“ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พลิกเอาชนะ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ซึ่งขึ้นนำก่อนโดยจุดโทษของ สตีเวน เจอร์ราร์ด กัปตันทีม 3-1 จากประตูของ เวย์น รูนีย์, ฆวน มาตา และ เจสซี ลินการ์ด คว้าแชมป์ทัวร์นาเมนต์อุ่นเครื่อง “กินเนสส์ อินเตอร์เนชันแนล แชมเปียนส์ คัพ 2014” ที่สนามซันไรส์ สเตเดียม เมืองไมอามี ช่วงเช้าวันอังคารที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา
ฟุตบอล อินเตอร์เนชันแนล แชมเปียนส์ คัพ รอบชิงชนะเลิศ
แมนฯ ยูไนเต็ด 3-1 ลิเวอร์พูล
หลุยส์ ฟาน กัล กุนซือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จัดขุมกำลังชุดใหญ่ครบครัน นำโดย เวย์น รูนีย์, ฆวน มาตา และ ฮาเวียร์ เฮร์นานเดซ เป็น 3 ประสานแนวรุก และ ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ กับ อันเดร์ เฮร์เรรา คุมกลาง รับมือ ลิเวอร์พูล ซึ่งวาง ริคกี แลมเบิร์ต จับมือ ราฮีม สเตอร์ลิง และ ฟิลิปเป คูตินโญ ล่าตาข่าย พร้อม สตีเวน เจอร์ราร์ด รับบทจอมทัพ
เสียงนกหวีดดังขึ้นเพียง 5 นาที แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทักทายน่ากลัว แอชลีย์ ยัง เปิดจากซ้ายมาเสาสอง ฮาเวียร์ เฮร์นานเดซ ได้ชาร์ตจ่อๆ แต่โดนไม่เต็ม มามาดู ซาโก เคลียร์ไว้ทัน ถัดมา 3 นาที ลิเวอร์พูล ได้ลุ้นบ้าง สตีเวน เจอร์ราร์ด หยอดฟรีคิกระยะประมาณ 25 หลา เจาะตรงกลาง “ชิชาริโต” โขกสกัดไม่ดี บอลย้อยตกใส่หัว จอร์แดน เฮนเดอร์สัน โหม่งไม่ตรงกรอบ
เข้าสู่นาที 13 “หงส์แดง” ปลดล็อกสำเร็จ ราฮีม สเตอร์ลิง สปีดรับบอลทะลุช่องทางเขตโทษด้านซ้าย แต่ถูก ฟิล โจนส์ พุ่งเสียบล้มลง ผู้ตัดสินเป่าฟาวล์ สตีเวน เจอร์ราร์ด ยิงเรียดเสียบมุมซ้ายมือ ต่อมานาที 24 ทีมจากย่านเมอร์ซีย์ไซด์ ได้เสียว มาร์ติน เคลลี หยอดจากขวาสั้นๆ ฟิลิปเป คูตินโญ แตะหลบ จอนนี อีแวนส์ แล้วกดเรียดบอลพุ่งมาเสาแรก ดาบิด เด เคอา พุ่งปัดออกหลัง
ช่วงท้ายเปอร์เซ็นต์การครองบอลทั้งสองฝ่ายยังดูใกล้เคียงไม่ต่างจากช่วงต้นเกม โดยทีมของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส หาโอกาสจบสกอร์ได้ดีกว่า แม้จะยังหวังผลไม่ได้ขณะที่ ยูไนเต็ด ยังเคาะบอลกลางสนามกันหลายจังหวะ เกมรุกจึงไม่ดุดันเท่าที่ควร ครบ 45 นาที ลิเวอร์พูล ตุนความได้เปรียบ 1-0
ลุยต่อครึ่งหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด ครองบอลมากกว่าช่วงต้น แต่กลายเป็น “เดอะ เรดส์” พลาดโอกาสทองถึง 2 ครั้ง เริ่มจากนาที 48 สตีเวน เจอร์ราร์ด ตัดบอลระยะ 30 หลา หน้าเขตโทษ แล้วไหลมาให้ ริคกี แลมเบิร์ต ตวัดยิงเข้ามือ ดาบิด เด เคอา ต่อมานาที 50 ฟิลิปเป คูตินโญ จ่ายทะลุช่องออกทางซ้าย ราฮีม สเตอร์ลิง ตัดเข้าในแล้วยิงยัดเสาแรกแฉลบ ฟิล โจนส์ หลุดกรอบนิดเดียว
ล่วงเลยมานาที 55 สาวก “เรด เดวิลส์” ส่งเสียงเฮบ้าง ฮาเวียร์ เฮร์นานเดซ โยนจากขวาโค้งมาเสาสอง เวย์น รูนีย์ แปย้อนศรด้วยเท้าซ้ายผ่านมือเสียบโคนเสาไกล ถัดมาแค่ 2 นาที ทีมของ หลุยส์ ฟาน กัล แซงนำ ลุค ชอว์ ตบเข้ากลางจากซ้ายให้ ฆวน มาตา ซัดบริเวณหัวกะโหลกแฉลบบล็อก มามาดู ซาโก เปลี่ยนทางตุงตาข่าย จากนั้น รองแชมป์ พรีเมียร์ ลีก ถูกบีบพื้นที่จนขึ้นเกมไม่ถนัด
ท้ายเกมทั้งคู่ผลัดกันรุกและรับ แต่ก็แทบจะหาจังหวะจบสกอร์กันแบบจะแจ้งไม่ได้ จนถึงนาที 88 “เรด เดวิลส์” ตอกฝาโลง แอชลีย์ ยัง เปิดจากริมเส้นด้านขวาเข้ากลาง ชินจิ คากาวะ จับบอลไม่อยู่มาเข้าทาง เจสซี ลินการ์ด ยิงแบบเน้นๆ ผ่านมือ ซิมง มิโญเลต์ เสียบมุมขวามือ จบเกม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอาชนะไป 3-1 คว้าแชมป์ กินเนสส์ อินเตอร์ เนชันแนล แชมเปียนส์ คัพ ไปครอง
รายชื่อ 11 ตัวจริง
แมนฯ ยูไนเต็ด : ดาบิด เด เคอา , ฟิล โจนส์ , จอนนี อีแวนส์ , คริส สมอลลิง , ฆวน มาตา , แอชลีย์ ยัง , อันเดร์ เฮร์เรรา , ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ , อันโตนิโอ วาเลนเซีย , เวย์น รูนีย์ , ฮาเวียร์ เฮร์นานเดซ
ลิเวอร์พูล : ซิมง มิโญเลต์ , เกล็น จอห์นสัน , มามาดู ซาโก , มาร์ติน เคลลี , มาร์ติน สเคอร์เทล , สตีเวน เจอร์ราร์ด , จอร์แดน เฮนเดอร์สัน , โจ อัลเลน , ริคกี แลมเบิร์ต , ฟิลิปเป คูตินโญ , ราฮีม สเตอร์ลิง
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *