คอลัมน์ “สกอร์บอร์ด” โดย “แมวดำ”
นับตั้งแต่การรวมตัวของผู้ประกอบการโทรทัศน์ผ่านสายเคเบิล ระดับท้องถิ่นทั่วประเทศกว่า 100 ราย เมื่อปี 2552 กลายร่างเป็นบริษัท เคเบิลไทยโฮลดิง จำกัด ในปี 2553 และจดทะเบียนเป็นบริษัทมหาชนในปี 2555 ก็ได้รับการจับตามองมาโดยตลอด จากนั้นเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ซีทีเอช จำกัด (มหาชน) ในปี 2556 จากการเติบโตที่รวดเร็วด้วยผู้ถือหุ้นหลักอันอุดมในด้วยขาใหญ่ในวงการธุรกิจไทย ทั้งเครือโรงพยาบาลใหญ่, หนังสือพิมพ์ไทยยอดขายสูงสุด และ ค่ายเพลงดัง ซึ่งย่างก้าวที่ทุกคนในประเทศได้แต่มองตาไม่กะพริบ คือ การเป็นผู้ถือลิขสิทธิ์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในประเทศไทย, ลาว และ กัมพูชา เป็นระยะเวลา 3 ฤดูกาล ระหว่างฤดูกาล 2013 - 2016 ซึ่งว่ากันว่ากว่าจะคว้าชัยชนะมาได้ต้องทุ่มเงินนับหมื่นล้านบาทในการศึกครั้งนี้ พร้อมกับการประกาศเป็นเพียงหนึ่งเดียวหากแฟนกีฬาต้องการชมลีกลูกหนังใหญ่ขอเชิญได้ที่กล่อง “ซีทีเอช” ที่เดียว
ผลปรากฏว่าเรียกเสียงเฮลั่นจากบรรดาคอบอลพรีเมียร์ลีก เมื่อได้ยินราคาค่าสมาชิกจ่ายรายเดือนๆ ละ 899 บาทและถ้าจ่ายล่วงหน้า 2 ปี หรือ 24 เดือน เป็นจำนวนเงิน 21,579 บาท จะได้ดูฟรี 1 ปี หรือเท่ากับจะได้ดูไปอีก 3 ปีครบระยะเวลาที่ “ซีทีเอช” ได้ลิขสิทธิ์จากพรีเมียร์ลีกครบทุกแมตช์ เฉลี่ยออกมาแล้วเดือนละ 599 บาท ถูกกว่าเห็นๆ เมื่อเทียบกับเจ้าของลิขสิทธิ์เดิมอย่าง “ทรูวิชั่นส์” งานนี้ลูกค้าแห่แหนไปบอกเลิกเจ้าเก่า เพื่อติดตั้งจานกับเจ้าใหม่กันจ้าละหวั่น
อย่างไรก็ตาม ด้วยความใหม่สด แต่ขาดประสบการณ์ระดับชาติในการจัดการปัญหาหรืออย่างไรไม่ทราบ กล่อง “ซีทีเอช” ในปัจจุบันจึงมีปัญหาการร้องเรียนจากผู้บริโภคมากมาย ยกตัวอย่างผมเข้าไปดูในกล่องข้อความในแฟนเพจของ CTH We Share มีลูกค้ารายหนึ่งตำหนิการให้บริการว่า “แฟกซ์ ยกเลิกสมาชิกไปตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2557 แต่ไม่ยอมตัดสัญญาณ พอโทรศัพท์ไปบอก เจ้าหน้าที่แจ้งว่าต้องแจ้งล่วงหน้า 1 เดือน แต่ลูกค้าซื้อแพกเกจ 1 ปี เมื่อครบสัญญาแล้วทำไมยังปล่อยให้ล่วงเลยอยู่อีก”
ส่วนลูกค้าอีกรายก็หัวเสียไม่แพ้กัน “เจ้าหน้าที่ CTH ขออภัยในความล่าช้าที่จะดำเนินการ ตอนนี้ผ่านไปตั้งแต่คุณเริ่มขออภัยจนครบ 11 วันแล้ว เจ้าหน้าที่สักคนก็ไม่เห็นโทรศัพท์มา วิญญาณเจ้าหน้าที่คุณก็ไม่เอามาให้เห็น สรุปคุณจะบอกว่า คุณจะไม่เอาเงินแล้วใช่ไหม บิลเรียกเก็บเงินก็ไม่เห็นมาร่วม 10 เดือน จนวันนี้ ผมได้บิลใบเดียว ที่เหลือต้องเป็นห่วงแทนคุณตามไปถามถึงศูนย์ยอดค้างจ่ายก็มั่ว ที่จ่ายไปแล้วบอกไม่ได้จ่าย ต้องให้ผมหาบิลย้อนหลังไปแสดง ติดต่อไปอีกก็ไม่ได้ความคืบหน้าอะไร ตกลงว่าคุณจะเอายังไงกับผม หรือไม่เอาเงินแล้ว นี่ผมประกาศเพื่อให้คุณเคลียร์ปัญหา จะได้ล้างหนี้กัน จะได้จบกันไป ขอบอกนะครับ ว่ายอดตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2557 ผมจะไม่จ่ายสักบาท แต่จะจ่ายยอดก่อนหน้าจนหมด ถ้าไม่เอาเงินก็สุดแล้วแต่คุณ ไม่ต้องไปหาลูกค้าใหม่หรอกครับ ลูกค้าที่พยายามจะจ่ายเงินรายเก่าคนนี้คุณยังไม่สนใจปัญหา ยิ่งมีลูกค้าเยอะ ปัญหายิ่งเยอะ คุณคงดูแลไม่ได้เป็นแน่”
นั่นอาจจะถูกมองว่าเป็นปัญหาใหญ่ของ “ซีทีเอช” แล้วแต่ ล่าสุดการประกาศจับมือกับ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เพื่อมอบลิขสิทธิ์ถ่ายทอดพรีเมียร์ลีกไปลงกล่อง “เฮียฮ้อ” พร้อมกับการขายแพกเกจรายเดือน 180 บาท และ 249 บาท ตามแต่กล่อง เพื่อชมลีกยอดนิยมแดนผู้ดีนี่แหละที่จี๊ดใจชาวบ้านชาวช่อง จนเป็นที่มาว่าเขาอยากจะขว้างกล่องสีฟ้าของ “ซีทีเอช” ทิ้งเสียเต็มประดา ก็ทำไมนะหรือ มันถูกกว่านะสิ ทำแบบนี้ลูกค้าผู้ซื่อสัตย์ที่สวามิภักดิ์ตั้งแต่แรกก็ได้แต่กลืนเลือดลงคอดังเอื้อกใหญ่เลยหละครับ
พูดไปพูดมาผมละนึกถึงตอนหนึ่งของหนังไทยร้อยล้านที่ชื่อว่า “คิดถึงวิทยา” ซึ่งช่วงหนึ่งนางเอกของเรื่องอธิบายความเหงาของการต้องมาเป็นครูสอนในโรงเรียนกลางน้ำอันเปลี่ยวเปล่าว่า “ถูกทิ้งวิทยา” ผมว่ากรณีนี้ลูกค้าของ “ซีทีเอช” ก็คงมีความรู้สึกไม่ต่างจากพระนางในเรื่องนี้เป็นแน่...
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
นับตั้งแต่การรวมตัวของผู้ประกอบการโทรทัศน์ผ่านสายเคเบิล ระดับท้องถิ่นทั่วประเทศกว่า 100 ราย เมื่อปี 2552 กลายร่างเป็นบริษัท เคเบิลไทยโฮลดิง จำกัด ในปี 2553 และจดทะเบียนเป็นบริษัทมหาชนในปี 2555 ก็ได้รับการจับตามองมาโดยตลอด จากนั้นเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ซีทีเอช จำกัด (มหาชน) ในปี 2556 จากการเติบโตที่รวดเร็วด้วยผู้ถือหุ้นหลักอันอุดมในด้วยขาใหญ่ในวงการธุรกิจไทย ทั้งเครือโรงพยาบาลใหญ่, หนังสือพิมพ์ไทยยอดขายสูงสุด และ ค่ายเพลงดัง ซึ่งย่างก้าวที่ทุกคนในประเทศได้แต่มองตาไม่กะพริบ คือ การเป็นผู้ถือลิขสิทธิ์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในประเทศไทย, ลาว และ กัมพูชา เป็นระยะเวลา 3 ฤดูกาล ระหว่างฤดูกาล 2013 - 2016 ซึ่งว่ากันว่ากว่าจะคว้าชัยชนะมาได้ต้องทุ่มเงินนับหมื่นล้านบาทในการศึกครั้งนี้ พร้อมกับการประกาศเป็นเพียงหนึ่งเดียวหากแฟนกีฬาต้องการชมลีกลูกหนังใหญ่ขอเชิญได้ที่กล่อง “ซีทีเอช” ที่เดียว
ผลปรากฏว่าเรียกเสียงเฮลั่นจากบรรดาคอบอลพรีเมียร์ลีก เมื่อได้ยินราคาค่าสมาชิกจ่ายรายเดือนๆ ละ 899 บาทและถ้าจ่ายล่วงหน้า 2 ปี หรือ 24 เดือน เป็นจำนวนเงิน 21,579 บาท จะได้ดูฟรี 1 ปี หรือเท่ากับจะได้ดูไปอีก 3 ปีครบระยะเวลาที่ “ซีทีเอช” ได้ลิขสิทธิ์จากพรีเมียร์ลีกครบทุกแมตช์ เฉลี่ยออกมาแล้วเดือนละ 599 บาท ถูกกว่าเห็นๆ เมื่อเทียบกับเจ้าของลิขสิทธิ์เดิมอย่าง “ทรูวิชั่นส์” งานนี้ลูกค้าแห่แหนไปบอกเลิกเจ้าเก่า เพื่อติดตั้งจานกับเจ้าใหม่กันจ้าละหวั่น
อย่างไรก็ตาม ด้วยความใหม่สด แต่ขาดประสบการณ์ระดับชาติในการจัดการปัญหาหรืออย่างไรไม่ทราบ กล่อง “ซีทีเอช” ในปัจจุบันจึงมีปัญหาการร้องเรียนจากผู้บริโภคมากมาย ยกตัวอย่างผมเข้าไปดูในกล่องข้อความในแฟนเพจของ CTH We Share มีลูกค้ารายหนึ่งตำหนิการให้บริการว่า “แฟกซ์ ยกเลิกสมาชิกไปตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2557 แต่ไม่ยอมตัดสัญญาณ พอโทรศัพท์ไปบอก เจ้าหน้าที่แจ้งว่าต้องแจ้งล่วงหน้า 1 เดือน แต่ลูกค้าซื้อแพกเกจ 1 ปี เมื่อครบสัญญาแล้วทำไมยังปล่อยให้ล่วงเลยอยู่อีก”
ส่วนลูกค้าอีกรายก็หัวเสียไม่แพ้กัน “เจ้าหน้าที่ CTH ขออภัยในความล่าช้าที่จะดำเนินการ ตอนนี้ผ่านไปตั้งแต่คุณเริ่มขออภัยจนครบ 11 วันแล้ว เจ้าหน้าที่สักคนก็ไม่เห็นโทรศัพท์มา วิญญาณเจ้าหน้าที่คุณก็ไม่เอามาให้เห็น สรุปคุณจะบอกว่า คุณจะไม่เอาเงินแล้วใช่ไหม บิลเรียกเก็บเงินก็ไม่เห็นมาร่วม 10 เดือน จนวันนี้ ผมได้บิลใบเดียว ที่เหลือต้องเป็นห่วงแทนคุณตามไปถามถึงศูนย์ยอดค้างจ่ายก็มั่ว ที่จ่ายไปแล้วบอกไม่ได้จ่าย ต้องให้ผมหาบิลย้อนหลังไปแสดง ติดต่อไปอีกก็ไม่ได้ความคืบหน้าอะไร ตกลงว่าคุณจะเอายังไงกับผม หรือไม่เอาเงินแล้ว นี่ผมประกาศเพื่อให้คุณเคลียร์ปัญหา จะได้ล้างหนี้กัน จะได้จบกันไป ขอบอกนะครับ ว่ายอดตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2557 ผมจะไม่จ่ายสักบาท แต่จะจ่ายยอดก่อนหน้าจนหมด ถ้าไม่เอาเงินก็สุดแล้วแต่คุณ ไม่ต้องไปหาลูกค้าใหม่หรอกครับ ลูกค้าที่พยายามจะจ่ายเงินรายเก่าคนนี้คุณยังไม่สนใจปัญหา ยิ่งมีลูกค้าเยอะ ปัญหายิ่งเยอะ คุณคงดูแลไม่ได้เป็นแน่”
นั่นอาจจะถูกมองว่าเป็นปัญหาใหญ่ของ “ซีทีเอช” แล้วแต่ ล่าสุดการประกาศจับมือกับ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เพื่อมอบลิขสิทธิ์ถ่ายทอดพรีเมียร์ลีกไปลงกล่อง “เฮียฮ้อ” พร้อมกับการขายแพกเกจรายเดือน 180 บาท และ 249 บาท ตามแต่กล่อง เพื่อชมลีกยอดนิยมแดนผู้ดีนี่แหละที่จี๊ดใจชาวบ้านชาวช่อง จนเป็นที่มาว่าเขาอยากจะขว้างกล่องสีฟ้าของ “ซีทีเอช” ทิ้งเสียเต็มประดา ก็ทำไมนะหรือ มันถูกกว่านะสิ ทำแบบนี้ลูกค้าผู้ซื่อสัตย์ที่สวามิภักดิ์ตั้งแต่แรกก็ได้แต่กลืนเลือดลงคอดังเอื้อกใหญ่เลยหละครับ
พูดไปพูดมาผมละนึกถึงตอนหนึ่งของหนังไทยร้อยล้านที่ชื่อว่า “คิดถึงวิทยา” ซึ่งช่วงหนึ่งนางเอกของเรื่องอธิบายความเหงาของการต้องมาเป็นครูสอนในโรงเรียนกลางน้ำอันเปลี่ยวเปล่าว่า “ถูกทิ้งวิทยา” ผมว่ากรณีนี้ลูกค้าของ “ซีทีเอช” ก็คงมีความรู้สึกไม่ต่างจากพระนางในเรื่องนี้เป็นแน่...
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *