“ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พิชิต “ราชันชุดขาว” รีล มาดริด 3-1 การเหมา 2 ประตูของ แอชลีย์ ยัง ก่อน ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ ศูนย์หน้าเม็กซิกัน ซัดปิดท้าย ตีตั๋วสู่รอบชิงชนะเลิศ ศึก อินเตอร์เนชันแนล แชมเปียนส์ คัพ พบ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 2 สิงหาคมที่ผ่านมา
ฟุตบอล อินเตอร์เนชันแนล แชมเปียนส์ คัพ กลุ่มเอ
แมนฯ ยูไนเต็ด 3-1 รีล มาดริด
หลุยส์ ฟาน กัล กุนซือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จัดทัพแบบฟูลทีม วาง ฆวน มาตา, แดนนี เวลเบ็ค และ เวย์น รูนีย์ เป็น 3 ประสานแนวรุก มอบหมาย ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ ทำหน้าที่กัปตันทีม รับมือ รีล มาดริด ที่สนามมิชิแกน สเตเดียม มลรัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยต้องการชนะจุดโทษเป็นอย่างน้อย เพื่อตีตั๋วสู่รอบชิงชนะเลิศ วันที่ 4 ส.ค.
เสียงนกหวีดดังขึ้น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกไหลลื่นกว่า ก่อนปลดล็อกนาที 21 ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ ทำชิ่งกับ เวย์น รูนีย์ ไหลเข้ากลางมาให้ แดนนี เวลเบ็ก แทงมาเขตโทษด้านซ้าย แอชลีย์ ยัง ตะบันเรียดยัดเสาแรก ผ่านมือ อิเคร์ คาซิบาส ซุกก้นตาข่าย ต่อมา 5 นาที รีล มาดริด เอาคืนทันควัน แกเร็ธ เบล กระชากหนี ไมเคิล คีน เข้าเขตโทษด้านซ้าย แล้วถูกเหนี่ยวล้มลง ผู้ตัดสินเป่าฟาวล์ เบล สังหารเองไม่พลาด
เกมเริ่มแลกกันสนุก เข้าสู่นาที 35 “ราชันชุดขาว” ได้เสียว อิสโก หลุดมาทางกราบซ้าย แล้วโยนเข้ากลาง แกเร็ธ เบล จักรยานอากาศ ดาบิด เด เคอา ล้มตัวคว้าอยู่หมัด ถัดมา 2 นาที “ปิศาจแดง” ออกนำอีกครั้ง แบบมีโชคช่วยเล็กน้อย แอชลีย์ ยัง ตั้งป้อมเปิดโค้งจากซ้าย เวย์น รูนีย์ วิ่งโฉบมาโหม่งแต่ไม่โดน บอลเสียบโคนเสาไกลอย่างสุดสวย จากนั้นทั้งคู่ทำอะไรกันไม่ได้ ครบ 45 นาที แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นำ 2-1
ลุยต่อครึ่งหลัง ทีมของ คาร์โล อันเชล็อตติ เร่งเครื่องตั้งแต่ต้น แต่มาพลาดโอกาสทองถึง 2 ครั้ง เริ่มจากนาที 48 แกเร็ธ เบล คล้องบอลหลบ ไมเคิล คีน ผ่านเรียดจากซ้ายเข้ากลาง อิสโก จับหนึ่งจังหวะก่อนแปเน้นๆ แฉลบ ฟิล โจนส์ บอลลอยเข้ามือ ดาบิด เด เคอา ต่อมานาที 56 เบล ปั่นฟรีคิกหน้าเขตโทษด้านขวา บอลโค้งข้ามกำแพงฮุกลงชนโคนเสาแรกออกหลัง
ทีมของ หลุยส์ ฟาน กัล เริ่มตั้งเกมติด และน่าทิ้งห่างนาที 76 เจสซี ลินการ์ด จ่ายถวายพานจากขวาเข้ากลาง “ถั่วน้อย” เหยียดสุดปลายเท้ายิงระยะเผาขน แต่โดนไม่เต็ม บอลหลุดเสาไกล ก่อนความพยายามสัมฤทธิ์ผลนาที 80 คากาวะ บรรจงหยอดมาทางเขตโทษด้านซ้าย “ชิชาริโต” ทิ้งตัวโหม่งสวน คาซิยาส เสียบมุมเสาไกล จบเกม แมนฯ ยูไนเต็ด เอาชนะไป 3-1 เก็บเพิ่มเป็น 8 แต้ม จาก 3 นัด คว้าแชมป์กลุ่ม เอ
ผลการแข่งขันอีกคู่หนึ่งสายเดียวกัน ที่สนามลินคอล์น ไฟแนนเชียล ฟิลด์ เมืองฟิลาเดลเฟีย อินเตอร์ มิลาน พิชิต โรมา 2-0 จากประตูของ เนมันยา วิดิช เซ็นเตอร์แบ็กจอมเก๋าชาวเซิร์บ นาที 45 และ ยูโตะ นากาโตโมะ ฟูลแบ็กดีกรีทีมชาติญี่ปุ่น นาที 69 เก็บเพิ่มเป็น 5 แต้ม จาก 3 นัด ไม่เพียงพอต่อการเข้ารอบชิงฯ
ส่วนการฟาดแข้งคู่แรกของกลุ่มบี ณ สนาม ทีซีเอฟ แบงก์ สเตเดียม เมืองมินเนียโปลิส รัฐมินเนโซตา แมนเชสเตอร์ ซิตี ออกนำทั้ง 2 ครั้ง จาก สเตฟาน โยเวติช น. 35 และ อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ น.53 (จุดโทษ) แต่ก็ถูก โอลิมเปียกอส ตามตีเสมอ โดย ดิมิทรอส เดียมานทากอส น.37 และ 66 จบเกม เสมอกัน 2-2 ต้องหาผู้ชนะด้วยการดวลจุดโทษ
ปรากฏว่าทั้งคู่ต้องวัดกันถึงช่วง ซัดเดน เดธ (ใครพลาดแพ้) โดย ไมกาห์ ริชาร์ดส (คนที่ 6) ซัดข้ามคานแบบไม่มีลุ้น ก่อน ธานาซิส ปาซาโซกลู สังหารตุงตาข่าย ช่วยยักษ์ใหญ่จากประเทศกรีซ เอาชนะไป 5-4 กอดคอกันตกรอบ พร้อมส่ง ลิเวอร์พูล พบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่สนาม ซันไรส์ สเตเดียม เมืองไมอามี มลรัฐฟลอริดา วันจันทร์ที่ 4 สิงหาคมนี้
รายชื่อ 11 ตัวจริง
แมนฯ ยูไนเต็ด : ดาบิด เด เคอา , ไมเคิล คีน , ฟิล โจนส์ , จอนนี อีแวนส์ , อันโตนิโอ วาเลนเซีย , อันเดร์ เอร์เรรา , ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ , แอชลีย์ ยัง , ฆวน มาตา , เวย์น รูนีย์ , แดนนีเวลเบ็ค
รีล มาดริด : อิเคร์ คาซิยาส , อัลบาโร อาร์เบลัว , เปเป้ , เซร์คิโอ รามอส , นาโช , ดาเนียล คาร์บาฆัล , ลูกา โมดริช , ชาบี อลอนโซ , อาเซียร์ อิยาร์ราเมนดี , แกเร็ธ เบล , อิสโก
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
