ASTV ผู้จัดการรายวัน – ศึกรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก 2014 ครึ่งฤดูกาลหลัง ทุกรุ่น เตรียมกลับมาฟาดฟันบนแทร็กกันต่อในอีก 9 สนามที่เหลือ โดยเริ่มต้นช่วงสุดสัปดาห์นี้วันที่ 10 สิงหาคม 2557 รายการ “ยูเอส กรังด์ ปรีซ์” ที่สหรัฐอเมริกา ยาวไปจนถึง บาเลนเซีย กรังด์ ปรีซ์ วันที่ 9 พฤศจิกายน โดยอีกหนึ่งไฮไลต์นอกจากการไล่ล่าแชมป์ของฝั่งรุ่นใหญ่ โมโตจีพี คือ การลุ้น ฐิติพงศ์ วโรกร นักบิดหนึ่งเดียวของไทยในเวที โมโตทู เก็บแต้มแรกเข้ากระเป๋าให้ได้
การชิงชัยความเร็ววงการสองล้อ ฤดูกาล 2014 นับเป็นฤดูกาลแรกที่ ฐิติพงศ์ หรือที่รู้จักกันดีว่า “ติ๊งโน้ต” ได้ลงแข่งในรุ่น โมโตทู อย่างเต็มตัว หลังชิมลางมาแล้วในช่วงครึ่งฤดูกาลหลังของปีที่แล้ว กับทีม เกรซินี แทนที่ของ “ฟีม” รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ ที่หันไปบิดรายการ ซูเปอร์ไบค์ โดยปีนี้ ฐิติพงษ์ ซบตัก ฮอนด้า พีทีที แซ็ก หรือ สตอป แอนด์ โก ภายใต้การดูแลของ มร.เอดูอาร์โด เปราเลส ทีมบอสชาวสเปน และมี อเล็กซ์ รอสซี นักบิดจากฝรั่งเศสเป็นคู่หู
ผ่านพ้นไป 9 สนามแรก ปรากฏว่าผลงานของ “ติ๊งโน้ต” ยังไม่น่าประทับใจนัก หลังทำได้เพียงประคับประคองรถเข้าเส้นชัยตั้งแต่อันดับ 20 ลงมา โดยพลาดล้มที่สนาม เลอ มังส์ ฝรั่งเศส ทำให้จบฤดูกาลแรกยังไม่มีแต้มติดมือ ซึ่งเจ้าตัวก็เปิดใจถึงสาเหตุว่าเป็นเพราะยังไม่คุ้นชินกับสนามและระบบเครื่องยนต์ที่แรงและยกระดับขึ้นจากสมัยลงแข่งเวทีเอเชีย ทำให้ต้องมีการเรียนรู้ทักษะและปรับจูนการทำงานกับต้นสังกัดใหม่ทั้งหมด
นักบิดวัย 24 ปี เล่าว่า “การแข่งขันใน โมโตทู แตกต่างจากสนามที่ผมเคยลงแข่งชิงแชมป์เอเชียพอสมควร โดยเฉพาะเรื่องรถที่มีน้ำหนักมากกว่าปกติทำให้ต้องฟิตร่างกายหนักกว่าที่ทำอยู่ปกติ แต่ก็ยังรู้สึกไม่พอเพราะเห็นได้ชัดว่าเวลาเข้าโค้งยังดึงตัวเองขึ้นมาไม่ได้ แม้จะใช้เฟรม คาเล็กซ์ ซึ่งถือเป็นเฟรมที่เบากว่า ขณะเดียวกัน 9 เรซที่ผ่านมา ผมต้องทำการบ้านหาข้อมูลเยอะมาก เพราะยังไม่คุ้นเคยและลงแข่งมาก่อน เลยตั้งเป้าขั้นแรกไว้ที่ว่าแข่งให้จบทุกสนามเป็นหลัก”
ขณะที่ มร.เอดูอาร์โด เปราเลส ทีมบอสประจำค่าย กล่าวเสริมว่า “ตั้งแต่วันที่ ติ๊งโน้ต เข้ามาอยู่กับทีมวันแรก ผมและทีมงานต้องช่วยกันแนะนำเทคนิคการขับขี่และทักษะขั้นพื้นฐานตั้งแต่ต้น ส่วนหนึ่งคือเจ้าตัวยังไม่มีประสบการณ์ในระดับ โมโตทู มากนัก แถมเริ่มช้ากว่าคนอื่น เพราะนักบิดส่วนใหญ่ที่ลงแข่งรายการนี้เริ่มฝึกทักษะควบคุมรถกันตั้งแต่อายุ 5 ขวบ แต่เจ้าตัวมาลงรถจักรยานยนต์แบบจริงจังตอนเป็นวัยรุ่น ดังนั้นต้องใช้เวลาอีกสักหน่อยจึงจะเข้าที่เข้าทาง”
“ผมจำได้ช่วงเริ่มต้น ติ๊งโน้ต มีปัญหาอยู่ที่การเข้าโค้งซึ่งยังดูไม่เป็นธรรมชาติ ลำตัวไม่แนบพื้น ขณะเดียวกัน เราก็ลองให้เขาซ้อมบนพื้นผิวสนามเปียกแฉะ เห็นได้ว่ายังไม่กล้าเร่งมาก แต่โชคดีที่เขาเป็นนักบิดที่ดี ตั้งใจฟังคำแนะนำของทีมงานทุกคนและสนใจหาความรู้อยู่เสมอ ทำให้เรียนรู้ได้เร็วและเมื่อลงสนามก็ทำผลงานได้ดีพอสมควรจากการประเมินในสายตาของผม” ทีมบอสใหญ่เลือดกระทิงดุ กล่าว
ขณะที่การใช้ชีวิตในต่างประเทศ นักบิดหนุ่มชาวไทย เผยว่าส่วนใหญ่จะปักหลักอยู่ที่ สเปน ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของทีมต้นสังกัด พร้อมกับไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอ ด้านอาหารการกินก็มีหอบเอามาเองจากที่เมืองไทย หรือสลับทานอาหารท้องถิ่นบ้าง นอกจากนี้ ยังมีการติดต่อพูดคุยกับครอบครัวอยู่เสมอ “ช่วงแรกที่มาก็รู้สึกเหงาบ้าง เพราะส่วนมากจะอยู่กับทีมงานต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ แต่หลังจากปรับตัวได้บวกกับกำลังใจจากครอบครัวก็ทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้น”
สุดท้าย นักบิดเลือดไทยตั้งเป้าหมายขอรีบูตตัวเองเป็น “ซูเปอร์โน้ต” ปลดล็อกแต้มแรกในครึ่งฤดูกาลหลัง เพื่อพิสูจน์ตัวเองและตอบแทนความไว้วางใจที่ ฮอนด้า และ แซ็ก สองต้นสังกัดมอบโอกาส “จากนี้ที่มองไว้คือสนามที่ อินเดียนาโปลิส กับ เซปัง เซอร์กิต ต้องมีแต้มให้ได้ เพราะเป็นสนามที่คุ้นเคยและถนัด ส่วนที่เหลือก็ตั้งเป้าจบท็อป 20 ขึ้น โดยที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าการลงแข่งระดับ โมโตทู ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะมีนักบิดฝีมือดีจำนวนมากที่ต้องการทำผลงานบนแทร็คให้ดีเพื่อลุ้นก้าวขึ้นไปแข่งรุ่นใหญ่ แต่เมื่อ ฮอนด้า และ แซ็ก ได้มอบโอกาสให้ผมเติมเต็มความฝันตั้งแต่เด็ก ดังนั้นขอสู้เต็มที่แน่นอน”
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *