คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”
กำลังชั่งใจว่าจะย้อนคุยกับแฟนๆ เรื่องของ “ดำดอทคอม” บัวขาว บัญชาเมฆ หรือเรื่องของ “นักชกไร้พ่าย” ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ เพราะทั้งสองไฟต์ก็มีเรื่องที่น่าพูดถึงอยู่พอสมควร อีกทั้งมีนักชกไทยได้ขึ้นสังเวียนอีกรายหนึ่งและเกือบสร้างชื่อดังระดับโลกได้ เลยไม่เขียนถึงไม่ได้แล้วสำหรับ “ไอ้พิตบูลล์” เทอดศักดิ์ ก่อเกียรติยิม
ไฟต์ที่ว่านี้นักชกรุ่นเก๋าของเราได้โอกาสขึ้นชกชิงตำแหน่งแชมป์ “เฉพาะกาล” ของ สถาบันองค์กรมวยโลก WBO เนื่องจากแชมป์ตัวจริงชาวสหรัฐฯเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งถ้าชนะได้แชมป์มาก็มีศักดิ์ศรีเสมอแชมป์โลกตัวจริงเหมือนกัน แต่ต้องเดินทางไปชกถึงเม็กซิโก พบนักชกเจ้าถิ่น ออร์แลนโด ซาลิโด รุ่นซูเปอร์เฟเธอร์เวท 130 ปอนด์
ซาลิโด แฟนๆ คงจำได้ว่าเป็นนักชกที่ช่วยให้สถิติชก 3 ครั้งได้แชมป์โลกของ “น้าแสบ” แสนศักดิ์ เมืองสุรินทร์ ของเรายังไม่ถูกทำลายลงไป เพราะตอนนั้น “ไฮ-เทค” วาซีล โลมาเชนโก ขึ้นชิงตำแหน่งกับ ซาลิโด ในการชกอาชีพไฟต์ที่ 2 แต่ถูกความเก๋าของ ซาลิโด ปล่อยน้ำหนักเกินยอมตกตาชั่ง แล้วอาศัยความใหญ่กว่าเบียดลากเกมยาวจน โลมาเชนโก แก้เกมไม่ออก สุดท้ายแพ้คะแนนไป ซาลิโด ก็เสียแชมป์แบบตกตาชั่ง แต่ โลมาเชนโก ก็ไม่ได้แชมป์ สถิติของ “ไอ้แสบ” เลยอยู่ยงคงกระพัน ก่อนที่ โลมาเชนโก จะมาทำสถิติทาบได้เมื่อขึ้นชกไฟต์ถัดมาและคว้าแชมป์สมใจ
ไฟต์กับ “ไอ้พิตบูลล์” ของเราไฟต์นี้เปิดมาแค่นาทีแรก เทอดศักดิ์ ก็จิ้มซ้ายเต็มโหนกแก้ม ซาลิโด ส่งลงไปฟังกรรมการนับ 8 แต่ถัดมาอีกนาทีเดียว ซาลิโด ก็โชว์ลูกตุกติก จ้วงขวาเข้าใต้เข็มขัดส่งนักชกไทยลงไปนั่ง แต่กรรมการมองไม่เห็นและนับ เทอดศักดิ์ เราบ้าง พอมายก 2 ซาลิโด เดินมากขึ้น แต่ท้ายยกโดนหมัดของ เทอดศักดิ์ เราร่วงลงไปพิงเชือกทำท่าเหมือนจะไม่ลุก โดนนับ 8 ไปอีกทีลุกขึ้นมาก็หมดยกพอดี จากนั้นยก 3 ก็ยังแลกกันอย่างเมามัน แถมยก 4 ซาลิโด ส่ง เทอดศักดิ์ เราลงไปให้กรรมการนับ 8 ได้อีกที เรียกว่าแลกนับกันอุตลุด
ยก 5 นักชกไทยจ้วงซ้ายเข้าเต็มกราม ซาลิโด ได้อีก เดือดร้อนกรรมการต้องนับ 8 อีกรอบ แต่พอยก 6 นักชกเจ้าถิ่นไล่ยำ “ไอ้พิตบูลล์” ของเราจวนเจียนไปเจียนอยู่ เหลืออีก 3 วินาทีกรรมการโดดเข้าขวาง เล่นเอานักชกไทยงง ส่วนพี่เลี้ยงเจ้าถิ่นขึ้นมาเฮ เพราะนึกว่ากรรมการยุติการชกแล้ว แต่ปรากฏว่ากรรมการหูแว่วได้ยินเสียงระฆังทั้งที่ยังไม่ตี ต้องกลับมาชกกันต่ออีกคนละหมัดแล้วก็หมดยก พอยก 7 นักชกไทยกำลังเล่นเชือกเพลินๆ ปรากฏว่า โดนหมัดเข้าเต็มๆ ร่วงไปนั่งพิงเชือก กรรมการนับถึง 8 แล้วชกต่อได้ รวมเป็น 7 นับไปแล้ว
จากนั้นนักชกไทยเราก็เริ่มโรย เพราะรับมาเยอะเหลือเกิน ตาบวมปูดทั้งสองข้าง ข้างนักชกเจ้าถิ่นก็โหนกแก้มบวมเป่ง แต่ได้ลูกฮึดเดินใส่เน้นๆ จนยก 11 ต้นยกแค่ 16 วินาที ซาลิโด สบโอกาสฮุกซ้ายเข้าเต็มกราม ก่อนต่อด้วยขวา แล้วอัปเปอร์คัตซ้ายเข้าอีกที แล้วขวาตรงส่งท้าย เทอดศักดิ์ ร่วงลงไปนอน คราวนี้กรรมการดูสภาพแล้วไม่นับหันไปยกมือให้ ซาลิโด ชนะคว้าเข็มขัดแชมป์เฉพาะกาลไปแบบน้ำลายเหนียว ส่วน “ไอ้พิตบูลล์” ของเราไปไฟต์นี้กะไปเก็บเงินครั้งสุดท้าย เสียดายที่ไม่ชนะแต่ฟอร์มได้ใจขนาดนี้ทางผู้สนับสนุนเลยประกาศพร้อมสนับสนุนต่อแน่นอน
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
กำลังชั่งใจว่าจะย้อนคุยกับแฟนๆ เรื่องของ “ดำดอทคอม” บัวขาว บัญชาเมฆ หรือเรื่องของ “นักชกไร้พ่าย” ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ เพราะทั้งสองไฟต์ก็มีเรื่องที่น่าพูดถึงอยู่พอสมควร อีกทั้งมีนักชกไทยได้ขึ้นสังเวียนอีกรายหนึ่งและเกือบสร้างชื่อดังระดับโลกได้ เลยไม่เขียนถึงไม่ได้แล้วสำหรับ “ไอ้พิตบูลล์” เทอดศักดิ์ ก่อเกียรติยิม
ไฟต์ที่ว่านี้นักชกรุ่นเก๋าของเราได้โอกาสขึ้นชกชิงตำแหน่งแชมป์ “เฉพาะกาล” ของ สถาบันองค์กรมวยโลก WBO เนื่องจากแชมป์ตัวจริงชาวสหรัฐฯเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งถ้าชนะได้แชมป์มาก็มีศักดิ์ศรีเสมอแชมป์โลกตัวจริงเหมือนกัน แต่ต้องเดินทางไปชกถึงเม็กซิโก พบนักชกเจ้าถิ่น ออร์แลนโด ซาลิโด รุ่นซูเปอร์เฟเธอร์เวท 130 ปอนด์
ซาลิโด แฟนๆ คงจำได้ว่าเป็นนักชกที่ช่วยให้สถิติชก 3 ครั้งได้แชมป์โลกของ “น้าแสบ” แสนศักดิ์ เมืองสุรินทร์ ของเรายังไม่ถูกทำลายลงไป เพราะตอนนั้น “ไฮ-เทค” วาซีล โลมาเชนโก ขึ้นชิงตำแหน่งกับ ซาลิโด ในการชกอาชีพไฟต์ที่ 2 แต่ถูกความเก๋าของ ซาลิโด ปล่อยน้ำหนักเกินยอมตกตาชั่ง แล้วอาศัยความใหญ่กว่าเบียดลากเกมยาวจน โลมาเชนโก แก้เกมไม่ออก สุดท้ายแพ้คะแนนไป ซาลิโด ก็เสียแชมป์แบบตกตาชั่ง แต่ โลมาเชนโก ก็ไม่ได้แชมป์ สถิติของ “ไอ้แสบ” เลยอยู่ยงคงกระพัน ก่อนที่ โลมาเชนโก จะมาทำสถิติทาบได้เมื่อขึ้นชกไฟต์ถัดมาและคว้าแชมป์สมใจ
ไฟต์กับ “ไอ้พิตบูลล์” ของเราไฟต์นี้เปิดมาแค่นาทีแรก เทอดศักดิ์ ก็จิ้มซ้ายเต็มโหนกแก้ม ซาลิโด ส่งลงไปฟังกรรมการนับ 8 แต่ถัดมาอีกนาทีเดียว ซาลิโด ก็โชว์ลูกตุกติก จ้วงขวาเข้าใต้เข็มขัดส่งนักชกไทยลงไปนั่ง แต่กรรมการมองไม่เห็นและนับ เทอดศักดิ์ เราบ้าง พอมายก 2 ซาลิโด เดินมากขึ้น แต่ท้ายยกโดนหมัดของ เทอดศักดิ์ เราร่วงลงไปพิงเชือกทำท่าเหมือนจะไม่ลุก โดนนับ 8 ไปอีกทีลุกขึ้นมาก็หมดยกพอดี จากนั้นยก 3 ก็ยังแลกกันอย่างเมามัน แถมยก 4 ซาลิโด ส่ง เทอดศักดิ์ เราลงไปให้กรรมการนับ 8 ได้อีกที เรียกว่าแลกนับกันอุตลุด
ยก 5 นักชกไทยจ้วงซ้ายเข้าเต็มกราม ซาลิโด ได้อีก เดือดร้อนกรรมการต้องนับ 8 อีกรอบ แต่พอยก 6 นักชกเจ้าถิ่นไล่ยำ “ไอ้พิตบูลล์” ของเราจวนเจียนไปเจียนอยู่ เหลืออีก 3 วินาทีกรรมการโดดเข้าขวาง เล่นเอานักชกไทยงง ส่วนพี่เลี้ยงเจ้าถิ่นขึ้นมาเฮ เพราะนึกว่ากรรมการยุติการชกแล้ว แต่ปรากฏว่ากรรมการหูแว่วได้ยินเสียงระฆังทั้งที่ยังไม่ตี ต้องกลับมาชกกันต่ออีกคนละหมัดแล้วก็หมดยก พอยก 7 นักชกไทยกำลังเล่นเชือกเพลินๆ ปรากฏว่า โดนหมัดเข้าเต็มๆ ร่วงไปนั่งพิงเชือก กรรมการนับถึง 8 แล้วชกต่อได้ รวมเป็น 7 นับไปแล้ว
จากนั้นนักชกไทยเราก็เริ่มโรย เพราะรับมาเยอะเหลือเกิน ตาบวมปูดทั้งสองข้าง ข้างนักชกเจ้าถิ่นก็โหนกแก้มบวมเป่ง แต่ได้ลูกฮึดเดินใส่เน้นๆ จนยก 11 ต้นยกแค่ 16 วินาที ซาลิโด สบโอกาสฮุกซ้ายเข้าเต็มกราม ก่อนต่อด้วยขวา แล้วอัปเปอร์คัตซ้ายเข้าอีกที แล้วขวาตรงส่งท้าย เทอดศักดิ์ ร่วงลงไปนอน คราวนี้กรรมการดูสภาพแล้วไม่นับหันไปยกมือให้ ซาลิโด ชนะคว้าเข็มขัดแชมป์เฉพาะกาลไปแบบน้ำลายเหนียว ส่วน “ไอ้พิตบูลล์” ของเราไปไฟต์นี้กะไปเก็บเงินครั้งสุดท้าย เสียดายที่ไม่ชนะแต่ฟอร์มได้ใจขนาดนี้ทางผู้สนับสนุนเลยประกาศพร้อมสนับสนุนต่อแน่นอน
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *