“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล สร้างความผิดหวังแก่แฟนๆ อีกครั้ง ปราชัยแก่ เอฟซี บาเซิล ยอดทีมของ สวิตเซอร์แลนด์ 0-1 พบความปราชัยเกมเยือนครั้งแรกรอบ 5 ปี ศึก ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก เมื่อคืนวันพุธที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา ทำเอาความหวังตีตั๋งสู่รอบน็อกกเอาต์แขวนอยู่บนเส้นด้าย แถมยังไม่สามารถเค้นฟอร์มระดับ รองแชมป์ พรีเมียร์ ลีก เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ซึ่ง “เดอะ เมโทร” สื่อดังแห่งเกาะอังกฤษ วิเคราะห์ 5 หนทางฝ่าวิกฤติของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส หากหวังปิดซีซันด้วยตำแหน่งท็อปโฟร์
1. ปรับจูนแนวรับ
ถึงแม้ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือชาวไอร์แลนด์เหนือ ลงทุนมหาศาลแก้วิกฤติกองหลัง เซ็นสัญญานักเตะอย่าง ฆาบี มานควิโญ, อัลแบร์โต โมเรโน และ เดยัน ลอฟเรน แต่ก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะแกร่งขึ้น ปัญหาสำคัญ คือ เสียประตูจากลูกเซตพีซครั้งแล้วครั้งเล่า หาก เทรนเนอร์วัย 41 ปี หาวิธีหยุดยั้งเหตุการณ์เดิมๆ พลพรรค “หงส์แดง” จะบินสูงอีกครั้ง
2. ประสานงานกันมากกว่าเดิม
ร็อดเจอร์ส ต้องทำการบ้านเพื่อหล่อหลอมผู้เล่นหน้าใหม่ให้เข้าขารู้ใจกันอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันขุนพล “เดอะ เรดส์” เล่นกันราวกับว่าผองเพื่อนประดุจคนแปลกหน้า ทำให้เกมไม่ไหลลื่นยามครองบอล
3. เลิกพึ่งพา สตีเวน เจอร์ราร์ด
ความเป็นจริงของกาลเวลา ลิเวอร์พูล ไม่สามารถฝากความหวังไว้กับ ห้องเครื่องวัย 34 ปี สร้างปาฏิหาริย์ดังเช่น 15 ปีก่อน “สตีวีจี” เริ่มถูกช่วงเวลาแห่งการทำหน้าที่หัวหน้าครอบครัวไล่ล่า ซึ่ง เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ต้องกล้าหาญ และเตรียมหาทายาท เนื่องจาก สังขารที่กำลังโรยรา กัปตันทีม “หงส์แดง” ไม่น่าจะลงเล่น 3 เกมต่อสัปดาห์ได้อีกต่อไป
4. จับจ่ายตลาดนักเตะฤดูหนาวอย่างชาญฉลาด
ลิเวอร์พูล ต้องการศูนย์หน้าระดับพระกาฬอีกสักราย เนื่องจากยังมีตัวเลือกน้อยเกินไป แม้จะคว้า ริคกี แลมเบิร์ต และ มาริโอ บาโลเตลลี ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา และเป้าหมายสำคัญอีกตำแหน่ง คือ มิดฟิลด์ตัวรับทดแทน สตีเวน เจอร์ราร์ด
5. ประคบประหงม แดเนียล สเตอร์ริดจ์
ชัดเจนว่า เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ต้องจับคู่ มาริโอ บาโลเตลลี กับกองหน้าอีกคนหนึ่ง เนื่องจาก อดีตนักเตะ แมนเชสเตอร์ ซิตี และ เอซี มิลาน ไม่สามารถรับบทหอกเดี่ยวดังเช่น หลุยส์ ซัวเรซ หรือ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ ซึ่งน่าจะเป็นสาเหตุที่ “ซูเปอร์มาริโอ” ยังปืนฝืดตลอด 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา
ครั้งหนึ่งที่เหล่าสาวก “เดอะ ค็อป” เห็น บาโลเตลลี ลงสนามเคียงบ่าเคียงไหล่ สเตอร์ริดจ์ ดาวยิงจอมเต้น ทีมจากย่านเมอร์ซีย์ไซด์ ถล่ม ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ อย่างสวยหรู 3-0 หวังว่าสิ่งนี้จะเป็นความฝันของแฟนๆ ยามทั้งคู่เล่นร่วมกัน
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
1. ปรับจูนแนวรับ
ถึงแม้ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือชาวไอร์แลนด์เหนือ ลงทุนมหาศาลแก้วิกฤติกองหลัง เซ็นสัญญานักเตะอย่าง ฆาบี มานควิโญ, อัลแบร์โต โมเรโน และ เดยัน ลอฟเรน แต่ก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะแกร่งขึ้น ปัญหาสำคัญ คือ เสียประตูจากลูกเซตพีซครั้งแล้วครั้งเล่า หาก เทรนเนอร์วัย 41 ปี หาวิธีหยุดยั้งเหตุการณ์เดิมๆ พลพรรค “หงส์แดง” จะบินสูงอีกครั้ง
2. ประสานงานกันมากกว่าเดิม
ร็อดเจอร์ส ต้องทำการบ้านเพื่อหล่อหลอมผู้เล่นหน้าใหม่ให้เข้าขารู้ใจกันอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันขุนพล “เดอะ เรดส์” เล่นกันราวกับว่าผองเพื่อนประดุจคนแปลกหน้า ทำให้เกมไม่ไหลลื่นยามครองบอล
3. เลิกพึ่งพา สตีเวน เจอร์ราร์ด
ความเป็นจริงของกาลเวลา ลิเวอร์พูล ไม่สามารถฝากความหวังไว้กับ ห้องเครื่องวัย 34 ปี สร้างปาฏิหาริย์ดังเช่น 15 ปีก่อน “สตีวีจี” เริ่มถูกช่วงเวลาแห่งการทำหน้าที่หัวหน้าครอบครัวไล่ล่า ซึ่ง เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ต้องกล้าหาญ และเตรียมหาทายาท เนื่องจาก สังขารที่กำลังโรยรา กัปตันทีม “หงส์แดง” ไม่น่าจะลงเล่น 3 เกมต่อสัปดาห์ได้อีกต่อไป
4. จับจ่ายตลาดนักเตะฤดูหนาวอย่างชาญฉลาด
ลิเวอร์พูล ต้องการศูนย์หน้าระดับพระกาฬอีกสักราย เนื่องจากยังมีตัวเลือกน้อยเกินไป แม้จะคว้า ริคกี แลมเบิร์ต และ มาริโอ บาโลเตลลี ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา และเป้าหมายสำคัญอีกตำแหน่ง คือ มิดฟิลด์ตัวรับทดแทน สตีเวน เจอร์ราร์ด
5. ประคบประหงม แดเนียล สเตอร์ริดจ์
ชัดเจนว่า เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ต้องจับคู่ มาริโอ บาโลเตลลี กับกองหน้าอีกคนหนึ่ง เนื่องจาก อดีตนักเตะ แมนเชสเตอร์ ซิตี และ เอซี มิลาน ไม่สามารถรับบทหอกเดี่ยวดังเช่น หลุยส์ ซัวเรซ หรือ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ ซึ่งน่าจะเป็นสาเหตุที่ “ซูเปอร์มาริโอ” ยังปืนฝืดตลอด 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา
ครั้งหนึ่งที่เหล่าสาวก “เดอะ ค็อป” เห็น บาโลเตลลี ลงสนามเคียงบ่าเคียงไหล่ สเตอร์ริดจ์ ดาวยิงจอมเต้น ทีมจากย่านเมอร์ซีย์ไซด์ ถล่ม ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ อย่างสวยหรู 3-0 หวังว่าสิ่งนี้จะเป็นความฝันของแฟนๆ ยามทั้งคู่เล่นร่วมกัน
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *