โจอาคิม เลิฟ กุนซือทีมชาติเยอรมัน ยอมรับรู้สึกเซอร์ไพรส์กับผลงานของลูกทีม “อินทรีเหล็ก” หลังโชว์ฟอร์มถล่ม บราซิล เจ้าภาพ ฟุตบอลโลก รอบรองชนะเลิศแบบยับเยิน 7-1 เมื่อคืนวันที่ 8 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ก่อนลั่นพร้อมเผชิญหน้ากับ อาร์เจนตินา หรือ เนเธอร์แลนด์ ในรอบชิงชนะเลิศ
เกมนี้ โธมัส มุลเลอร์ จัดการซัดเบิกร่องให้ เยอรมนี นำตั้งแต่นาที 11 ก่อนเป็น มิโรสลาฟ โคลเซ, โทนี โครส ที่เหมา 2 ลูก, ซามี เคดิรา และ อังเดร ชูร์เล ที่ยิงอีก 2 ตุงช่วยให้ “อินทรีเหล็ก” กำตั๋วเข้ารอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ แม้ ออสการ์ แข้งเจ้าถิ่นจะยิงตีไข่แตกท้ายเกมแต่ก็ไม่ทันการณ์
โดยหลังจบการแข่งขัน เลิฟ นายใหญ่ เยอรมนี ยอมรับรู้สึกช็อกไม่น้อยกับผลที่ออกมา พร้อมกับเข้าใจว่าแฟนบอลแซมบ้าคงรู้สึกเจ็บปวดที่พลาดเข้าชิง เหมือนกับที่ทีมของตนเคยเจอมาแล้วเมื่อปี 2006 ที่ชาติของตนเป็นเจ้าภาพ แล้วแพ้ อิตาลี ในรอบเดียวกัน 0-2 จนไม่ได้เข้าชิงแชมป์ในที่สุด
“เรารู้สึกช็อกกับสิ่งที่เกิดขึ้น และนั่นก็ถือเป็นประสบการณ์แบบเดียวกับที่เคยเจอเมื่อปี 2006 พวกเขาคงตั้งตัวไม่ถูก และไม่คิดว่าจะเป็นฝ่ายตามหลัง ทว่าจากนั้นมันก็กลายเป็นเกมที่ง่ายสำหรับเราไปเลย” เลิฟ กล่าวต่อ “เรามีความหวังที่ดีเมื่อปี 2006 และรู้สึกกดดันเพียงใดเมื่อต้องลงสนามในฐานะเจ้าภาพ ซึ่งผมเข้าใจดีว่าตอนนี้ สโคลารี และนักเตะรู้สึกอย่างไร”
กุนซือวัย 54 ปี ยังพอใจกับฟอร์มของลูกทีม และเชื่อมั่นว่าพร้อมเผชิญหน้ากับคู่แข่งทุกทีมในรอบชิงชนะเลิศ ไม่ว่าจะได้เจอกับใครก็ตามทั้ง อาร์เจนตินา และ เนเธอร์แลนด์ “การได้ประตูอย่างรวดเร็วถึง 5 ลูก มันชัดเจนว่าพวกเขาคงช็อคและไม่รู้ว่าต้องทำอะไรต่อ นักเตะของเราทำหน้าที่อย่างมุ่งมั่น แต่ก็ต้องรู้จักตัวเอง ไม่ทะนงตัว เราไม่ต้องการคำชื่นชมและต้องมีสมาธิจนถึงเกมสุดท้าย”
“คืนนี้เราจะฉลองกันเล็กน้อย แตวันรุ่งขึ้นก็ต้องกลับมามุ่งสมาธิอยู่กับเกมต่อไป ผมไม่กังวลเรื่องอื่นเลย เพราะนักเตะของเราเท้ายังติดดินอยู่เสมอ และไม่ปล่อยให้ชัยชนะในเกมนี้มาอยู่ในหัวอย่างแน่นอน” เลิฟ กล่าวก่อนเตรียมเจอกับผู้ชนะระหว่าง เนเธอร์แลนด์ หรือ อาร์เจนตินา เพื่อลุ้นแชมป์โลกวันที่ 13 กรกฎาคมนี้