คอลัมน์ “TIMEOUT” โดย “ชมณัฐ”
หากใครได้ติดตามหรือได้ยินข่าวคราวของวงการฟุตบอลไทยช่วงเวลานี้คงจะเอะใจว่าทำไมจึงมีหน่วยงานมากมายออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับบทลงโทษต่างๆ ไม่ซ้ำหน้ากัน ซึ่งก็เนื่องมากจากในฤดูกาล 2014 นี้ บริษัท ไทย พรีเมียร์ ลีก จำกัด หรือ “ทีพีแอล” ที่ควบคุมจัดการแข่งขันศึกฟุตบอลโตโยต้า ไทย พรีเมียร์ ลีก และ ยามาฮ่า ลีก วัน (ดิวิชั่น 1) มีการเอาจริงเอาจังพยายามที่จะยกระดับตัวเองให้เป็นมืออาชีพมากขึ้น แต่ทว่าหลายครั้งการทำงานของแต่ละฝ่ายส่วนใหญ่ยังคงทับซ้อนกันอยู่
ก่อนหน้านี้ “ทีพีแอล” ยุค ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง มีเพียงคณะกรรมการพิจารณามารยาท วินัย และข้อประท้วง ที่มีหน้าที่สรุปรายงานแมตช์คอมมิชชันเนอร์ หรือผู้ควบคุมการแข่งขันประจำสัปดาห์เพื่อลงโทษปรับและแบนผู้กระทำผิด กับ คณะกรรมการแต่งตั้งและประเมินผลผู้ตัดสินสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ที่มี “เสธ.ตุ้ม” พล.อ.ชินเสณ ทองโกมล นั่งเป็นประธานคอยจัดสรรเชิ้ตดำลงทำหน้าที่และเรียกตรวจสอบหลังจบเกมเท่านั้น
แต่ซีซันนี้ภายใต้การนำของ ดร.องอาจ ก่อสินค้า ประธานทีพีแอลป้ายแดง ได้มีการเปลี่ยนแปลงหน่วยงานแรกโดยให้ พ.ต.อ.ดร.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ที่เคยร่วมงานกับดีเอสไอมาอย่างโชกโชนเข้ามาเป็นหัวเรือคนใหม่ ซึ่งแม้ “ดร.เอ” จะไม่ได้คลุกคลีกับวงการฟุตบอลไทยมาก่อน แต่การทำงานของคณะกรรมการชุดนี้นั้นจะว่ายากก็ไม่ใช่ เพราะทุกอย่างมีกฎระเบียบลงโทษที่ตายตัวอยู่แล้วขอเพียงให้ทุกเคสมีมาตรฐานเดียวกันเท่านั้นก็พอ ซึ่ง 10 นัดแรกที่ผ่านมาสามีของ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมแข้งสาวไทย ก็สอบผ่านระดับหนึ่ง เอาจริงเอาจังจนโดนปรับกันบานตะไท ที่เหลือก็ดูว่าจะรักษาฟอร์มได้จนจบฤดูกาลหรือไม่ และหวังว่าแฟนบอลคงไม่เห็นการอุทธรณ์โทษใบเหลืองพร่ำเพรื่อให้เห็นอีก
ขณะที่คณะผู้ตัดสินของ “เสธ.ตุ้ม” นั้นไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร การบริหารจัดการยังเป็นรูปแบบเดิม นโยบายจัดตั้งเปาอาชีพที่ใช้หาเสียงก็ยังไม่เห็นผุดออกมา แต่ครานี้ “บิ๊กเปี๊ยก” ได้ตั้งคณะอนุกรรมการประเมินจริยธรรมและจรรยาบรรณของบุคลากรกีฬาและนักกีฬาอาชีพ ที่มีหัวเรือชื่อ นิโรจน์ สุนทรเลขา อดีตประธาน กมธ.กีฬา สภาผู้แทนราษฎร ขึ้นมาคานอำนาจ คอยตรวจสอบการทำหน้าที่ของนักฟุตบอลและผู้ตัดสิน โดยเน้นเรื่องการล็อกผลล้มบอลเป็นหลัก พร้อมมีทีมงานจากคณะกรรมการผู้ตัดสินและสื่อมวลชนคอยช่วยเป็นหูเป็นตา
ซึ่งเพียงแค่เริ่มงานวันแรกทั้ง 2 หน่วยงานก็ขัดขากันเองเสียแล้ว หลายครั้งที่ นิโรจน์ ออกมาให้ข่าวส่วนใหญ่เป็นการจับผิดและพาดพิงการทำหน้าที่ของตุลาการสนาม จนทำให้ “เสธ.ทหาร” ไม่พอใจถึงกับลั่นวาจาว่า “อย่าล้ำเส้น!!” และดูท่าทีแล้วทั้งคู่คงจะต้องเดินเป็นเส้นขนานกันแบบนี้ไปตลอด
นอกจากนี้ ยังมีคณะกรรมการอุทธรณ์โทษ ที่ถูกตั้งขึ้นมาใหม่สดๆ ร้อนๆ โดยมี “เสธ.ตุ้ย” พล.อ.กะสิณ ทองโกมล พี่ชายแท้ๆ ของ “เสธ.ตุ้ม” เป็นประธาน มีหน้าที่รับเรื่องร้องเรียนจากสโมสรสมาชิกหากเห็นว่าการพิจารณาโทษของคณะกรรมการพิจารณามารยาทฯไม่เป็นธรรม เรียกได้ว่าเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการตัดสินแต่ละคดีก็ว่าได้
จากนี้คงต้องจับตาดูกันอีกยาวๆ สำหรับการทำงานของทั้ง 4 หน่วยงานนี้ว่าจะลุล่วงสอดคล้องกันมากน้อยแค่ไหน จะมีการตัดสิน 2 มาตรฐานให้เห็นอีกหรือไม่ และสิ่งสำคัญที่ลืมไม่ได้คือเวลามีปัญหาอะไรที่คลุมเครือส่วนใหญ่มักจะกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่าต้องรอให้ท่าน “นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย” เป็นผู้พิจารณา จึงไม่รู้ว่าแต่ละหน่วยงานมีอิสระในการทำงานมากน้อยขนาดไหนหรือต้องรอคำสั่งจากเบื้องบนเพียงอย่างเดียว
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
หากใครได้ติดตามหรือได้ยินข่าวคราวของวงการฟุตบอลไทยช่วงเวลานี้คงจะเอะใจว่าทำไมจึงมีหน่วยงานมากมายออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับบทลงโทษต่างๆ ไม่ซ้ำหน้ากัน ซึ่งก็เนื่องมากจากในฤดูกาล 2014 นี้ บริษัท ไทย พรีเมียร์ ลีก จำกัด หรือ “ทีพีแอล” ที่ควบคุมจัดการแข่งขันศึกฟุตบอลโตโยต้า ไทย พรีเมียร์ ลีก และ ยามาฮ่า ลีก วัน (ดิวิชั่น 1) มีการเอาจริงเอาจังพยายามที่จะยกระดับตัวเองให้เป็นมืออาชีพมากขึ้น แต่ทว่าหลายครั้งการทำงานของแต่ละฝ่ายส่วนใหญ่ยังคงทับซ้อนกันอยู่
ก่อนหน้านี้ “ทีพีแอล” ยุค ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง มีเพียงคณะกรรมการพิจารณามารยาท วินัย และข้อประท้วง ที่มีหน้าที่สรุปรายงานแมตช์คอมมิชชันเนอร์ หรือผู้ควบคุมการแข่งขันประจำสัปดาห์เพื่อลงโทษปรับและแบนผู้กระทำผิด กับ คณะกรรมการแต่งตั้งและประเมินผลผู้ตัดสินสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ที่มี “เสธ.ตุ้ม” พล.อ.ชินเสณ ทองโกมล นั่งเป็นประธานคอยจัดสรรเชิ้ตดำลงทำหน้าที่และเรียกตรวจสอบหลังจบเกมเท่านั้น
แต่ซีซันนี้ภายใต้การนำของ ดร.องอาจ ก่อสินค้า ประธานทีพีแอลป้ายแดง ได้มีการเปลี่ยนแปลงหน่วยงานแรกโดยให้ พ.ต.อ.ดร.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ที่เคยร่วมงานกับดีเอสไอมาอย่างโชกโชนเข้ามาเป็นหัวเรือคนใหม่ ซึ่งแม้ “ดร.เอ” จะไม่ได้คลุกคลีกับวงการฟุตบอลไทยมาก่อน แต่การทำงานของคณะกรรมการชุดนี้นั้นจะว่ายากก็ไม่ใช่ เพราะทุกอย่างมีกฎระเบียบลงโทษที่ตายตัวอยู่แล้วขอเพียงให้ทุกเคสมีมาตรฐานเดียวกันเท่านั้นก็พอ ซึ่ง 10 นัดแรกที่ผ่านมาสามีของ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมแข้งสาวไทย ก็สอบผ่านระดับหนึ่ง เอาจริงเอาจังจนโดนปรับกันบานตะไท ที่เหลือก็ดูว่าจะรักษาฟอร์มได้จนจบฤดูกาลหรือไม่ และหวังว่าแฟนบอลคงไม่เห็นการอุทธรณ์โทษใบเหลืองพร่ำเพรื่อให้เห็นอีก
ขณะที่คณะผู้ตัดสินของ “เสธ.ตุ้ม” นั้นไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร การบริหารจัดการยังเป็นรูปแบบเดิม นโยบายจัดตั้งเปาอาชีพที่ใช้หาเสียงก็ยังไม่เห็นผุดออกมา แต่ครานี้ “บิ๊กเปี๊ยก” ได้ตั้งคณะอนุกรรมการประเมินจริยธรรมและจรรยาบรรณของบุคลากรกีฬาและนักกีฬาอาชีพ ที่มีหัวเรือชื่อ นิโรจน์ สุนทรเลขา อดีตประธาน กมธ.กีฬา สภาผู้แทนราษฎร ขึ้นมาคานอำนาจ คอยตรวจสอบการทำหน้าที่ของนักฟุตบอลและผู้ตัดสิน โดยเน้นเรื่องการล็อกผลล้มบอลเป็นหลัก พร้อมมีทีมงานจากคณะกรรมการผู้ตัดสินและสื่อมวลชนคอยช่วยเป็นหูเป็นตา
ซึ่งเพียงแค่เริ่มงานวันแรกทั้ง 2 หน่วยงานก็ขัดขากันเองเสียแล้ว หลายครั้งที่ นิโรจน์ ออกมาให้ข่าวส่วนใหญ่เป็นการจับผิดและพาดพิงการทำหน้าที่ของตุลาการสนาม จนทำให้ “เสธ.ทหาร” ไม่พอใจถึงกับลั่นวาจาว่า “อย่าล้ำเส้น!!” และดูท่าทีแล้วทั้งคู่คงจะต้องเดินเป็นเส้นขนานกันแบบนี้ไปตลอด
นอกจากนี้ ยังมีคณะกรรมการอุทธรณ์โทษ ที่ถูกตั้งขึ้นมาใหม่สดๆ ร้อนๆ โดยมี “เสธ.ตุ้ย” พล.อ.กะสิณ ทองโกมล พี่ชายแท้ๆ ของ “เสธ.ตุ้ม” เป็นประธาน มีหน้าที่รับเรื่องร้องเรียนจากสโมสรสมาชิกหากเห็นว่าการพิจารณาโทษของคณะกรรมการพิจารณามารยาทฯไม่เป็นธรรม เรียกได้ว่าเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการตัดสินแต่ละคดีก็ว่าได้
จากนี้คงต้องจับตาดูกันอีกยาวๆ สำหรับการทำงานของทั้ง 4 หน่วยงานนี้ว่าจะลุล่วงสอดคล้องกันมากน้อยแค่ไหน จะมีการตัดสิน 2 มาตรฐานให้เห็นอีกหรือไม่ และสิ่งสำคัญที่ลืมไม่ได้คือเวลามีปัญหาอะไรที่คลุมเครือส่วนใหญ่มักจะกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่าต้องรอให้ท่าน “นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย” เป็นผู้พิจารณา จึงไม่รู้ว่าแต่ละหน่วยงานมีอิสระในการทำงานมากน้อยขนาดไหนหรือต้องรอคำสั่งจากเบื้องบนเพียงอย่างเดียว
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *