมัดเลยทีเดียว แต่พอเป็นการให้คะแนนแบบภาพรวมแบบนี้ก็ต้องมาตามลุ้นคะแนนกันตอนท้าย
ยก 2 นักชกพลังโสมเดินเร็วขึ้น แถมขยันออกหมัด แต่วืดวาดเป็นส่วนใหญ่ ขณะที่ความหวังของคนไทยยังโชว์ฟุตเวิร์กสวยงามรวมทั้งการออกหมัดจังหวะสองได้แม่นยำ แต่ท้ายยกหนีบหมัดและกดคอมากไปหน่อยกรรมการสั่งตัดคะแนน เล่นเอาทีมมวยไทยเครียดต้องรีบแก้เกมอีกเที่ยว ยกสามนักชกเจ้าภาพยังเดินเข้าหาเร็วออกหมัดเป็นพายุ แต่วุฒิชัยเรายังเน้นการออกหมัดแบบจะแจ้ง ครบยกเจ้าภาพมั่นใจมากชนิดที่ต้องสงสัยว่าจะมั่นใจอะไรขนาดนั้น เพราะดูตามสายตาแล้วนักชกไทยทำได้ดีกว่าเห็นๆ สุดท้ายกรรมการ 3 เสียงให้เสมอ 2 เสียง อีกเสียงออกทางเจ้าภาพ ทำให้ผลออกมาเสมอ
แต่พอดูกรรมการที่ให้เสมอแล้วทั้ง 2 คนชี้ให้ วุฒิชัย ได้เหลื่อม ทำให้ผลเป็นทางการคือนักชกไทยชนะ 2-1 เสียงคว้าเหรียญทองโทนจากมวยสากลสมัครเล่นมาให้ทีมกีฬาไทยจนได้ เรียกว่าตอน “น้องมุก” โสภิดา สะทุมรัมย์ ตกรอบก็มาจากการตัดสินในรูปแบบนี้ ถึงที วุฒิชัย ก็ได้คืนมาเจ๊ากันไป อย่างไรก็ตาม ก็ต้องบอกว่าการเปลี่ยนรูปแบบการให้คะแนนและการตัดสินครั้งนี้ยังไม่สามารถลบภาพเดิมๆ ของวงการมวยสากลสมัครเล่นได้ เพราะครั้งนี้ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการตัดสินกันกระหึ่ม ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่าจะมีแนวทางอะไรอีกหรือไม่
ส่วนทีมมวยสากลสมัครเล่นของไทยก็ต้องถือว่าทำได้ดีที่สุดแล้ว ก่อนไปอาจตั้งเป้าหมายไว้มากกว่านี้ แต่สุดท้ายได้มา 1 ทอง 1 ทองแดง รวมทั้งทีมหญิงที่ไม่มีเหรียญติดมือเลย เรียกว่ามีการบ้านที่ท่านนายกสมาคมและทีมงานจะต้องไปปรับสไตล์การชก และเตรียมความพร้อมให้เต็มที่กว่านี้ ดูจากไฟต์ชิงเหรียญทองของ วุฒิชัย นั้นยกแรกตามสายตาเราทำดีกว่าเห็นๆ แต่ปรากฏว่ากรรมการ 3 ท่านให้เราแพ้หมด แสดงว่าการเน้นออกหมัดแบบจิ้มทีละหมัดนั้นไม่ดีพอแล้ว ต้องเน้นการเข้าทำให้มากกว่านี้ รวมทั้งต้องคุมสถานการณ์ในยกให้ดีกว่านี้ พอยกต่อๆ มาเราโชว์สเต็ปล่อให้นักชกเกาหลีออกทะเล เราถึงได้คะแนนคืนมา แบบนี้ทีมงานก็ต้องปรับแนวทางการทำมวยให้เข้ากับวิธีการให้คะแนน จะได้มีโอกาสคว้าเหรียญในรายการต่อๆ ไปให้สมกับเป็นกีฬาความหวังของคนไทยในมหกรรมกีฬามาทุกยุคทุกสมัย
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
