“อินทรีเหล็ก” เยอรมนี ผงาดคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 4 หลังบดเอาชนะ อาร์เจนตินา 1-0 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ จากประตูชัยของ มาริโอ เกิตเซ แนวรุกที่ลงมาเป็นสำรอง ในเกมฟุตบอลโลก 2014 รอบชิงชนะเลิศ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 กรกฎาคมที่ผ่านมา กลายเป็นทีมจากยุโรปทีมแรกที่คว้าแชมป์โลกบนแผ่นดินละติน
ฟุตบอลโลก 2014 รอบชิงชนะเลิศ
อาร์เจนตินา 0-0 เยอรมนี (เยอรมนี ชนะช่วงต่อเวลาพิเศษ 1-0)
“อินทรีเหล็ก” ต้องปรับแผนกะทันหันเมื่อ ซามี เคดิรา ถูกถอดชื่อในนาทีสุดท้าย และต้องให้ คริสโตเฟอร์ คราเมอร์ ดาวรุ่งลงทำหน้าที่แทน ส่วนแนวรุกยังมี มิโรสลาฟ โคลเซ และ โธมัส มุลเลอร์ ส่วน อาร์เจนตินา วาง ลีโอเนล เมสซี, กอนซาโล ฮิกัวอิน และ เอสเซเกล ลาเวซซี เป็นสามประสานแนวรุก
เริ่มต้นในช่วง 20 นาทีแรกเกมเปิดแลกกันสนุก ไม่ได้อุดกันอย่างที่คิด และเป็น “ฟ้า-ขาว” ได้ส้มหล่นมาลุ้นก่อน โทนี โครส โหม่งคืนหลังแบบไม่ดู มี ฮิกัวอิน ยืนรออยู่ ได้วิ่งเข้ามาวอลเลย์เต็มข้อบอลหลุดเสาออกไปเหลือเชื่อ เกมของ อาร์เจนตินา ดีขึ้นและมาได้ลุ้นประตู ลาเวซซี ปาดมาหน้าประตูให้ ฮิกัวอิน เข้าฮอร์สตุงตาข่าย แต่ไลน์แมนยกเป็นล้ำหน้า
แต่แล้วนาที 30 โยอาคิม เลิฟ มีเรื่องปวดหัวอีก คริสโตเฟอร์ คราเมอร์ มาเจ็บอีก ต้องแก้เกมส่ง อังเดร ชูร์เร ลงมาแทน และเกือบจะได้ประตูขึ้นนำ มุลเลอร์ พลิกหลบมาทางฝั่งซ้าย ก่อนจะหักกลับมาให้ ชูร์เร วิ่งเข้ามาแปเน้นๆ กะเล่นเสาแรก เซร์คิโอ โรเมโร ยังทุบทิ้งออกไปได้ นาที 39 เมสซี ลากหนี ฮุมเมิลส์ ก่อนเปิดมาติด นอยเออร์ และเป็น เฌอโรม บัวเต็ง ช่วยเตะทิ้งได้ทัน
นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก เยอรมัน มีลุ้นจากลูดเตะมุม โครส เปิดยาวเข้ามากลางประตู เบเนดิกต์ โฮเวเดส สอดขึ้นมาโขกเต็มหัวบอลพุ่งชนเสาแบบไร้โชค จบครึ่งแรกยังไร้สกอร์
ครึ่งหลังลงมา อเลฮานโดร ซาเบลลา เปลี่ยนเอา ลาเวซซี ออก และใช้ เซร์คิโอ อกูเอโร ลงมาเสิรมแนวรุกแทน และเกือบได้ประตูขึ้นนำ เมสซี หลุดกับดักล้ำหน้าขึ้นมาพลิกเข้าซ้ายข้างถนัดยิงเรียดถากเสาสองออกไปนิดเดียว นาที 59 “อินทรีเหล็ก” ตั้งเกมขึ้นมา ลาห์ม เปิดจากขวาเข้ามาให้ โคลเซ ขึ้นโขกเสาสอง แต่บอลไม่มีน้ำหนัก โรเมโร รับสบาย
นาที 74 เมสซี ฉีกตัวเองมาอยู่ฝั่งขวา และหาจังหวะลากเข้าในก่อนกดด้วยซ้ายบอลโค้งหลุดกรอบออกหลังไป นาที 81 เยอรมนี น่าจะได้ประตูนำสุดๆ โอซิล ลากตัดหลัง โรโย และไหลใส่พานมาให้ โครส วิ่งมายิงหลุดเสาไปอีก ท้ายเกม โคลเซ หยุดสถิติฟุตบอลโลกตัวเองไว้ที่ 16 ประตู หลังถูกเปลี่ยนออกและใช้ มาริโอ เกิตเซ ลงมาแทน จบ 90 นาที ยังเสมอ 0-0
สตาร์ทช่วงทดเจ็บไม่ถึงนาที เกิตเซ ตวัดต่อให้ ชูร์เร วิ่งเข้าซัดด้วยขวา บอลตรงตัว โรเมโร ถูกทุบทิ้งออกมา จากนั้น ฮุมเมิลส์ สกัดบอลพลาด โรดริโก ปาลาซิโอ หลุดมากระดกข้าม นอยเออร์ แต่หลุดออกหลังไปเอง ช่วงครึ่งหลังของการต่อเวลา นาทีที่ 113 ชูร์เร ตัดสินใจกระชากไปเปิดให้ เกิตเซ พักอกวอลเลย์ด้วยซ้ายเข้าหน้าต่างเสาสอง ขึ้นนำ 1-0
ช่วงที่เหลือ อาร์เจนตินา พยายามเดินเกมรุกเขาใส่ แต่สุดท้ายทำไม่สำเร็จ เยอรมนี คว้าชัย 1-0 เป็นแชมป์โลกสมัยที่ 4 ถือเป็นแชมป์โลกในรอบ 24 ปี ต่อจากปี 1954, 1974 และ 1990 แถมยังเป็นทีมชาติจากยุโรปทีมแรก ที่บุกมาคว้าแชมป์โลกที่แผ่นดินอเมริกาใต้
รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม
อาร์เจนตินา : เซร์คิโอ โรเมโร, ปาโบล ซาบาเลตา, มาร์ติน เดมิเคลิส, เอสเซเกล การาย, มาร์กอส โรโย, เอ็นโซ เปเรซ, ฮาเวียร์ มาสเคราโน, ลูคัส บิเกลีย, ลีโอเนล เมสซี, กอนซาโล ฮิกัวอิน, เอสเซเกล ลาเวซซี
เยอรมนี : มานูเอล นอยเออร์, ฟิลิปป์ ลาห์ม, เฌอโรม บัวเต็ง, มัทส์ ฮุมเมิลส์, เบเนดิกต์ โฮเวเดส, บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์, คริสโตเฟอร์ คราเมอร์, โธมัส มุลเลอร์, โทนี โครส, เมซุต โอซิล, มิโรสลาฟ โคลเซ
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *